สองสามสัปดาห์มานี้ คอลัมน์ตะลอนเที่ยวได้รับเสียงชื่นชมจากผู้คนจำนวนมากมาย โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้มีเมตตาต่อวัวและควาย (รวมถึงสรรพสัตว์อื่น ๆ ที่เป็นเพื่อนร่วมโลกของเรา) ซึ่งคณะของเราเพิ่งไปไถ่ชีวิตของพวกเขา (24 ชีวิต) ออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ที่เชียงราย เมื่อปลายเดือนมกราคม 2563
เมื่อเวลาผ่านไปได้เพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น วัวควายที่คณะของเราไถ่ชีวิตพวกเขาออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ได้ตกลูก ให้กำเนิดชีวิตใหม่มาแล้ว 2 ชีวิต โดยชีวิตแรกคือควายเพศผู้ เป็นควายเผือก ซึ่งเกิดมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ได้ชื่อว่า มีเงิน ส่วนชีวิตที่สองเกิดมาเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ก็เป็นควายเพศเมียเช่นกัน ได้ชื่อว่า อุ้มบุญMr. Flower ต้องขออภัยคุณผู้อ่านที่ไม่ได้นำภาพสมาชิกใหม่ล่าสุดมาให้คุณชมในสัปดาห์นี้ (เนื่องจากส่งภาพประกอบคอลัมน์ให้กับแผนกจัดหน้าของหนังสือพิมพ์ไปก่อนที่จะทราบข่าวว่ามีสมาชิกใหม่เกิด) แต่ขอสัญญาว่าในสัปดาห์หน้าจะนำภาพสมาชิกใหม่ล่าสุดมาให้คุณๆ ได้ชม และได้ชื่นใจไปพร้อมๆ กัน
แล้วก็ต้องขอเรียนแจ้งให้ทุกท่านทราบด้วยว่าในอีกไม่ช้านาน วัวควายที่คณะของเราได้มอบให้กับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนชาวนา จังหวัดเชียงราย นำไปเลี้ยงดูต่อ ก็จะตกลูกออกมาอีก 2 ชีวิต เนื่องจากคณะของเราได้ไถ่ชีวิตวัวควายที่ตั้งท้องออกมาจากโรงฆ่าสัตว์รวมทั้งหมด4 ชีวิตด้วยกัน
Mr. Flower อยากให้คุณๆ ที่ร่วมบริจาค และผู้อ่านหนังสือพิมพ์แนวหน้าได้ไปชมความเป็นอยู่ของวัวควายเหล่านี้มากที่สุด เพราะที่อยู่ใหม่ของพวกเขานั้นจัดได้ว่าสุขสบายเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่ต้องรอวันถูกฆ่าเหมือนการอยู่ที่โรงฆ่าสัตว์ พวกเขามีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ให้เดินเล่น มีหญ้าสดและมีฟางแห้งให้กิน มีโรงนอนที่ปลอดภัย มีต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา มีปลักโคลนให้ควายลงไปนอนแช่ มีหนองน้ำให้ลงไปเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ และที่สำคัญที่สุดคือมีคนที่รักพวกเขาคอยดูแลเป็นอย่างดี
ผู้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนการไถ่ชีวิตวัวควาย (ชุดล่าสุด 27 ชีวิต และชุดก่อนหน้านี้อีก 55 ชีวิต) บอกว่าทุกครั้งที่ได้รับทราบข่าวว่าวัวควายที่ไถ่ชีวิตออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ตกลูกออกมาทำให้ทุกคนยิ้มออก และรู้สึกว่าโลกนี้ยังมีความน่ารักอยู่เสมอ
ผู้ร่วมบริจาคหลายคนบอกด้วยว่า หากในอนาคตเมื่อมีทริปไปเยี่ยมวัวควายที่พวกเราร่วมกันไถ่ชีวิต จะต้องไปร่วมทริปด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งผมได้กำหนดไว้คร่าวๆ ว่า คณะของเราอาจจะจัดทริปเล็กๆ ไปเยี่ยมพวกเขาในช่วงเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ผมได้หารือกับกลุ่มผู้รับวัวควายไปเลี้ยงเป็นการเบื้องต้นแล้ว กลุ่มผู้รับเลี้ยงทุกคนบอกว่ายินดีต้อนรับด้วยความเต็มใจยิ่ง และอยากขอเชิญให้คณะของพวกเราไปนอนพักที่บ้านของผู้รับเลี้ยงด้วย แต่ผมได้เรียนแจ้งไปว่า คณะของผู้มอบวัวควายคงไม่รบกวนเรื่องที่พัก เพราะความเกรงใจ และไม่ต้องการสร้างภาระให้กับผู้รับเลี้ยงวัวควายแต่ก็ได้กล่าวขอบคุณในน้ำใจไมตรีที่ได้มอบให้กับคณะของเรา
นอกจาก Mr. Flower และหนังสือพิมพ์แนวหน้าจะได้เสียงชื่นชมจากคุณผู้อ่านที่ติดตามและสนับสนุนโครงการไถ่ชีวิตวัวควายจากโรงฆ่าสัตว์แล้ว ยังได้รับการติดต่อจากผู้คนอีกมากมายที่มีความประสงค์จะขอรับสัตว์ไปเลี้ยง ซึ่งจากการพูดคุยกันเบื้องต้นว่า ผู้ที่ต้องการได้รับวัวควายไปเลี้ยงดูต้องทำสัญญาอันมีผลผูกพันตามกฎหมาย และต้องทำตามสัญญาโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องไม่ขายต่อวัวควายที่ได้รับไปเป็นอันขาด และต้องไม่ฆ่าพวกเขาด้วย ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนคำถามยอดนิยมที่ผู้ต้องการจะรับวัวควายไปเลี้ยงถามกันมากคือ หากวัวควายที่ได้รับไปเลี้ยงดูตกลูกแล้ว จะสามารถขายลูกต่อให้ผู้อื่นได้หรือไม่ คำตอบก็คือไม่ได้ เพราะต้องขายให้กับผู้มอบสัตว์ให้เท่านั้น
มีบางคนถามต่อว่า แล้วผู้มอบจะรู้ได้อย่างไรว่าวัวควายมีความเป็นอยู่อย่างไร เพราะเราอยู่ห่างกันไกลมาก คำตอบคือ ผู้มอบมีกรรมวิธีต่างๆ ที่จะเข้าไปตรวจสอบว่าผู้รับเลี้ยงสัตว์ดูแลสัตว์ด้วยความตั้งใจดีหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญที่Mr. Flower ได้ถามกับผู้ที่มีความต้องการจะขอรับสัตว์ไปเลี้ยงดูต่อคือ คุณมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่ไหมว่าคุณมีความเมตตาต่อสัตว์อย่างแท้จริงหากคุณเมตตาต่อเขา คุณจะดูแลเขาเป็นอย่างดีแต่หากคุณคิดว่าสัตว์ที่พวกเรามอบให้คุณไปเลี้ยงดูเป็นของฟรี และคิดว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องดูแลเลี้ยงดูพวกเขาเป็นอย่างดี ถ้าหากคิดเช่นนี้ก็เท่ากับคิดผิดตั้งแต่แรกแล้ว เพราะวัวควายที่พวกเรามอบให้พวกคุณนำไปเลี้ยงดูนั้น ไม่ใช่ของฟรีเพราะทุกชีวิตถูกไถ่ออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ด้วยการร่วมบริจาคเงินของผู้มีจิตเมตตาทุกคน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ใช่ของฟรี และก็มีหลายรายที่ถามว่าทำไมต้องทำสัญญาด้วย คำตอบที่ได้รับคือ เพราะสัญญาจะเป็นเครื่องผูกมัดผู้รับวัวควายไปเลี้ยงดูต่อว่าเป็นผู้ที่ยึดมั่นในสัญญาหรือไม่ เพราะหากทำผิดสัญญาก็หมายความว่าจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขอเรียนแจ้ง ณ ที่นี้อีกครั้งว่า โครงการไถ่ชีวิตวัวควายจากโรงฆ่าสัตว์เพื่อมอบให้เกษตรกรและผู้เหมาะสมรับไปเลี้ยงดูต่อจนกว่าวัวควายจะถึงแก่อายุขัยตามธรรมชาติ ซึ่งโครงการนี้จัดทำโดยหนังสือพิมพ์แนวหน้ายังคงดำเนินโครงการต่อไป และจะเรียนแจ้งความคืบหน้าของโครงการให้คุณได้ทราบโดยผ่านหนังพิมพ์แนวหน้าเท่านั้น หากมีผู้อื่นขอรับบริจาคโดยแอบอ้างชื่อหนังสือพิมพ์แนวหน้า ขอให้คุณโปรดอย่างหลงเชื่อ ทั้งนี้คุณสามารถสอบถามรายละเอียดของโครงการนี้ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 091-7233615 เพียงหมายเลขเดียวเท่านั้น
ขอกราบอนุโมทนาบุญกับผู้อ่านแนวหน้าทุกท่าน และผู้ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ทุกท่านด้วยครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี