ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘โบราณคดีสบแจ่ม’  ภูมิสถานชุมชนโบราณ๑,๐๐๐ปี

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘โบราณคดีสบแจ่ม’ ภูมิสถานชุมชนโบราณ๑,๐๐๐ปี

วันอาทิตย์ ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.

บริเวณโบราณสถานกลุ่มสบแจ่ม

การสำรวจและขุดค้นแหล่งโบราณคดีนั้นทำให้พบหลักฐานใหม่ที่น่าสนใจอยู่เสมอ หากไม่มีความสนใจใคร่รู้กันแล้ว ก็จะไม่รู้เลยว่าสำนักโบราณคดีกรมศิลปากร ในแต่ละแห่งทั่วประเทศนั้นมีภารกิจในการสำรวจขุดแต่งและบูรณะโบราณสถาน ที่ต้องใช้เวลาแรมปีด้วยงบประมาณที่จำกัดจนไม่ทันการรักษาดูแลนั้น กว่าจะปรากฏให้เห็นผลงานก็นานจนลืมอาทิตย์นี้ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ได้ชวนให้ติดตามผลงานของสำนักศิลปากรที่ ๗ จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยมีการสำรวจและขุดแต่งโบราณสถานกลุ่มใหญ่ที่บ้านสบแจ่ม ซึ่งพบร่องรอยของศิลปกรรมแบบสุโขทัยเกิดขึ้นในดินแดนล้านนา กล่าวคือเมื่อปีพ.ศ.๒๕๖๑ นั้นมีโครงการขุดแต่งและอนุรักษ์โบราณสถานวัดพระเจ้าดำ (ร้าง) บ้านสบแจ่มฝั่งขวา ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นวัดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในพื้นที่ดังกล่าว ผลจากการขุดแต่งทางโบราณคดีพบสิ่งก่อสร้างสำคัญคือเจดีย์ประธาน ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัย รากฐานของวิหารประธาน วิหารหลังรองและอุโบสถพร้อมอาคารโถงที่เป็นศาลา และแนวกำแพงก่ออิฐยังมีเสาทรงกลมและซุ้มประตูทางเข้า ๓ ด้าน โดยด้านหน้านั้นเดิมเป็นแนวกำแพงและประตูอยู่ด้านหน้า ต่อมาน้ำเซาะตลิ่งลึกเข้ามาจนล้มลงแม่น้ำปิง ครั้นเมื่อได้สำรวจบริเวณใกล้เคียงพบว่ามีวัดเก่าที่ถูกทิ้งร้างตามริมแม่น้ำอีกหลายวัด เช่น วัดปล่อง วัดป่าจี้วัดพระเจ้าดำ วัดช้างค้ำ วัดม่วง วัดป่าแดง วัดขมิ้นวัดสบแจ่มเก่า พระธาตุจามเทวี แหล่งถลุงเหล็กและโบราณสถานสันกู่ เป็นต้น


เจดีย์ช้างค้ำ

บริเวณกลุ่มโบราณสถานบ้านสบแจ่มทั้งหมดนี้ ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่น่าสนใจมาก คือ วัดพระเจ้าดำนั้น มีเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์และแนวกำแพงซึ่งก่อเสากลมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของงานศิลปกรรมในกลุ่มรัฐสุโขทัย เหมือนกับโบราณสถานหลายแห่ง เช่น วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเมืองเชลียง และวัดใหญ่ชัยมงคล เมืองบางขลัง จากการวิเคราะห์เบื้องต้นจากลักษณะศิลปกรรมร่วมกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ สามารถสันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้ น่าจะมีอายุการสร้างและช่วงการใช้งานอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑อายุประมาณ ๕๐๐-๖๐๐ ปีมาแล้ว สอดคล้องกับช่วงทีพญากือนา นิมนต์พระสุมนเถระจากเมืองสุโขทัยมาเผยแผ่พระพุทธศาสนายังเมืองเชียงใหม่ในปีพ.ศ.๑๙๑๒ วัดพระเจ้าดำแห่งนี้จึงเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์ด้านศาสนาระหว่างล้านนาและสุโขทัย ซึ่งปรากฏว่ามีโบราณสถานในแห่งอื่น เช่น วัดม่วง (ร้าง) เป็นโบราณสถานที่มีขนาดใหญ่และครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดในกลุ่มโบราณสถานสบแจ่ม จากการศึกษาพบว่าบริเวณสบแจ่มแห่งนี้น่าจะเป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณที่มีอายุก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑๕ คือไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ ปี ต่อมาได้เติบโตเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีเส้นติดต่อทางการค้า หลังพุทธศตวรรษที่ ๑๙ หรือช่วงสมัยราชวงศ์มังราย ครองแผ่นดินล้านนาเมื่อ ๗๐๐ ปีมาแล้ว โดยพบสิ่งก่อสร้างที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์อยู่หลายแห่งซึ่งมี วิหาร เจดีย์ และกำแพงแก้ว ซึ่งนักโบราณคดีกำลังเร่งดำเนินการขุดแต่งอยู่ โบราณสถานที่พบในกลุ่มนี้ มีวัดช้างค้ำพบเป็นเจดีย์ทรงระฆังมีช้างค้ำอยู่สี่มุมเป็นช้างปูนปั้นยืนครึ่งตัวแบบสุโขทัย วัดป่าแดง พบเจดีย์ทรงระฆังที่ทำส่วนรองรับองค์ระฆังเป็นชั้นบัวถลาในผังกลมแบบสุโขทัยนั้น มาผสมกันโดยทำส่วนรองรับองค์ระฆังที่เป็นชั้นบัวถลาในผังแปดแหลี่ยมแบบล้านนาที่นิยมในพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ทำให้รู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ล้านนากับราชวงศ์พระร่วงสุโขทัยนั้นสนิทแน่นแฟ้นกันมาแต่ปางบรรพ์

เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์
เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์
ร่องรอยเสากลมวัดพระเจ้าดำ
ร่องรอยเสากลมวัดพระเจ้าดำ
ประตูวัดพระเจ้าดำ
ประตูวัดพระเจ้าดำ
เจดีย์วัดม่วง
เจดีย์วัดม่วง
เจดีย์ช้างล้อม
เจดีย์ช้างล้อม
เจดีย์ช้างค้ำ
เจดีย์ช้างค้ำ
ปูนปั้นขาช้าง
ปูนปั้นขาช้าง
เจดีย์วัดป่าแดง
เจดีย์วัดป่าแดง
ปูนปั้นรูปช้าง
ปูนปั้นรูปช้าง
แม่น้ำปิงที่แห้งแล้ง
แม่น้ำปิงที่แห้งแล้ง
นักโบราณคดีกับคณะตามรอยล้านนา
นักโบราณคดีกับคณะตามรอยล้านนา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top