กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศว่า ประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูหนาวแล้ว และได้เริ่มต้นเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ. โดยบริเวณประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นเกือบทั่วไป และมีอากาศร้อนในตอนกลางวันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ความร้อนและแสงแดดแรงๆ อาจทำให้เราเหนื่อยเพลียง่าย แถมยังพ่วงท้ายด้วยโรคภัยไข้เจ็บอีกหลายชนิดด้วย ข้อมูลจาก ผศ.นพ.เอกวีร์ ศรีปริวุฒิ อายุรแพทย์เปิดเผยว่า เพราะเชื้อโรคบางชนิดจะเติบโตได้ดีในที่ ที่มีอุณหภูมิสูง รวมถึงพิษภัยที่เกิดจากความร้อนอีกมากมาย เราจึงควรใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง ก่อนโรคที่มักแอบแฝงมากับฤดูร้อนจะจู่โจมสุขภาพกัน
โรคติดต่อทางน้ำและอาหาร
โรคทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยและมักเกิดขึ้นง่ายมากในหน้าร้อนก็คือ โรคอุจจาระร่วง ซึ่งเกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส โปรโตซัว และหนอนพยาธิ สามารถติดต่อได้โดยการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาดหรือมีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป ทำให้ถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายอุจจาระเป็นมูกปนเลือด บางรายอาจมีอาการอาเจียนหรือปวดท้องรุนแรง นอกจากนี้หากเรารับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคหรือสารพิษของแบคทีเรีย (Toxin) ปนเปื้อนอยู่ในอาหารต่างๆ ได้ เช่น น้ำดื่ม เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์จากนม ผักและผลไม้ ฯลฯ รวมถึงการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารที่ทำไว้ล่วงหน้านานๆ แล้วไม่ได้แช่เย็น อาหารค้างคืนที่ไม่อุ่นให้ร้อนก่อนรับประทาน ดื่มน้ำไม่สะอาด ฯลฯ เมื่อร่างกายได้รับเชื้อโรคต่างๆ เหล่านั้นเข้าไป จะเกิดการอักเสบที่กระเพาะอาหารและลำไส้ จนรู้สึกปั่นป่วนท้องอยากถ่าย ซึ่งไม่ใช่แค่ท้องเสียแบบทั่วไปเท่านั้น หากแต่เป็นอาการของ โรคอาหารเป็นพิษ ที่ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำและปวดท้องในลักษณะบิดเป็นพักๆ บางครั้งอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นต้น ส่วนจะปรากฏอาการได้เร็วหรือช้าขึ้นกับชนิดและปริมาณของเชื้อหรือสารพิษที่เราได้รับเข้าไป
เตรียมพร้อมรับมือ
โรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษมีสาเหตุเกิดจากการรับประทานอาหารและดื่มน้ำไม่สะอาดตามที่กล่าวไปแล้ว ดังนั้นเราจึงควรป้องกันตัวเองโดยการปรับพฤติกรรมเกี่ยวกับการรับประทานอาหารให้ดีขึ้น เช่น รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทดิบๆ สุกๆ อาหารหมักดองและไม่รับประทานอาหารที่มีแมลงวันตอม รวมถึงดื่มน้ำที่สะอาด หรือน้ำต้มสุก หรือน้ำบรรจุขวดที่ได้รับการรับรองจาก อย. ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกัน ล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ทั้งนี้ในเบื้องต้นหากมีอาการไม่มากให้ดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทนน้ำในร่างกายส่วนที่เสียไป แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์
ฮีทสโตรก (Heat stroke) หรือโรคลมแดด
โรคนี้เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไปและไม่สามารถระบายออกได้ จนอุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ส่วนใหญ่มักจะเกิดในผู้ที่อยู่กลางแดดร้อนเป็นเวลานาน หรือออกกำลังกายอย่างหนัก โดยอาการจะเริ่มจากน้อยๆ แล้วค่อยรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ไม่มีเหงื่อออก แม้อากาศจะร้อน หน้าแดง ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน เกร็งกล้ามเนื้อ ชัก มึนงง เมื่อเป็นมากๆ จะช็อก หมดสติ หากไม่รีบทำการรักษา อาจเสียชีวิตได้
เตรียมพร้อมรับมือ
เมื่อร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน จนเกิดการเสียเหงื่อฉับพลัน ควรหยุดทำงาน หรือหยุดออกกำลังกายทันที แล้วนั่งพัก ดื่มน้ำเปล่ามากๆ และใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอหมาดเช็ดตัวเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย ทั้งนี้ในช่วงที่อากาศร้อนจัดแนะนำให้สวมใส่เสื้อผ้าหลวมและเนื้อบางเบา ควรกางร่มและอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเท พร้อมดื่มน้ำให้มากขึ้นให้มากกว่าวันละ 6-8แก้ว หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรืออยู่กลางแดดในขณะที่อากาศร้อนจัด
โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ
จริงๆ แล้วเชื้อพิษสุนัขบ้าจะพบในสัตว์โดยเฉพาะสุนัขและแมวได้เสมอไม่ว่าฤดูไหน แต่มักระบาดในช่วงหน้าร้อน เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส สามารถติดต่อเข้าสู่คนได้ทางบาดแผลที่ถูกสัตว์ที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีแผลถลอก รวมถึงน้ำลายสัตว์ที่มีเชื้อกระเด็นเข้าตา ปาก จมูกปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาดได้ หากเป็นแล้วจะเสียชีวิตทุกราย
เตรียมพร้อมรับมือ
เมื่อถูกสุนัข หรือแมวกัดให้รีบล้างแผลด้วยสบู่หรือน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง เช็ดให้แห้ง แล้วใส่ยารักษาแผลสดแล้วรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันขณะเดียวกันให้กักสัตว์นั้นไว้ เพื่อสังเกตอาการว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ สำหรับผู้ที่เลี้ยงสุนัขหรือแมวควรนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคปีละ 1 ครั้ง และไม่คลุกคลีกับสุนัขและแมวจรจัดที่ไม่มีเจ้าของ
โรคผิวหนัง
สภาพอากาศที่ร้อนชื้น มีเหงื่อออกมากและไม่รักษาความสะอาด เสี่ยงที่จะเกิดโรคผิวหนังได้ง่าย สาเหตุมักเกิดขึ้นจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ผิวหนังและรูขุมขนอักเสบ มีแผลเป็นตุ่มหนอง มีเชื้อราตามจุดอับชื้นต่างๆ ทำให้เกิดโรคกลาก เกลื้อนได้ นอกจากนี้รังสี UV ในแสงแดด ยังสามารถทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดด หรือ Sun Burn ได้เช่นกัน เมื่อผิวไหม้แดด ผิวหนังของคุณจะบวม แดง ร้อน คัน ปวดแสบปวดร้อน
เตรียมพร้อมรับมือ
เราสามารถป้องกันการเกิดโรคผิวหนังด้วยการรักษาความสะอาดร่างกาย ด้วยการอาบน้ำเป็นประจำและเช็ดตัวให้แห้งโดยเฉพาะขาหนีบ รักแร้ อาจใช้แป้งโรยตัวเพื่อให้ผิวหนังแห้งและลดความเสี่ยงการติดเชื้อรา รวมถึงไม่ใส่เสื้อผ้าที่หนาจนเกินไป ส่วนอาการผิวไหม้แดดควรหลีกเลี่ยงการออกไปอยู่กลางแดดจัดทาครีมกันแดด และครีมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังเพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิวหนังอยู่เสมอ
เมื่อรู้เท่าทันและรู้จักวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคภัยในฤดูร้อนกันแล้ว คุณก็จะไม่เครียดและสามารถใช้ชีวิตในฤดูร้อนได้อย่างสุขกายสบายใจ
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี