23 มีนาคม 2563 นางสาวอุษณี กังวารจิตต์ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เปิดเผยถึงประเด็นข้อห่วงใยและข้อควรปฏิบัติไปยังครอบครัวไทยเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ Covid-19ซึ่งกลุ่มคนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือสมาชิกในครอบครัวทุกคน
นางสาวอุษณี กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19รัฐบาลได้กำหนดมาตรการลดการแพร่ระบาดรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพิจารณาการดำเนินการในด้านต่าง ๆ 6 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสาธารณสุข 2) ด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน
3) ด้านข้อมูล การชี้แจงและการรับเรื่องร้องเรียน 4) ด้านการต่างประเทศ 5) ด้านมาตรการป้องกัน6) ด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยาทั้งนี้ พม. มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง 4 มาตรการ ตามข้อ 1) 2) 5) และ 6) ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับมาตรการป้องกัน เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ
สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Covid-19แล้ว และผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่ต้องเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน อยู่ที่บ้าน ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือสมาชิกในครอบครัว เพราะความเจ็บป่วยของสมาชิกในบ้านย่อมส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของสมาชิกในครอบครัวโดยตรง ทั้งความเครียดทางจิตใจ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพเพื่อให้สอดคล้องกับการควบคุมโรค การรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ และหากสถานการณ์การระบาดของโรคยังดำเนินต่อไปอีกเรื่อยๆ จะส่งผลต่อภาวะทางเศรษฐกิจที่จะส่งผลกระทบกับหลายครอบครัวแน่นอน
ดังนั้น ในภาวะเช่นนี้ ทุกครอบครัวต้องตั้งสติ เตรียมพร้อมรับมือกับสถานกา รณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างสม่ำเสมอและรู้เท่าทัน ใช้ความรักความเข้าใจของครอบครัวดูแลเอื้ออาทรกัน
นางสาวอุษณี กล่าวต่อไปว่า สค. ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง ได้เล็งเห็นว่าการระบาดของโรคจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวไทยทั้ง 2 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1ครอบครัวที่อยู่ในภาวะปกติ ไม่มีสมาชิกที่ติดเชื้อหรือเป็นกลุ่มเสี่ยง ขอให้นำคำแนะนำและข้อปฏิบัติด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขมาใช้อย่างเคร่งครัด และมีข้อแนะนำ ดังนี้ 1)) ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกกับสถานการณ์การระบาดของ Covid-19เกินไป 2) ตระหนักในการดูแลป้องกันตัวเอง 3)สอนสมาชิกครอบครัวให้ใส่หน้ากากป้องกัน ทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน พกเจลหรือล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่ รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ งดใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น 4) ดูแลทำความสะอาดบ้าน เปิดให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก 5) ไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงหรือที่มีคนจำนวนมาก 6) งดงานสังสรรค์ ที่มีผู้คนจำนวนมาก 7) รักษาระยะห่าง เวลาคุยกับคนอื่นให้คุยห่างกัน 1.5-2 เมตร 8)ควรมีการดูแลสมาชิกที่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก หรือคนที่มีโรคประจำตัว เป็นพิเศษ 9) หากสมาชิกมีไข้ให้แยกตัวและของใช้จากสมาชิกคนอื่น 10) ติดตามข่าวสาวและข้อปฏิบัติจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นระยะ 11) หากพบสมาชิกมีไข้ขึ้นสูงเกิน 37.5 องศาให้รีบพาไปพบแพทย์ 12) หมั่นสังเกตอาการผิดปกติด้านสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ 13)) กรณีที่สมาชิกในครอบครัวจำเป็นต้องออกไปข้างนอก เมื่อกลับเข้าบ้านควรล้างมือและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน 14)พ่อแม่ควรทำตัวเป็นแบบอย่างให้สมาชิกในครอบครัวด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รับผิดชอบต่อครอบครัวและสังคม โดยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ควบคู่การสร้างวินัยให้กับทุกคนในบ้านให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเมื่อออกจากบ้านทุกครั้ง
นอกจากนี้ การปฏิบัติตามข้อแนะนำดังกล่าว ยังช่วยให้สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพและสร้างสรรได้ เช่นการทำความสะอาดบ้านให้ถูกสุขอนามัย สมาชิกในครอบครัวได้มีโอกาสใกล้กันมากขึ้น มีโอกาสได้พูดคุยหารือให้คำแนะนำการรับข่าวสารต่างๆ การป้องกันตนเองจากโรค หรือวางแผนสิ่งต่างๆ ร่วมกัน เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 ครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อหรือผู้ที่ต้องเฝ้าระวัง นั่นคือ ครอบครัวที่มีผู้ป่วย Covid-19หรือครอบครัวที่มีสมาชิกที่ต้องเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1) หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 2)หยุดเรียนหรือทำงาน รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่บ้าน และอยู่ห่างจากผู้อื่น 1-2 เมตร 3)ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชูทุกครั้งที่ไอ จาม หากไม่มีกระดาษทิชชู ให้ใช้ต้นแขนด้านใน หรือข้อศอกตัวเองแทน สิ่งสำคัญคือ ห้ามไอ จาม ใส่ฝ่ามือตัวเอง4)ห้ามกินอาหารและใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น รวมถึงควรแยกของใช้ส่วนตัว ไม่ใช่ร่วมกับอื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว หมอน ผ้าห่ม แก้วน้ำ เป็นต้น 5)แยกห้องนอน 6) ทำความสะอาดที่พักและของใช้ 7) ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ 8) แยกขยะติดเชื้อ ทิ้งหน้ากากอนามัย หรือกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้วให้ถูกวิธี นั่นคือการทิ้งในถุงพลาสติก ปิดถุงให้สนิท มิดชิดก่อนทิ้งลงถังขยะที่ปิดมิดชิด และล้างมือด้วยสบู่และน้ำนานราว 15-20 วินาที หรือแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไปทันที นอกจากนี้ ผู้ป่วยต้องสังเกตอาการของตัวเอง โดยการวัดอุณภูมิร่างกายทุกวัน ซึ่งควรจดบันทึกไว้เป็นประจำทุกวันด้วย หากมีไข้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ และหายใจเหนื่อยหอบ หรือมีอาการป่วยอย่างใดอย่างหนึ่งจากที่กล่าวมานั้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับผู้ที่ต้องเฝ้าระวัง ควรล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในบ้านและรักษาระยะอยู่ห่างกันราว 1-2 เมตร หากต้องการที่จะกินอาหารร่วมกัน ควรจะแยกชุดอาหาร และนั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ทำความสะอาดที่พักและบริเวณต่างๆ อยู่เสมอ และต้องสังเกตอาการตัวเองด้วย ข้อปฏิบัติเหล่านี้ทุกคนในครอบครัวต้องให้ความร่วมมือและดูแลกันอย่างเคร่งครัด
นางสาวอุษณี กล่าวต่อไปว่า จากการระบาดของโรคซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพชีวิตและเศรษฐกิจโดยรวม หลายสถานประกอบการปิดตัวลง แรงงานบางส่วนกลับสู่ภูมิลำเนาต่างจังหวัด พม. ได้มีนโยบายให้เตรียมแผนรองรับด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพในระยะสั้น สค. โดยศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว ทั้ง 8 แห่ง ทั่วประเทศ นอกจากการร่วมผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนแล้ว ยังได้ปรับหลักสูตรการฝึกทักษะอาชีพ ให้เป็นระยะสั้นเพิ่มมากขึ้น มีการจัดทำหลักสูตรการฝึกอาชีพออนไลน์เพื่อเพิ่มทางเลือกในการฝึกอาชีพ และลดโอกาสการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมาก ที่สำคัญคือเป็นการสร้างโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้ ฝึกทักษะอาชีพด้วยเวลาไม่นานและใช้เป็นทางเลือกในการหารายได้ เลี้ยงดูครอบครัว หรือใช้สร้างเป็นอาชีพใหม่ได้
“ในช่วงเวลาที่วิกฤตินี้ หลายครอบครัวอาจประสบกับความตึงเครียด ดังนั้นต้องบริหารจัดการเวลาและความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดี สค. ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัว ใช้ความรักความเข้าใจของครอบครัวเป็นพลังให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” นางสาวอุษณี กล่าวในตอนท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี