วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
หนังสือเด่น : ถอดรหัส นักประพันธ์จีน ‘เกิงซิน’  จากนิยาย ‘เจาะเวลาหาโจโฉ’

หนังสือเด่น : ถอดรหัส นักประพันธ์จีน ‘เกิงซิน’ จากนิยาย ‘เจาะเวลาหาโจโฉ’

วันอาทิตย์ ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : หนังสือเด่น
  •  

วรรณกรรมสัปดาห์นี้ขอถือเป็นโอกาสพิเศษ ที่ต้องต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 เพราะไม่ว่าจะเดินไปดูหนังสือที่ร้านใด ทุกแห่งปิดทำการทั้งนั้น ทำให้ไม่มีข่าวของหนังสือใหม่ที่จะนำเอามาเสนอผมเลยจับเอานิยายเรื่อง “เจาะเวลาหาโจโฉ” ที่ติดตามอ่านมาจนถึงเล่มที่ 9 มาเขียนวิเคราะห์วิจารณ์ให้นักอ่านที่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้แล้ว หรือบางคนยังไม่ได้อ่านจะได้รับรู้ถึงแนวทางและอาจจะเป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังของนักประพันธ์ว่าเขามีเป้าหมายในการเขียนไว้อย่างไร ซึ่งเราจะมองเห็นได้จากผลงานของเขาที่นำเสนอไว้ในเล่ม แต่ว่า “ต้องมองให้ลึกกว่าธรรมดาหน่อยนะครับ”

การมองถึงตัวตนของนักประพันธ์ที่มีเป้าหมาย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เขียน หรือเป็นสิ่งเร้ากระตุ้นให้นักอ่านติดอกติดใจ ใครที่เคยเรียนในระดับอุดมศึกษา ของภาควิชาวรรณคดี คงจะซาบซึ้งได้ดีว่า กว่าจะเจาะให้เข้าไปถึงเจตนารมณ์ของนักประพันธ์ที่เขาไม่ได้เปิดเผยไว้ให้ทราบอย่างเป็นทางการ เราจะต้องอ่านแล้ววิเคราะห์ตีความด้วยเหตุและผลจากผลงานของเขา แล้วจึงนำมาประเมิน เพื่อจะได้เห็นถึงเจตนารมณ์ของเขา แบบเหมือนกับเอาเมล็ดพันธ์ุของต้นพริกมาปลูกก็เพื่อหวังว่าวันข้างหน้าเราต้องได้เห็นเม็ดพริกนั่นเอง


“เจาะเวลาหาโจโฉ” เป็นงานเขียนของ “เกิงซิน” ซึ่งน่าจะมีอายุในระดับคนหนุ่ม ที่ยังไม่น่าจะเข้าสู่สภาวะของผู้สูงวัย ประเมินได้จากนักเขียนผู้นี้เพิ่งจะมีผลงานเป็นที่รู้จักของนักอ่านจากงานเขียนที่เขานำลงทางออนไลน์ ของเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงของจีนในเวลานี้

อย่างที่บอกเอาไว้แต่แรกแล้วว่า นิยายเรื่องนี้ออกมาวางตลาดถึงเล่มที่ 9 แล้ว แต่ในการวิเคราะห์วิจารณ์ในครั้งนี้ ผมจะเอาเหตุและผลมาจากเพียงแค่เล่มที่ 1 เล่มเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่าในเล่มแรกนี้ เราก็ได้เห็น และได้รู้จักตัวตนของเขาไม่น้อย ทำให้ทราบว่า เขาแฝงกลยุทธ์ที่หลอกล่อให้คนอ่านต้องติดตามอ่านเขาต่อไปในเล่มหลังๆจนกว่าจะจบเรื่อง

สรุปเฉพาะเล่มที่หนึ่งเล่มเดียวเราสามารถทำเป็นรายงานส่งให้อาจารย์ ได้ในหลายมุมมองคือหนึ่งเจตนารมณ์หรือแรงบันดาลใจของผู้ประพันธ์ สอง การสร้างสิ่งเร้าให้คนติดตาม สาม กลยุทธ์ความขัดแย้งให้เกิดแรงกระตุ้นที่จะพิสูจน์ต่อไปและอื่นๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ประการแรก ตัวตนของผู้ประพันธ์ สิ่งที่เห็นเด่นชัดก็คือ เขาสนใจงานด้านประวัติศาสตร์ ด้วยการสร้าง ตัวละครเอกของเรื่องให้เป็นผู้คลุกคลีอยู่กับแวดวงประวัติศาสตร์

“(ตัวอย่าง หน้า 23 ย่อหน้าที่ 5) เมื่อชาติปางก่อนของเล่าฉ่วง เป็นเจ้าหน้าที่กองเอกสารประวัติศาสตร์ ทุกวันสัมผัสกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ถึงแม้ไปไม่นับเป็นผู้เชี่ยวชาญอันใด แต่ก็คุ้นชินกับปีศักราชเกี๋ยนอัน นี้ ก่อนที่จะเกิดเรื่องกับเพื่อนรัก เขาเตรียมเขียนบทความว่าด้วยท่วงทำนองในศักราชเกี๋ยนอัน เพราะเหตุนี้ทำการตรวจค้นข้อมูลมาก่อน จึงคุ้นเคยกับคำเกี๋ยนอันเป็นอย่างดี”

ประโยคที่ยกมาให้เห็นนี้เป็นเรื่องราวของตัวเอกในเรื่องคือเล่าฉ่วง ได้ถูกประหารชีวิตจากคดีฆ่าคนตาย แต่พอเขาไปถึงนรกดวงวิญญาณกลับหนีจากนรกออกมาได้ และกลับมาเข้าร่างของชายที่ชื่อเดียวกันแต่เป็นคนละยุคคนละสมัยห่างกันเป็นร้อยปีคือกลับมาเกิดในยุคสามก๊กนั่นเอง

วิธีการเขียนเรื่องแบบข้ามภพข้ามชาติในเรื่องนี้หากมองในด้านความนิยมของนักอ่านนิยายแนวจินตนาการ มีเหตุผลอ้างอิงได้ว่า “เกิงซิน” คงไม่ต้องการขายไอเดียนี้อย่างจริงจัง เพราะในเนื้อหาเขาจะไม่เขียนรายละเอียดในการหนีออกมาจากนรกแต่อย่างไรเลย แต่จะบอกเอาไว้เพียงเท่านี้

“(หน้า 18 ย่อหน้าที่ 3) เล่าฉ่วงหลังจากล้างแค้นสมใจ ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใดเพียงเซ่นไหว้ครอบครัวเพื่อนรัก จากนั้นเดินทางไปมอบตัวสู้คดี....ศาลตัดสินประหารชีวิตตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต เล่าฉ่วงก็ไม่ได้ ยื่นอุทธรณ์...หลังจากผ่านชีวิตช่วงสุดท้ายในเรือนจำสามสิบวัน เล่าฉ่วงเผชิญกับเสียงปืนหนึ่งนัด...”

แค่นี้เองคือฉากการตายของเล่าฉ่วง จากนั้นก็มาเปิดฉากใหม่ในเรือนจำที่เขามาสวมวิญญาณเป็นเล่าฉ่วงในสมัยสามก๊กเลย นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้ประพันธ์ไม่ได้ขายเรื่องการข้ามภพข้ามชาติมาเป็นประเด็นหลัก แต่น่าจะประเมินได้ว่าการที่เขาจำเป็นต้องให้มีการนำเอาคนยุคใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคนยุคเก่าในประวัติศาสตร์ มันน่าจะอยู่ที่เจตนารมณ์เพื่อให้เกิดการขัดแย้งหรือเกิดการย้อนแย้งของคนยุคใหม่กับคนในประวิติศาสตร์มากกว่า นั่นคือการมองภาพที่ขัดความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ซึ่งหากเขาทำได้สำเร็จ เขาจะได้แฟนคนอ่านที่มีความคิดย้อนแย้งมาติดตามอ่านมากมาย ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ว่าเขาคิดลึกไปถึงระดับนั้น เพราะจากตัวเอกที่ยกมาให้เห็นกันข้างต้นเราสังเกตให้ดีจะเห็นว่าลีลาการเขียนของเขาละเอียดไม่น้อยทีเดียวที่แทรกบทตลกร้ายเข้าในประโยคทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น นั่นคือประโยคว่าศาลตัดสินประหารชีวิตและตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต(ฮ่าฮ่าฮ่า)

ทีนี้เราลองมาดูกลยุทธ์ในการสร้างความขัดแย้งหรือย้อนแย้งกันทางความคิดหรือความเชื่อที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ นั่นคือ ความเชื่อที่เข้าใจกันว่าโจโฉ คือตัวผู้ร้ายในตำนาน โดยมี เล่าปี่ ขงเบ้ง คือพระเอกของเรื่อง ทุกอย่าง กำลังถูกปูพื้นให้เกิดการย้อนแย้งทางความคิดและความเชื่อ

“(ตัวอย่าง หน้า 221 ย่อหน้าที่ 8) การเข้าร่วมกับเล่าปี่เป็นทางเลือกที่ดีจริงหรือ? เล่าปี่ผู้นี้แม้ใจกว้าง แต่ก็ต้องอยู่ที่บุคคล ดูจากสภาพอันลำพองของเตียวหุย เล่าฉ่วงเริ่มเคลือบแคลงสงสัยขึ้นมา”

จากการปูพื้นในท้ายของเล่มที่ 1 ที่สร้างความย้อนแย้งในความคิดกับเล่าฉ่วง คือการสร้างปมใหม่ให้เกิดกับนักประวัติศาสตร์ ซึ่งในงานเขียนหากมีเหตุผลมีตรรกะที่น่าเชื่อถือทำให้คนอ่านคล้อยตามได้ ความสำเร็จของนักเขียนผู้นั้นมิใช่จะเป็นแค่นักเขียนที่มีจินตนาการล้ำยุคเท่านั้น แต่บางทีเขาอาจจะกลายเป็นผู้พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ได้ทีเดียว และนี่คือคำตอบว่าทำไมเกิงซิน ต้องให้ตัวเอกมาจากยุคปัจจุบัน เพราะจะได้มาสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น และอีกประการหนึ่งที่มองเห็นถึงความละเอียดของนักเขียนผู้นี้อีกอย่างก็คือ เขาจะเก็บงำความกระจ่างเอาไว้โดยไม่สร้างความมั่นใจให้คนอ่านเข้าใจว่าเล่าฉ่วง จะต้องล่วงรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดก่อนอย่างละเอียด แต่จะให้เข้าใจเพียงว่า เล่าฉ่วงเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ในกองประวัติศาสตร์ เท่านั้นเอง ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่รู้ไปทุกอย่าง การสร้างปมประเด็นแบบนี้เอาไว้ทำให้คนอ่านไม่เกิดความรู้สึกที่เอาเปรียบกับตัวละครตัวอื่นๆ คนอ่านจึงต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่า เล่าฉ่วงจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร จากความรอบรู้เพียงเล็กน้อย จึงทำให้เกิดอาการต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา ว่าไม่ใช่ของตาย ที่ผู้รู้ประวัติศาสตร์ล่วงหน้าจะต้องเป็นผู้ชนะตลอดเวลา

นอกจาก เนื้อหา และเรื่องราวต่างๆที่ยกมาให้เห็นกันดังกล่าวนี้แล้ว ยังมีข้อความอีกหลายประเด็นที่ “เกิงซิน” บอกเอาไว้เป็น โค้ดลับเหมือนให้ผู้อ่านถอดรหัสความคิดของเขาว่า เขามีเจตนารมณ์ในงานเขียนของเขาอย่างไร อย่างการสร้างตัวละครให้คนกังขาว่า แล้ว เล่าฉ่วงจะต้องเผชิญกับมันอย่างไร เป็นต้นว่า ให้ ตัวเอกของเรื่องอีกคนซึ่งเป็น ผู้หญิงที่ เล่าฉ่วง รัก และเธอก็รักเล่าฉ่วง แต่ ในประวัติศาสตร์ ที่ เล่าฉ่วงรับรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ คือ สนมเอก ของพระเจ้าเล่าปี่ ในอนาคต ซึ่งเล่าฉ่วง ก็ปณิธานกับตัวเองไว้เลยว่า เขาจะไม่ยอมให้ เรื่องมันเป็นอย่างนั้นเด็ดขาด แล้ว เขาจะต้องทำอย่างไร เรื่องแบบนี้ มีหลายประการที่ ผู้ประพันธ์ ทิ้งปมปัญหาเอาไว้ให้คนติดตาม

นับได้ว่า เป็นหนังสือ เขียนได้สนุก และท้าทายความรู้สึกของคนที่สนใจงานด้านประวัติศาสตร์และพร้อมที่จะหาความกระจ่างในภาพที่แท้จริงของเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งจุดเด่นตรงประเด็นนี้ “เกิงซิน” ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ จะทำให้ คนอ่านเข้าใจได้อย่างไม่ต้องกล่าวหาว่า เขาลำเอียง หรือสร้างเรื่องที่ไร้หลักฐานขึ้นมา

(ตัวอย่าง หน้า 209 ย่อหน้าที่ 3)ในจดหมายเหตุสามก๊กไม่มีบันทึกของหุยง่วนเสียว แต่ในวรรณกรรมสามก๊ก คนผู้นี้เคยปรากฏตัว แต่ว่าเขามิใช่อยู่ที่ยี่หลำหรอกหรือ ในวรรณกรรมสามก๊ก กวนอู ควบม้าเป็นพันลี้ ฝ่าห้าด่านประหารหกขุนพล ต่อมาเผชิญโจรภูเขาที่โงจิวสัน กวนอูประหารหุยง่วนเสียว รับตัวจิวฉองไว้ สุดท้ายคุ้มกันเล่าปี่มุ่งตะวันตก สถาปนาจ๊กก๊กขึ้น หรือว่า หุยเสียว คือหุยง่วนเสียวซึ่งโชคร้ายถูกกวนอูฆ่าตาย?

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เห็นว่าเล่าฉ่วง แม้จะรับรู้ข้อมูลจากประวัติศาสตร์มาก่อนแล้ว แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่า ข้อมูลใด จะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง และนั่นแหละ คือ ลูกเล่นที่นักประพันธ์หลอกล่อให้นักอ่านต้องติดตาม

ใครที่ชื่นชอบงานเขียนที่ท้าทายแบบนี้ลองไปหาซื้อมาอ่านกันได้ครับ บอกได้ว่า สนุกและน่าเรียนรู้ในมุมมองที่แตกต่างกันไปของ วรรณกรรมสามก๊กตอนนี้แม้ร้านหนังสือจะไม่เปิด แต่ดูเหมือนว่า สำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์ เขาจะมีการขายยกชุดกันทางออนไลน์ แถมลดราคาให้เสียด้วย ลองซื้อมาเก็บเอาไว้ศึกษา ควบคู่ไปกับการดูภาพยนตร์ซีรี่ส์สามก๊ก ได้อารมณ์ครบถ้วนทีเดียวครับ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • หนังสือเด่น : ความรู้ด้านการเงินง่ายๆสำหรับทุกคน ที่ต้องการหลุดพ้นจากชีวิตที่ยากจน หนังสือเด่น : ความรู้ด้านการเงินง่ายๆสำหรับทุกคน ที่ต้องการหลุดพ้นจากชีวิตที่ยากจน
  • หนังสือเด่น : พลังความรู้สึกดี และรักตัวเองจริงๆ จะนำพาสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต หนังสือเด่น : พลังความรู้สึกดี และรักตัวเองจริงๆ จะนำพาสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต
  • หนังสือเด่น : การแก้ไขปัญหาด้านการจัดการเงิน  ผ่านมุมมองแนวใหม่ทางด้านจิตวิทยา หนังสือเด่น : การแก้ไขปัญหาด้านการจัดการเงิน ผ่านมุมมองแนวใหม่ทางด้านจิตวิทยา
  • หนังสือเด่น : กฎการบริหารจัดการทีมและตนเอง เพื่อให้งานสำเร็จและชีวิตสมดุล หนังสือเด่น : กฎการบริหารจัดการทีมและตนเอง เพื่อให้งานสำเร็จและชีวิตสมดุล
  •  

Breaking News

'หมอวรงค์' สั่งสอน 'ทนาย-รมต.อุ๊งอิ๊งค์' ปมจะเอาเงินระบายข้าว 18 ล้านชดใช้แทน ชี้'คนละส่วน' ทุจริตต้องจ่ายเอง!

‘ชวน–นิพนธ์’ ร่วมงาน Roadshow สานต่อความร่วมมือเศรษฐกิจไทย–จีน

ไทยติดอันดับโลก! ดินแดนปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวหญิง

'เจิมศักดิ์'เผยแถลงการณ์กลุ่มแพทย์อาวุโสห่วงอิทธิพลการเมืองแทรกแซงแพทยสภา ชี้ต้องโปร่งใส

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved