ในช่วงเวลานี้คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินคำว่า เอไอ (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เพราะเจ้าคำคำนี้คือ ตัวการที่จะทำให้สังคมโลกเปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ เหมือนหนึ่งว่า มนุษย์จะหมดความสำคัญลงไปอย่างนั้นเลย
ดังนั้นภาพของ เอไอ ในสมองของคนส่วนใหญ่จึงนึกไปถึง เครื่องจักรที่จะมาทำหน้าที่แทนมนุษย์ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า หุ่นยนต์ นั่นเอง สุดท้ายก็เลยสรุปกันแบบคลุมๆ ไปว่า เอไอคือ หุ่นยนต์ที่จะมาทำหน้าที่แทนมนุษย์นั่นเอง (เหมือนในภาพยนตร์ฝรั่งหลายๆ เรื่องที่เคยนำเสนอมาแล้ว)
แต่ในความเป็นจริง เอไอ ไม่ใช่หุ่นยนต์เอไอ ไม่มีตัวตน แต่ เอไอ เกิดขึ้นจากวิทยาศาสตร์ที่ทำหน้าที่เหมือนสมองของมนุษย์ ซึ่งจะมีสมรรถภาพมากกว่าสมองโดยธรรมชาติของมนุษย์ในเรื่องของ ความเร็วกว่า การสั่งสมข้อมูลได้มากกว่า วิเคราะห์ วิจัย ทุกสิ่งทุกอย่างได้แม่นยำกว่า ดังนั้น เอไอ จึงสามารถนำไปใช้กับวิถีชีวิตของมนุษย์ได้ในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือในการทำงาน การตัดสินใจ กลยุทธ์การสร้างรูปแบบเพื่อความสำเร็จ แม้กระทั่ง การทำนายทายทักถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จักรกลพยากรณ์ หนังสือเล่มที่ผมกำลังจะพูดถึงนี้ คือ เรื่องราวอย่างละเอียดของเอไอ ที่อ่านเข้าใจง่าย และได้รู้ถึงหัวใจหลักของคำว่า เอไอ โดยผู้เขียน จะใช้ตัวอย่าง และเหตุการณ์ที่อยู่ใกล้ตัวมาแสดงให้เห็นไปพร้อมๆกับคำอธิบายให้กระจ่างขึ้น
อย่างในเรื่องของ การคาดคะเน หรือ การพยากรณ์ถึงเหตุการณ์ข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร เอไอ จะทำได้เร็วกว่าสมองของมนุษย์มากผมขอสมมุติในเรื่องใกล้ๆ ตัวของคนไทยให้ฟังว่าในห้องเรียนห้องหนึ่ง คุณครูกำลังตั้งคำถามกับเด็กนักเรียนว่า หากจังหวัดอุบลราชธานี เกิดได้รับการยกให้เป็นอาณาจักรหรือประเทศ อำเภอตำบล หรือพื้นที่ในส่วนใดของอุบลฯจะได้รับการยกให้เป็นเมืองหลวง หากใช้สมองของมนุษย์คิดพิจารณา ก็ต้องมีการนำเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบดูกันว่า อำเภอใดมีความเจริญมากกว่ากัน อำเภอใดที่ทรัพยากรดีที่สุดอำเภอใดมีสภาพดินฟ้าอากาศอำนวยมากที่สุด เรียกว่ากว่าทุกคนจะตอบออกมาได้ ก็ต้องหาเหตุผลกันอีกนาน แต่สำหรับ เอไอ หากเราเอาคำถามนี้ ใส่เข้าไป มันจะออกคำตอบได้ในทันที ว่าอำเภอใดเหมาะสมที่สุด และคำตอบที่ได้รับก็เป็นความเหมาะสมสมบูรณ์จริงเสียด้วย และนี่แหละคือตัวตนที่แท้จริงของเอไอ
อ่านหนังสือเล่มนี้จบลง จึงทำให้รู้ว่า เอไอ มีความเป็นไปได้ที่จะแทรกเข้ามาในทุกภาคส่วนชีวิตของมนุษย์ เพราะ เอไอ มีทุกอย่างที่มนุษย์อยากรู้ และอยากให้ช่วย ซึ่งมันอยู่ที่มนุษย์จะเอาเอไอไปฝังไว้ที่ตัวช่วยตัวไหนเท่านั้นเอง
ปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อหุ่นยนต์ครองโลก 10 ทักษะเอาตัวรอด ที่คนยุคนี้ต้องมีเพื่อการอยู่รอด
หนังสือ “ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เมื่อหุ่นยนต์ครองโลก” เป็นหนังสือที่บอกให้รู้ถึงทางรอดเดียวของมนุษย์เมื่อความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกกำลังจะก้าวผ่านมาถึง ทุกคนจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองเพื่อการอยู่รอดในการดำรงชีวิต และทางรอด 10 อย่าง ที่บอกไว้ในหนังสือเล่มนี้คือ 1.ความสามารถแก้ปัญหาซับซ้อน การแก้ปัญหาด้วยมุมมองและวิธีที่หลากหลาย 2.คิดอย่างมีวิจารณญาณ ใช้เหตุผลวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อดี ข้อด้อยวิธีแก้ปัญหาได้อย่างมีระบบ 3.ความคิดสร้างสรรค์ 4.บริหารจัดการคน 5.ความสามารถร่วมมือกับผู้อื่น 6.ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ รับรู้ถึงพฤติกรรมของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว 7.ทักษะการประเมินและตัดสินใจ 8.ทักษะมีใจรักการบริการ 9.ทักษะการเจรจาต่อรอง 10.ทักษะความยืดหยุ่นทางความคิด
เคล็ดลับในการพูดต่อหน้าสาธารณชน 100 เทคนิค พูดฟังง่ายๆให้จับใจคนฟัง
“100 เทคนิค พูดฟังง่ายจับใจคน” เขียนโดย “ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา จีระแพทย์” ผู้ได้ชื่อว่า เป็นนักพูดเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ในงานอีเว้นท์ต่างๆ หนังสือเล่มนี้ เธอจะนำเอากลยุทธ์ และเคล็ดลับในการเตรียมตัว เพื่อจะพูดต่อหน้าสาธารณชนมาเปิดเผยให้ทราบทั้งหมด 100 หัวข้อ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมการพูด การแก้ปัญหาจิตตกก่อนขึ้นเวลาหาทางไม่ให้เกิดอาการสั่นเมื่อจะต้องออกพูด และรูปแบบในการพูดให้จับใจคนฟัง โดยที่ผู้ฟังจะไม่ลุกออกไปจากที่ประชุม ตลอดเวลา 20 ปี ที่เธออยู่ในวงการนักพูดจะถูกถ่ายทอดอยู่ในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด ราคา 245 บาท
เจาะเวลาหาโจโฉ เล่มที่ 9 ออกวางตลาดแล้ว เมื่อโจโฉนึกถึงเล่าฉ่วงทุกอย่างดูจะสายเกินแก้แล้ว
เรื่องราวการเดินทางข้ามภพข้ามชาติของ “เล่าฉ่วง” จากปัจจุบันเข้าไปสู่ยุคสามก๊ก ดำเนินติดต่อกันมาถึงเล่มที่ 9 แล้ว เหตุการณ์เริ่มคลี่คลายกระจ่างชัดเจนยิ่งขึ้นว่า เล่าฉ่วง จะเข้าอยู่ข้างของ เล่าปี่ หรือ โจโฉ ในเล่มนี้ มีตอนหนึ่งที่โจโฉเริ่มวิตกถึงเล่าฉ่วง จากตัวอย่างใน หน้า 123 “โจโฉค่อยวางหมากในมือลงกล่าวว่า ฮูหยินยังจำเด็กน้อยฉ่วงที่ฆ่าหมีนั้นได้หรือไม่ ในความเห็นเรา มันเป็นมารปีศาจมาจุติ จึงผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้เราเข้าใจว่าป้าอ๋องน้อยแห่งกังตั๋งร้ายกาจมากแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าซุนเซ็กยังไม่อาจเทียบเปรียบกับมัน”อะไรจะเกิดขึ้นกับโจโฉเมื่อนึกได้ทุกอย่างก็สายเกินแก้ไปเสียแล้ว
บอกเล่าธุรกิจการขายแบบปลาเร็วกินปลาช้า เปรียบเทียบคนยุคแอนะล็อกกับคนยุคดิจิทัล
“ลูกรวยสอนพ่อ” เป็นหนังสือจากประสบการณ์ของคนรุ่นใหม่ที่เขียนถึงการทำธุรกิจการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเพราะโลกเปลี่ยนไป รูปแบบการทำการค้าจึงไม่มีคำว่าทำเล และไม่มีคำว่าลังเลอีกต่อไป คิดแล้วต้องทำ เพราะยุคนี้คือยุคปลาเร็วกินปลาช้า เขียนโดย “ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี” เนื้อหาในเล่มให้แง่คิดในเรื่องการทำธุรกิจ ที่ผู้อ่านจะได้แนวคิดและวิธีการซึ่งเป็นอิสระ ไม่เชื่ออะไรที่ไร้เหตุผล มีการเปรียบเทียบให้เห็นถึงการทำงานของคนยุคแอนะล็อกกับคนยุคดิจิทัล ซึ่งทั้งคู่สามารถนำทั้งสองมุมมาผสมผสานกันเพื่อให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จ นอกจากผู้อ่านจะได้แนวคิดที่ดี ยังสามารถนำมาปรับใช้ได้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี