วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
คุยกัน7วันหน : หลายประเทศไหวตัวทัน  บังคับสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน โควิด-19

คุยกัน7วันหน : หลายประเทศไหวตัวทัน บังคับสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน โควิด-19

วันอาทิตย์ ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 08.15 น.
Tag : โคโรนาไวรัส คุยกัน7วันหน โควิด19
  •  

ขณะที่สหรัฐยังไม่ได้มีการออกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ที่ผ่านมามีกรณีศึกษาของหลายประเทศตะวันตก ที่แม้จะมีค่านิยมในเรื่องเสรีภาพของประชาชน แต่ได้ตัดสินใจออกคำสั่งบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อความปลอดภัยสาธารณะโดยรวม

เป็นที่รู้กันดีว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลกต่างยืนยันว่า หน้ากากอนามัยเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงแรก หลายประเทศถกกันอย่างจริงจังว่าควรบังคับให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ แต่ทุกวันนี้ หน้ากากอนามัยกลายเป็นอุปกรณ์บังคับสวมใส่ไปในหลายที่ไปแล้ว


อย่างที่อังกฤษ ในตอนแรก นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันไม่ยินดีที่จะออกกฎบังคับประชาชนสวมสิ่งปกคลุมหน้า แต่ท้ายที่สุดได้ออกกฎให้สวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งสาธารณะเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และตามมาด้วยการออกกฎสั่งปรับประชาชน 100 ปอนด์ สำหรับผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปร้านค้าต่างๆ คาดว่าอาจเป็นเพราะตัวเขาเอง รู้ซึ้งถึงความรุนแรงของเจ้าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ว่าคือ“ของจริง” เพราะถึงกับทำให้เขาป่วยเป็นไวรัสโควิด-19 และอาการหนักต้องนอนห้องไอซียูหลายวัน จนเจ้าตัวยอมรับว่าเกือบตายไปแล้ว

ส่วนฝรั่งเศสได้ออกกฎบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะปิดทั้งหมด รวมไปถึงโรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ ร้านค้าห้างสรรพสินค้า และธนาคาร โดยมีโทษปรับ 135 ยูโร สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน และยังบังคับให้ชาวปารีสสวมหน้ากากอนามัยในรถไฟใต้ดินด้วย

ส่วนประเทศอื่นๆ ในยุโรป ได้มีการออกกฎบังคับไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น สาธารณรัฐเช็ก ที่ให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้านตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่เยอรมนีให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่เดือนเมษายนและมีโทษปรับสำหรับผู้ที่ไม่ทำตาม ขณะที่ในเดือนพฤษภาคม สเปนออกกฎให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทั้งในที่สาธารณะแบบปิดและกลางแจ้ง รวมไปถึงสกอตแลนด์ อิตาลี กรีซ ได้ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปร้านค้าต่างๆ

ส่วนในเอเชีย การสวมหน้ากากอนามัยสำหรับประเทศในย่านนี้ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เท่าไหร่นัก เพราะผู้คนแถบนี้คุ้นเคยกับการสวมหน้ากากอนามัยอยู่แล้ว เป็นผลมาจากสถานการณ์ระบาดของโรคซาร์ส ในปี 2003 ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างเรียกร้องให้ประชาคมโลกในพื้นทื่อื่นๆ ตระหนักอย่างเรื่องการแพร่เชื้อผ่านละอองอย่างจริงจังมากกว่านี้ และยกตัวอย่างว่า ประเทศในเอเชียที่มีวัฒนธรรมการสวมหน้ากากอนามัย เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ นั้นพบการระบาดน้อยกว่าภูมิภาคอื่นมาก

นอกจากนี้ ยังพบว่ารัฐบาลฮ่องกงได้สั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทันทีในช่วงแรกของการระบาดด้วย ขณะที่ดร.เพดมินี เมอร์ฟีย์ ผู้เชี่ยวชาญจาก New York Medical Collegeยกตัวอย่างประเทศไทย เกาหลีใต้ และฮ่องกง ว่าเป็นแบบอย่างของการสวมหน้ากากอนามัยในทันที รักษาระยะห่างทางสังคม และตามรอยผู้ติดเชื้อ นับตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาด ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า 6 รายต่อประชากร 1 ล้านคน

เมื่อกลับมามองที่สหรัฐ จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่มีการประกาศคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัยจากรัฐบาลกลาง และก่อนหน้านี้ผู้นำประเทศยังคัดค้านเรื่องการ
สวมหน้ากากอนามัยด้วย ในขณะที่ตอนนี้มีอย่างน้อย 39 รัฐ ได้ออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะแล้วแต่ต้องเผชิญการประท้วงจากกลุ่มคนที่ต่อต้านหน้ากากอนามัยในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีหลายรัฐ เช่น ฟลอริดา และแอริโซนา ที่ไม่ออกคำสั่งนี้ และยังมีกรณีผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย ยื่นฟ้องนายกเทศมนตรีเมืองแอตแลนตา ที่ออกคำสั่งบังคับประชาชนเรื่องหน้ากากอนามัยด้วย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กรมวิทย์ฯ พบโควิดสายพันธุ์ NB.1.8.1 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ไม่เกิดโรครุนแรง กรมวิทย์ฯ พบโควิดสายพันธุ์ NB.1.8.1 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ไม่เกิดโรครุนแรง
  • คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ \'คนโง่เท่านั้น\' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้ คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ 'คนโง่เท่านั้น' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้
  • คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น
  • คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่ คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่
  • คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์ คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์
  • คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก
  •  

Breaking News

‘ไผ่’ตอก‘ไอติม’อยู่แต่ กทม.ไม่รู้ สส.บ้านนอกทำงานแบบไหน กวักมือไปดูงานกำแพงเพชร

ตำรวจบางละมุง 'รวบสองคู่หู'ลักเหล็กอลูมิเนียม อ้าง!ตกงาน-เลี้ยงแม่ป่วย

เป็นทหาร VS เป็นไกด์!? ทหารไทยสาดสปีคแนะนำนทท. สำเนียงสุดเป๊ะ (ชมคลิป)

เปิดผล‘ดัชนีสร้างชาติ’2025-26 ‘ไทย’พุ่งอันดับ 3 อาเซียน ติดท็อป 46 โลก สะท้อนรากฐานมั่นคง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved