พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ องค์ประธานคณะผู้ออกแบบโครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัวญาณสัมปันโน) เสด็จไปในการประกอบพิธีบวงสรวงและเป็นประธานพิธียกปลียอดพระเจดีย์โครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ณ สถานที่ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานโครงการการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล จะเสด็จเป็นประธานในการประกอบพิธีอัญเชิญยกยอดฉัตรทองคำและฉัตรทองคำ ชั้นที่ 1 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2563
การนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กราบทูลถวายรายงานเรื่องพิธีบวงสรวงการยกปลียอดพระเจดีย์ ตลอดจนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งขณะนี้ภาพรวมของการก่อสร้างในส่วนของโครงสร้างทั้งพระเจดีย์ พระวิหาร และพิพิธภัณฑ์ มีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 85 สมควรแก่กาลเวลาที่จะดำเนินการยกยอดฉัตรทองคำที่คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมปัจจัยและทองคำสร้างยอดฉัตรและฐานฉัตร มากกว่า 200 กิโลกรัม ประกอบพระเจดีย์ในครั้งนี้ เพื่อร่วมรำลึกถึงคุณูปการและแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อพระสุปฏิปันโนผู้จรรโลงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป อีกทั้ง เพื่อระลึกถึงหลักธรรมคำสอนของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโนผู้เป็นแบบอย่างในการทำความดีเพื่อพระพุทธศาสนาประเทศชาติ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน
จากนั้นเสด็จเป็นประธานพิธียกปลียอดพระเจดีย์ โครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล ณ บริเวณสถานที่ก่อสร้าง โครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล โดยมี นายกอบเกียรติ กาญจนะ ไวยาวัจกรวัดเกษรศีลคุณ กราบทูลถวายรายงานขั้นตอนการยกปลียอดพระเจดีย์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่การติดตั้งปลียอดแรก หรือปลียอดล่างสุด มีลักษณะรูปทรงแปดเหลี่ยมขนากว้าง 3.96 เมตร สูง 4.98 เมตร เนื้อโลหะทองแดงหนาประมาณ 8 มิลลิเมตร ผิวภายนอกเคลือบทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งทองคำเหล่านี้ล้วนเป็นทองคำที่ได้รับบริจาคจากมหาชนผู้มีศรัทธาแรงกล้าต่อหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ตามที่พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อยและรักษาการเจ้าอาวาสวัดกองเพล ได้เชิญชวนศิษยานุศิษย์ร่วมกันสร้างยอดฉัตรทองคำโดยตั้งเป้าไว้ที่ 98 กิโลกรัม เท่ากับอายุของหลวงตาขณะละสังขาร แต่พลังศรัทธาจากศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชน ได้บริจาคทองคำเป็นจำนวนมาก ได้น้ำหนักทองยอดฉัตร 86.2 กิโลกรัม ทองฉัตรชั้นที่ 1 ได้น้ำหนักทอง 99.4 กิโลกรัม ส่วนทองที่เหลือประมาณ39 กิโลกรัม คณะศิษยานุศิษย์วัดป่านาคำน้อยได้เป็นธุระนำไปเคลือบทองในส่วนปลียอด รวม 11 ชิ้นงาน ความสูง 19 เมตร ให้เหลืองอร่ามดุจเนื้อเดียวกัน
โครงสร้างภายในปลียอด ยึดรั้งด้วยโครงสเตนเลสที่มีความมั่นคงแข็งแรงคงทนถาวร หลังจากติดตั้งปลียอดแรกทรงแปดเหลี่ยมแล้วเสร็จ จึงประกอบเม็ดมะยมแปดเหลี่ยมขนาดกว้าง 2.47 เมตร สูง 1.07 เมตร วางเหนือปลียอดแปดเหลี่ยมโลหะทองแดงหนาขนาดประมาณ 8 มิลลิเมตร ผิวภายนอกเคลือบด้วยทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งยึดตรึงให้มั่นคงแข็งแรง และกรอกคอนกรีตลงในปลอกโลหะที่อยู่ภายใน เสร็จแล้วจึงทิ้งไว้ให้คอนกรีตแข็งตัวเต็มที่เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นวันรุ่งขึ้นจึงเริ่มดำเนินงานยกปลียอดส่วนที่เหลือ ได้แก่ ฐานฉัตร จนแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นวันมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นวันครบรอบชาตกาล 107 ปี ขององค์หลวงตาพระมหาบัวญาณสัมปันโน ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี องค์ประธานโครงการการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล เสด็จเป็นประธานในการประกอบพิธีอัญเชิญยกยอดฉัตรทองคำและฉัตรทองคำ ชั้นที่ 1
พระเจดีย์แห่งนี้นับเป็นศิลปกรรมไทยองค์สำคัญองค์สุดท้ายในสมัยรัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และความสำคัญของยอดหรือเครื่องยอด คือส่วนสูงสุดหรือส่วนเหนือสุดที่อยู่บนบัลลังก์ประกอบเจดีย์ เป็นเครื่องแสดงที่บ่งบอกถึงสถานะที่สำคัญยิ่งของสิ่งที่อยู่ภายใต้ยอดหรือเครื่องยอด ดั่งมี ปรากฏมาแต่ครั้งพระเจ้าอโศกมหาราชในแดนพุทธภูมิประเทศอินเดีย ราวพุทธศตวรรษที่ 3 (พ.ศ.270-พ.ศ.311) แสดงเป็นร่ม หรือฉัตรเหนือสถูปเจดีย์ ที่ได้ถูกนำมาออกแบบประกอบใช้เหนือเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล โดยนำลักษณะของการใช้ปลียอดและฉัตรขนาดความสูงรวม 1,900 เมตร ประกอบบัลลังก์ เป็นส่วนยอดเหนือองค์เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุเพื่อแสดงถึงการสืบต่อพระพุทธศาสนาและการเทิดทูนบูชาบูรพาจารย์ อันประกอบด้วย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นต้น และเป็นเจติยสถานอันบุคคลควรบูชา ดังเช่นโบราณกาลที่ผ่านมา
โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯก่อสร้างบนพื้นที่ขนาด 181 ไร่ 3 งาน 17 ตารางวา บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานบรรจุอัฐิธาตุ รวบรวมประวัติ หนังสือ คำสอน เครื่องอัฐบริขารเพื่อรำลึกถึงคุณูปการของพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ในฐานะที่เป็น“ถูปารหบุคคล” (ถู-ปา-ระ-หะ-บุก-คน) หรือบุคคลผู้ควรแก่การสร้างสถูปเจดีย์ไว้บูชาของชาวจังหวัดอุดรธานีและประเทศไทย ที่ครั้งหนึ่งมีบทบาทอย่างยิ่งในการใช้ธรรมะช่วยเหลือวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศเมื่อพุทธศักราช 2540 ในรูปแบบดำเนินการทอดผ้าป่าทองคำและเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐภายใต้ชื่อ “โครงการผ้าป่าช่วยชาติ” รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนให้ถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ และทำความดี เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป พร้อมกันนี้โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดให้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์และทีมงานสยามรีโนเวท เป็นผู้ดำเนินการออกแบบก่อสร้างโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการออกแบบใดๆ ทั้งสิ้น ด้วย
ทั้งนี้ ในการออกแบบพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงออกแบบลักษณะของพระเจดีย์ พระวิหาร และพิพิธภัณฑ์นั้นโดยทรงได้รับแรงบันดาลพระทัยจากสถาปัตยกรรมศิลปะล้านช้าง ผสมผสานกับศิลปะยุคกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงการสืบทอดพระพุทธศาสนาในถิ่นอีสานยังคงดำรงอย่างมั่นคง และเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปตราบนานเท่านาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี