สัปดาห์ก่อนผมเชิญชวนคุณผู้อ่านหนังสือพิมพ์แนวหน้าไปเที่ยวแบบละมุนละไมด้วยกันที่จังหวัดเชียงราย โดยการท่องเที่ยวทริปนี้คณะของเราไม่ได้ขึ้นดอย แต่จะเน้นการท่องเที่ยวในชุมชนต่างๆ ซึ่งมีอัตลักษณ์ และมีเอกลักษณ์ประจำของชุมชนเช่น ชุมชนท่าขันทอง ชุมชนแม่กรณ์ ชุมชนแม่รวง เป็นต้น
ขอเรียนย้ำให้ทราบว่าชีวิตของชาวชุมชนต่างๆ ที่ผมจะนำคุณๆ ไปสัมผัสนั้น เต็มไปด้วยความน่าสนใจ ชนิดที่เรียกได้ว่ามีมนต์เสน่ห์มากมาย ตัวอย่างของมนต์เสน่ห์คือ ความเป็นธรรมชาติ ขนบประเพณีวัฒนธรรม อาหารการกินการแต่งกาย สถาปัตยกรรมการปลูกสร้างบ้านเรือน ความเอื้ออาทร ความมีน้ำใจการแบ่งปันกันและกัน รวมถึงการรักษาความสะอาดความเป็นระเบียบ
เมื่อคุณสังเกตจากภาพประกอบที่ผมนำมาแสดงในสัปดาห์นี้จะพบว่า เรื่องอาหารการกินของทุกชุมชนที่ผมนำคุณไปเยี่ยมชมและสัมผัสนั้นมีสีสันที่แสนสวยงามตามสีสันธรรมชาติโดยแท้ เพราะเป็นสีสันของผัก ผลไม้ ต้นไม้ และเครื่องเคียง รวมถึงยังมีสีสันของไม้ดอก ป่าเขา ทุ่งนา สายน้ำแห่งแม่น้ำโขง เครื่องแต่งกาย รวมถึงสีฟ้าสดใสของท้องฟ้าที่มีเมฆขาวแต่งแต้มผืนฟ้าให้งามราวภาพจิตรกรรมจากฝีมือจิตรกรชั้นเยี่ยมของโลก
ขออนุญาตเล่าสไตล์การเที่ยวแบบละมุนละไมของกลุ่มเราให้ทราบสักนิด (สำหรับคุณๆ ที่ยังไม่เคยไปท่องเที่ยวกับพวกเรา) คือเราเที่ยวกันแบบแช่มช้อยไปช้าๆ ค่อยๆ ละเลียดซึมซับความงามของแหล่งท่องเที่ยว เราให้เวลาในแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งยาวนานหลายชั่วโมง (บางแห่งอาจเป็นวัน) เพื่อให้ผู้ร่วมทริปของเราได้มีโอกาสพูดคุย สัมผัสชีวิตจริงๆของผู้คนที่เราไปท่องเที่ยว และยังได้เห็นวิถีชีวิตที่แท้จริงของเขา นอกจากนี้ยังได้ทราบว่าคนในชุมชนปลูกผัก ผลไม้ชนิดใดเพื่อใช้กินในชีวิตประจำวัน แต่ที่มากกว่านั้นคือ การได้ช่วยเหลือกระจายรายได้ด้วยการซื้อผลผลิตจากชุมชน ทำให้ชาวชุมชนมีรายได้แท้จริง และยังเกิดความรู้สึกว่าคนจากต่างถิ่นเห็นคุณค่าของคนในชุมชนแล้วที่มากกว่านั้นคือ การได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ได้พูดคุยสนทนากันแล้วในที่สุดก็ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกัน
อันที่จริงแล้ว ทริปนี้ผมนำคุณไปเที่ยวไปพักผ่อน โดยได้สัมผัสกับทุ่งนา ป่าเขาและสายน้ำอย่างใกล้ชิด แต่ที่หลายคนประทับใจคือการได้ทำอาหารรับประทานเอง แม้หลายคนจะบอกว่า ทำอาหารไม่เป็น หรือทำอาหารไม่เก่ง แต่เมื่อทุกคนได้ช่วยกันปรุงอาหารจากฝีมือของคนทุกคนที่มีส่วนร่วมกัน ก็ทำให้อาหารที่ปรุงออกมาแล้วเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน เพราะอย่างน้อยที่สุดก็เกิดมาจากฝีมือและความร่วมมือของทุกคน โดยวัตถุดิบในการปรุงอาหารก็มาจากสวนผักในชุมชน ปลาก็มาจากลำน้ำในชุมชนผลไม้ก็เก็บไปรับประทานกันสดๆ จากสวนในชุมชน
ส่วนเวลาพักผ่อนก็นอนในที่นอนแสนสบาย นอนในมุ้ง ซึ่งเป็นการนอนที่แสนจะได้บรรยากาศ โดยเฉพาะคนที่เคยนอนมุ้งมาก่อน (แต่แอบใช้เครื่องปรับอากาศนิดหน่อย โดยเฉพาะเวลาหัวค่ำที่อากาศยังไม่เย็นสบายมากนัก แต่ตกดึกก็ต้องลุกขึ้นมาปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะอากาศเย็นมาก)ส่วนการอาบน้ำอาบท่าก็ไม่ถึงกับให้คุณๆ ลงไปอาบน้ำในลำธารข้างบ้าน เพราะเกรงว่าจะได้บรรยากาศของความเป็นชนบทมากจนเกินจะรับได้ ก็จึงต้องหาห้องน้ำห้องท่าที่ทันสมัย แต่ยังมีกลิ่นอายของความเป็นชนบทผสมอยู่ คือการอาบน้ำด้วยการใช้ขันตักน้ำจากโอ่งแล้วนำไปราดรดตัว เพียงแค่นี้ก็ทำให้หลายคนหวนระลึกถึงวันวานได้โดยฉับพลัน ส่วนคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์การอาบน้ำด้วยการตักน้ำจากโอ่งมารดตัวก็จะได้เรียนรู้ไปด้วยว่า คนไทยสมัยก่อนเขามีวิถีชีวิตอย่างไร ส่วนต้นข้าวที่คุณเห็นในท้องทุ่งนั้น หากคุณมีความต้องการจะเรียนรู้การปลูกข้าวด้วยการดำนาจริงๆ เราก็จัดให้คุณได้ แต่ส่วนใหญ่หลายคนบอกว่า ขอเป็นฝ่ายดูก็แล้วกัน เพราะเกรงว่าจะทำให้ต้นกล้าของข้าวเสียหายมากกว่า
ที่ผมเล่าให้คุณฟังคร่าวๆ นี้เป็นแค่เพียงเศษหนึ่งส่วนร้อยของการได้ท่องเที่ยวตามแบบเที่ยวละมุนละไมนะครับหากคุณมีความประสงค์จะสัมผัสบรรยากาศละมุนละไมจริงๆ โปรดติดต่อหมายเลข091-7233615 แล้วเราจะไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆ ด้วยกันครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี