โบสถ์ร้าง
จากการที่กรมศิลปากรโดยหน่วยศิลปากรที่ ๖ ได้บูรณะพระอุโบสถ์ร้างของวัดทัพทันวัฒนาราม อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทอดผ้าพระกฐินที่วัดนี้ จึงได้ตามรอยภูมิสนามแนวรบด้านตะวันตกจากเรื่องเล่ากล่าวขานว่า ในสมัยกรุงธนบุรี นั้นได้มีทัพไทยซึ่งมีเจ้าพระยายมราช เจ้าพระยาราชสุภาวดี และเจ้าพระยารามัญวงศ์ เป็นนายทัพ เข้ามายังแนวรบด้านตะวันตกเพื่อทำการขับไล่ทัพพม่าที่มีกะละโม่ เป็นนายทัพนั้นได้ถูกตีถอยร่นจากเมืองกำแพงเพชร มาทางเมืองอุไทยธานี ซึ่งทัพไทยนั้นได้ยกไพร่พลติดตามทัพพม่ามาทัน ณ บ้านทัพทันแห่งนี้จึงได้รบพุ่งตีไพร่พลของข้าศึกแตกพ่ายไป แล้วทัพไทยยังยกไพร่พลไล่ตามไปจนสว่างที่บ้านสว่างแจ้งสบายใจ ต่อมาสถานที่สองแห่งนี้ได้ตั้งเรียกว่าบ้านทัพทัน และบ้านสว่างอารมณ์ ซึ่งภายหลังได้ตั้งเป็นอำเภอทัพทัน และอำเภอสว่างอารมณ์ ทั้งสองแห่ง
เมื่อแบ่งเขตตั้งอำเภอครั้งแรกนั้นตัวอำเภอตั้งอยู่ที่บ้านหนองกระดี่ จึงเรียกว่าอำเภอหนองกระดี่ ซึ่งมีโบสถ์เก่าของวัดหนองกระดี่ ร้างอยู่ ต่อมาได้มีการย้ายตัวอำเภอไปตั้งใหม่ที่บ้านทัพทันจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอทัพทัน พื้นที่ของอำเภอนี้อยู่ติดกับพื้นที่เมืองอุไทยธานีเก่า และบ้านคลองค่ายซึ่งทำหน้าที่เป็นด่านดูแลเขตแดนด้านตะวันตกที่รับผิดชอบไปถึงด่านแม่กลอง และด่านหนองหลวงซึ่งปัจจุบันโอนไปอยู่ในเมืองตาก คือ อำเภออุ้มผาง ในสมัยอยุธยานั้นเมืองอุไทยธานีเก่ามีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นนอกทำหน้าที่ด่านเฝ้าระวังแนวรบด้านตะวันตก ซึ่งปรากฏชื่อว่า หลวงสรวิชิต (หน)เป็นนายด่านเมืองอุไทยธานี และทำหน้าที่ส่งกองอัตมาตลาดตะเวนตามแนวชายแดนไปตามด่านต่างๆ ซึ่งมีการรับผู้อพยพชาวมอญ พม่า เข้ามาอยู่ด้วยครั้งเมื่อพม่าเข้าตีเมืองอุไทยธานีเก่าและเผาค่ายนั้นทัพไทยได้ไล่ข้าศึกมาทันที่บ้านทัพทันแห่งนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อบ้าน
เจดีย์หน้าโบสถ์เก่า
บ้านทัพทันแห่งนี้เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ทำอาชีพทำนา ค้าขาย และเลี้ยงสัตว์ เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ต่อเชื่อมกับบ้านหนองเต่าบ้านสะแกกรัง เมื่อเมืองอุไทยธานีย้ายเมืองไปอยู่ที่บ้านสะแกกรัง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๑ บ้านทัพทันแห่งนี้เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ทำอาชีพทำนา ค้าขาย และเลี้ยงสัตว์ เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ต่อเชื่อมกับบ้านหนองเต่า บ้านสะแกกรัง เมื่อเมืองอุไทยธานี ย้ายเมืองไปอยู่ที่บ้านสะแกกรังเมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๑ นั้น ทำให้ชาวบ้านจากบ้านอุไทยเก่า นั้น บ้านทัพทัน บ้านหนองเต่าและบ้านท่าซุง จึงพากันย้ายครัวไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านสะแกกรัง จนเป็นตลาดใหญ่ในปลายสมัย รัชกาลที่ ๓
ส่วนบ้านทัพทันนั้นเมื่อมีการตั้งอำเภอขึ้นนั้นได้มีการสร้างวัดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๓๘ โดยมีหลวงพ่อโต เป็นเจ้าอาวาสเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๐-๒๔๕๕เมื่อได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคมพ.ศ.๒๔๕๒ แล้ว พระอาจารย์เจ๊ก เจ้าอาวาส พ.ศ.๒๔๕๖-๒๔๖๑ จึงได้สร้างพระอุโบสถขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๕๙-๖๐ พระอุโบสถ์หลังนี้กว้าง ๖.๕๐ เมตรยาว ๑๕.๗๐ เมตร ภายนอกหน้าบัน-กรอบหน้าต่างนั้นประดับด้วยภาพปูนปั้นฝีมือช่างจีน และภายในโบสถ์เขียนรูปอสุภะ ๑๐ ที่มีข้อความระบุว่า“พระมูล สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒ พรรษา”ในสมัยพระอาจารย์สอน เป็นเจ้าอาวาสพ.ศ. ๒๔๖๒-๖๖ ต่อมาพระอุโบสถหลังเดิมได้ทรุดโทรมลงจึงขอพระราชทานวิสุงคามสีมาสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑ ส่วนพระอุโบสถหลังเดิมที่ถูกทิ้งร้างนั้นได้รับการบูรณะเพื่อรักษาภาพปูนปั้นที่ชำรุดและภาพเขียนอสุภะกลับคืนมาซึ่งเป็นแบบอย่างของศิลปกรรมของช่างจีนที่นิยมสร้างภาพปูนปั้นตามโบสถ์วิหารและเจดีย์ตามวัดต่างๆอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์-ชัยนาท และอุทัยธานีซึ่งทั้งสามเมืองนี้ล้วนในอดีตนั้นต่างมีบทบาทกับการรักษาแนวรบด้านตะวันตก ที่ยังมีร่องรอยและชื่อภูมิสถานให้จดจำกันเช่น บ้านทัพทัน โพลงซ่อนนางคือ บ้านพลวงสองนาง โกรกพม่าคือ บ้านโกรกพระ นอกจากนี้วัดทัพทัน ยังเป็นวัดที่หลวงพ่อเคลือบ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มแม่น้ำสะแกกรังที่ชาวอุทัยธานีเคารพนับถือ เคยจำพรรษาอยู่วัดนี้จึงมีการสร้างรูปหล่อองค์แรกประดิษฐานไว้ที่วัดนี้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี