วัดภูมินทร์
ในการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืนนั้น จากกรณีศึกษาที่ผ่านมาทำให้เมืองเก่าน่านเป็น ๑ ใน ๖ พื้นที่พิเศษที่มีความพร้อมจะยกระดับเมืองให้เข้าสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกในปี ๒๕๖๔ เรื่องนี้ ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รักษาการผอ.องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ได้สานต่อจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๕ โดยประกาศให้เมืองเก่าน่านนั้นเป็นพื้นที่พิเศษครอบคลุม ๕ ตำบล รวมพื้นที่ ๑๓๘.๓๗ ตารางกิโลเมตรจากเขตอำเภอเมือง ซึ่งมีตำบลในเวียง ตำบลดู่ใต้ ตำบลนาซาว ตำบลบ่อสวก และเขตอำเภอภูเพียง มีตำบลม่วงตึ๊ด รวมกันเป็นพื้นที่พิเศษที่กำหนดให้ยุทธศาสตร์การพัฒนา “น่าน เมืองเก่าที่มีชีวิต”ด้วยเหตุที่เป็นพื้นที่มีจุดเด่นคือความเข้มแข็งของวิถีชีวิต วัฒนธรรม และโบราณสถานที่ยังตกทอดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ผู้คนในพื้นที่นั้นยังคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีการทำงานร่วมกับ อพท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมี ๔ มิติได้แก่ ๑.มิติการบริหารจัดการ ที่รวมถึงเรื่องความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ๒.มิติสังคมเศรษฐกิจ ๓.มิติวัฒนธรรม และ ๔.มิติสิ่งแวดล้อม ดังนั้นข้อมูลต่างๆ ทางด้านวิถีชีวิตอัตลักษณ์ วัฒนธรรมประเพณีนั้นจะถูกนำมาพัฒนาให้เป็นจุดขายทางการท่องเที่ยว ให้ชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อนและบริหารจัดการกันเอง ภายใต้หลักการทำงานที่อพท.ได้กำหนดไว้ร่วมกันสร้างสรรค์ผ่านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมโครงสร้างทางสังคมและต้นทุนทางวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ขนบธรรมเนียม ตลอดจนจารีตประเพณีท้องถิ่น มาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนและเกิดเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนทำให้พื้นที่หรือเมืองเล็กๆ อย่างจังหวัดน่านนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน และทำการตลาดได้บนมาตรฐานการบริหารจัดการที่หน่วยงานระดับโลกให้การยอมรับ
ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รก.ผอ.อพท
สำหรับประวัติศาสตร์เมืองน่านเริ่มปรากฏขึ้นราว พ.ศ. ๑๘๒๕ ภายใต้การนำของพญาภูคา เจ้าเมืองย่าง ศูนย์การปกครองอยู่ที่เมืองย่าง เชื่อกันว่าคือบริเวณริมฝั่งด้านใต้ของแม่น้ำย่าง ใกล้เทือกเขาดอยภูคาในเขตบ้านเสี้ยว ตำบลยม อำเภอท่าวังผา ด้วยปรากฏร่องรอย ชุมชนในสภาพที่เป็นคูน้ำ คันดิน กำแพงเมืองซ้อนกันอยู่ ต่อมาพญาภูคา ได้ขยายอาณาเขตปกครองของตนออกไปให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยส่งราชบุตรบุญธรรม ๒ คน ไปสร้างเมืองใหม่ ให้ขุนนุ่น ผู้พี่ไปสร้างเมืองจันทบุรี คือเมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำของหรือแม่น้ำโขง และขุนฟองผู้น้องสร้างเมืองวรนครคือเมืองปัว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ราชวงศ์ภูคาครองบ้านเมืองเป็นปึกแผ่น เจ้าขุนฟองมีพระโอรสชื่อ “เจ้าเก้าเกื่อน” ต่อมาครองเมืองปัวแทน และได้ครองเมืองย่างโดยมอบให้ชายาคือนางพญาแม่ท้าวคำปิน ซึ่งทรงครรภ์อยู่คอยปกครองดูแลรักษาเมืองวรนครแทน ภายหลังพญางำเมืองเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ได้ขยายอิทธิพลเข้าครอบครองเมืองปัวทั้งหมด ทำให้นางพญาแม่เท้าคำปินพร้อมด้วยบุตรในครรภ์ หลบหนีไปอยู่บ้านห้วยแร้งจนคลอดได้บุตรชายท่ามกลางท้องไร่นั้น ชื่อว่า“เจ้าขุนใส” นายบ้านห้วยแร้งได้รับนางพญาแม่ท้าวคำปินและบุตรชาย ไปเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ อายุได้ ๑๖ ปี ได้นำไปไหว้สาพญางำเมือง เมื่อพญางำเมืองเห็น ก็มีใจรักเอ็นดูรับเลี้ยงดูไว้ เมื่อเติบใหญ่ได้เป็นขุนนาง ต่อมาพญางำเมืองได้สถาปนาให้เป็น เจ้าขุนใสยศ ครองเมืองปราด ต่อมาได้รวบกำลังไพร่พลยกทัพมาสู้รบจนหลุดพ้นจากอำนาจเมืองพะเยา แล้วกลับมาเป็นผู้ครองเมืองวรนคร และสถาปนาเป็น “พญาผานอง” ภายหลังพญาผานองได้มีความสัมพันธ์กับกรุงสุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหง มีความในหลักศิลาจารึก หลักที่ ๑จึงทำให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น บ่อเกลือโบราณพิพิธภัณฑ์ วัดสำคัญในสมัยสุโขทัยและวัดที่มีศิลปะท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น วัดภูมินทร์ วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดช้างค้ำ วัดพญาวัด วัดเวียงสา วัดสวนตาล วัดพระธาตุน้อย ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น ดอยภูคา ดอยเสมอดาว และประเพณีพื้นถิ่น อาหารพื้นบ้าน งานผ้าทอ ประเพณีกลองพิธี...ทึ่ยังมีชีวิตให้เห็น จนหลายคนชอบที่จะพากันไปกระซิบรัก..เมืองน่านกันทุกวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี