ปัจจุบันในแวดวงองค์กรธุรกิจชั้นนำของประเทศไทยในหลายๆ กลุ่ม จะเห็นว่ามีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยได้เริ่มก้าวเข้ามามีบทบาทในสังคมระดับแนวหน้ากันมากขึ้น ทั้งการเป็นผู้นำในการบริหารองค์กรระดับกรรมการบริษัท ผู้บริหารระดับสูง-ระดับกลาง อันจะเห็นได้จากผลสำรวจของบริษัท แกรนท์ ธอนตันอินเตอร์เนชันแนล ที่พบว่าประเทศไทย มีผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้นำระดับสูงในภาคธุรกิจอยู่เป็นจำนวนร้อยละ 33 คิดเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยมากกว่า 2 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีความเปิดกว้างในเรื่องดังกล่าว
วีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูลรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย ได้รับเกียรติจากสถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสัมมนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้ความรู้ ในหัวข้อ “Key success factors for women leadership in business sector” หรือปัจจัยสู่ความสำเร็จของผู้นำหญิงในองค์กรธุรกิจ ร่วมกับผู้บริหารหญิงไทยมากความสามารถจากองค์กรชั้นนำอีกหลากหลายท่าน
วีระอนงค์เผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสัมมนาพิเศษแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ในครั้งนี้ โดยตนเองมีประสบการณ์ทำงานกับธนาคารซิตี้แบงก์มายาวนานกว่า 25 ปี
จากจุดเริ่มต้นเริ่มจากการฝึกงานกับธนาคาร ก่อนที่จะถูกชักชวนให้เข้ามาทำงานอย่างเต็มตัวในฝั่งกลุ่มลูกค้าสถาบัน โดยมีประสบการณ์การทำงานและบริหารงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนในส่วนงานต่างๆ มากมาย ก่อนที่จะย้ายมาดำรงตำแหน่ง Consumer Business Manager ในการบริหารส่วนงานบุคคลธนกิจทั้งหมด ซึ่งรวมถึงธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝากและการลงทุนของซิตี้ ประเทศไทย
นอกจากนี้ วีระอนงค์ยังได้ร่วมแบ่งปันข้อคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับปัจจัยเคล็ดลับปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จของผู้หญิงในการทำงานในมุมของตนเอง เริ่มต้นจากการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและมุ่งมั่นลงมือทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น รวมถึงการพยายามผลักดันให้ตนเองพยายามทำในสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทายความสามารถยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการมีใจรักในสิ่งที่ทำเพื่อที่จะได้ทุ่มเทและทำสิ่งนั้นได้อย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางบวกให้เกิดขึ้นกับองค์กร
ตลอดจนเผยเคล็ดลับอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงานคือต้องมีการบริหารจัดการเวลาอย่างเป็นระบบชัดเจน โดยตนเองจะมีการแบ่งเวลาออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน โดยส่วนแรกควรใช้ไปกับการพัฒนาพนักงาน ส่วนที่สองการเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน และส่วนสุดท้ายการเรียนรู้จากหัวหน้า ผู้บริหารระดับสูงหรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จอื่นๆเพื่อเป็นแรงบันดาลใจที่ดีในการพัฒนาตนเอง ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19ที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ทุกคนตระหนักดีว่าความสามารถในการรับมือและจัดการกับความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำงาน ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การให้ความสำคัญกับทีมงานและพนักงานที่ทำงานในองค์กร ดังนั้น การพัฒนาบุคลากรรวมถึงการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้
ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ปทั่วโลก รวมถึงซิตี้ ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงมีความทัดเทียมกับผู้ชายในการเจริญเติบโตในองค์กร รวมถึงสนับสนุนความแตกต่างของพนักงานในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติหรือเอกลักษณ์เฉพาะตน เพราะซิตี้เชื่อว่าการสร้างความแตกต่างนั้นจะช่วยส่งเสริมให้องค์กรสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยซิตี้ได้ออกนโยบายต่างๆ เพื่อสนับสนุนแนวทางดังกล่าว ซึ่งซิตี้ถือเป็นธนาคารแห่งแรกในการทบทวนและพิจารณาปรับฐานเงินเดือนของพนักงานผู้หญิงหรือคนกลุ่มย่อย (Minority) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสำหรับกลุ่มพนักงานระดับเดียวกันมาตั้งแต่ปี 2562ในทุกประเทศทั่วโลก ทั้งการเพิ่มจำนวนวันลาคลอดให้กับมารดา รวมถึงบิดาเพื่อเลี้ยงดูบุตร รวมไปถึงการกำหนดเป้าหมายเพื่อให้มีสัดส่วนของการจ้างพนักงานใหม่หรือการดำรงตำแหน่งผู้บริหารหญิงที่เพิ่มขึ้นในแต่ละประเทศ ประกอบกับการจัดการฝึกอบรม รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อให้พนักงานทุกคนเคารพความเป็นเอกลักษณ์ส่วนบุคคล อันนำมาซึ่งการยอมรับในความแตกต่างในองค์กร ปัจจุบันซิตี้ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการผลักดันนโยบายดังกล่าวโดยมีสัดส่วนของบุคลากรในระดับบริหารที่เป็นผู้หญิงเกินกว่าครึ่งหนึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามชมสัมมนาพิเศษ Key success factors for women leadership in business sector หรือ “ปัจจัยสู่ความสำเร็จของผู้นำหญิงในองค์กรธุรกิจ” ที่จัดขึ้นโดยสถานทูตเนเธอร์แลนด์ย้อนหลังได้ผ่านทาง https://facebook.com/netherlandsembassybangkok
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี