ต้อนรับคิมหันตฤดู พร้อมฉลองปีใหม่ไทย รอยัล โอชา (Royal Osha) ร้านอาหารไทยไฟน์ ไดนิ่งสุดหรูที่ได้รับการแนะนำจากมิชลินไกด์ถึง 2 ปีซ้อน และ เชฟวิชิต มุกุระ เชฟมิชลิน 1 ดาว รังสรรค์เมนูพิเศษ “ข้าวแช่ชาววังและข้าวยำ” รสชาติละเมียดละมุนอันเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของ รอยัล โอชา พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมการรับประทานอาหารตามฤดูกาล ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ทั้งภาคกลาง เหนือ อีสาน และใต้ ในรูปแบบ A la carte และ Set menu ภายใต้แนวคิด “Classic Thai Elegance Reinvented” ความสง่างามของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น
สามหุ้นส่วนของร้านรอยัล โอชา (Royal Osha) จูน-ศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย เอ็กเซกคลูทีฟเชฟ วิชิต มุกุระ เชฟมิชลิน 1 ดาว และ เชฟเกวลิน พิทยานุกุล เชฟผู้วิจัยและพัฒนาเมนูต่างๆ ร่วมพูดคุยถึงสองเมนูพิเศษ “ข้าวแช่ชาววังและข้าวยำ ต้อนรับคิมหันตฤดูพร้อมฉลองปีใหม่ไทย รวมถึงความโดดเด่นของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารตามฤดูกาลในรูปแบบ A la carte และ Set menu ที่หลอมรวมอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมและอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
เชฟวิชิต มุกุระ กล่าวว่า ข้าวแช่ สำหรับคิมหันตฤดูนี้ รอยัล โอชา เชิญชวนให้ร่วมค้นหาเสน่ห์ของข้าวแช่ชาววังและข้าวยำ ตำรับ รอยัล โอชา เมนูสุดพิเศษนี้เราได้ถ่ายทอดอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอนจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการปรุงให้ยังคงไว้ซึ่งรสชาติ รูปลักษณ์ และกลิ่นหอมที่ลงตัว เริ่มจาก ข้าวแช่ชาววัง เราเลือกใช้ข้าวหอมมะลิเสาไห้ ที่คัดสรรมาอย่างพิเศษ นำมาขัดจนสะอาดและหุงจนได้เมล็ดข้าวที่เรียวสวย ใส ไม่มีฝุ่นข้าว แล้วนำมาดงกับน้ำลอยดอกไม้ที่ประกอบด้วยดอกไม้ 4 ชนิด ( ดอกชมนาด, ดอกกระดังงา, ดอกกุหลาบมอญ, ดอกมะลิ) ซึ่งน้ำที่ใช้สำหรับลอยดอกไม้ที่มีค่าความเป็นด่างถึง 8.8 (ph. 8.8) มีคุณประโยชน์ในการปรับสมดุลร่างกาย และยังทำให้กลิ่นของดอกไม้ออกมาผสมกับน้ำได้อย่างสมบูรณ์
“ข้าวแช่ จะรับประทานเคียงกับเครื่องข้าวแช่ อีก 7 อย่าง ประกอบด้วย ลูกกะปิทอด มีส่วนผสมของปลาดุกนาที่คัดสดใหม่แล้วนำมาย่างจนหอม แกะเอาเนื้อมาผัดผสมกับสมุนไพรหลายชนิด ปรุงรส แล้วนำมาปั้นเป็นลูกกลม จากนั้นนำมาชุบกับไข่แล้วทอดจนเป็นสีเหลืองน่ารับประทาน, พริกหยวกสอดไส้ไข่เค็มชุบแป้งทอด,หมูฝอยหวาน, หอมแดงสดไส้ชุบแป้งทอด, ไชโป๊วผัด และผักสดแกะสลัก ทั้งกระชาย มะม่วง และแตงกวา แนะว่า กระชายให้ทานคู่กับกะปิ และมะม่วงกับแตงกวาให้ทานคู่ไปกับเครื่องอื่นๆ จะครบรส ชื่นใจยิ่งนัก ส่วน ข้าวยำ อัตลักษณ์อาหารของภาคใต้ ที่ผสานความหลากหลายของสมุนไพรกับวัตถุดิบชั้นเลิศคลุกเคล้าน้ำยำสูตรพิเศษให้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวอย่างที่สุด”
เชฟเกวลิน พิทยานุกุล กล่าวว่า ความแตกต่างของ รอยัล โอชา นั้นเราให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีจากเกษตรกรในหลากหลายจังหวัดทั่วไทย รวมทั้งเสาะแสวงหาของดีขึ้นชื่อในแต่ละภาค มาสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยรสเลิศ เพื่อให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติดั้งเดิมของอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ทั้งในรูปแบบ A la carte และ Set menu โดยจะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเสิร์ฟตามฤดูกาล คิมหันต์ วสันต์ เหมันต์ เพื่อคงคุณค่าและรสชาติที่ดีที่สุดของวัตถุดิบในแต่ละฤดูกาลไว้ อีกทั้ง เรายังสร้างสรรค์เมนูอาหารภายใต้แนวคิด “อาหารเป็นยา” จึงเลือกใช้พืชผักและสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณทางยา มาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร และจัด Set menu อาหารประจำฤดูกาลให้ได้อิ่มอร่อย พร้อมช่วยบำรุงร่างกายจากภายในด้วยอาหารไทยเลิศรสหลากหลายเมนู และยังช่วยรักษาระบบนิเวศให้สมดุล
“อาหารไทยโบราณต้องกลมกล่อมไปด้วย 7 รสชาติในหนึ่งคำ คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม ปร่า มัน และฝาด โดยรสขม ปร่า ฝาด จากพืชผักและสมุนไพรไทยช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ให้กับอาหาร นี่คือภูมิปัญญาแพทย์ไทยที่ผสมผสานไว้ในวัฒนธรรมการกิน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสมุนไพรในน้ำต้มยำ เช่น ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยขับลมและช่วยย่อยอาหารทำให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น”
จูน-ศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ ร้านอาหารรอยัล โอชา กล่าวทิ้งท้ายว่า เรามีความตั้งใจที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชาวต่างชาติและคนไทยได้สัมผัสอาหารไทยอย่างเหนือระดับ ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุงและถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราวและวิถีชีวิต การกินอยู่ของคนไทยผ่านการปรุงรสชาติอาหาร นับว่าเป็นการยกระดับอาหารไทยที่มีเสน่ห์ รสชาติดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เป็นที่รู้จักอย่างขวางขว้างยิ่งขึ้น โดยมีแผนที่จะขยายสาขาร้านรอยัล โอชา ไปยังต่างประเทศ ทั้งที่ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสความเป็นไทยผ่านเสน่ห์ของรสชาติอาหารไทยสไตล์ไฟน์ ไดนิ่งอย่างแท้จริง
“ทุกเมนูของเรา คือเมนูพิเศษ ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความรักและความใส่ใจ โดยมี เชฟเกวลิน พิทยานุกุล เชฟผู้วิจัยและพัฒนาเมนู และ เชฟ วิชิต มุกุระ เชฟมิชลินไกด์ 2020 เป็นผู้ที่ร่วมกันสร้างสรรค์เมนูในสไตล์ไฟน์ ไดนิ่ง ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความละเมียดละไม ซึ่งได้รับการการันตีรสชาติอาหารและบรรยากาศชั้นเลิศ ด้วยรางวัลอันดับหนึ่งร้านอาหารไทยแนะนำจากหลากหลายเวทีทั่วโลก”
ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการรับประทาน “ข้าวแช่ชาววัง และข้าวยำ” ตำรับ รอยัล โอชา ได้แล้วทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม มื้อเที่ยง เวลา 11.00 - 15.00 น. และ มื้อเย็น เวลา 18.00 - 23.00 น. ในราคา 880++ บาท/ท่าน สำหรับมื้อกลางวัน และ 3,000 ++ ต่อ/ชุด สำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็น (ชุดข้าวแช่พรีเมียม) นอกจากนี้ ทางร้านยังมีข้าวแช่บรรจุในกล่องสวยงาม ในราคา 2,250 บาท/กล่อง (ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้า 2 วัน) ส่วนเมนูสไตล์ Chef’s Table โดย เชฟวิชิต มุกุระ กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า 1 สัปดาห์ สอบถามรายละเอียดได้ทาง โทร.02-256-6555 หรืออีเมล reservations@royalosha.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี