เมื่อเดือนเมษายน 2563  เครือข่ายโทรทัศน์จีน CGTN ( The China Global TV Network) ได้ยกย่องแพทย์สามคนที่มีบทบาทสำคัญในการสู้ภัยโควิดของโลก คือ  ดร.นูร์  ฮิชาม จากมาเลเซีย    ดร.แอนโทนี ฟอซี่ จากสหรัฐอเมริกา  และ ดร.แอชลีย์ บลูมฟิลด์ จากนิวซีแลนด์

ดร.แอชลีย์ บลูมฟิลด์ เป็นชาวนิวซีแลนด์ เกิดเมื่อพ.ศ.2509 พ่อเป็นผู้จัดการสาขาของบริษัทรถยนต์มิตซูบิชิ แม่เป็นครู  เรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ สาขาสาธารณสุขศาสตร์ และโรคไม่ติดต่อ  รับราชการจนได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมอนามัย(Director General of Health) ก่อนที่จะเกิดการระบาดของโรคโควิด ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2563 ไม่มีใครรู้จักหมอบลูมฟิลด์  เพราะเขาเป็นเพียงข้าราชการคนหนึ่งในกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์  แต่เมื่อเกิดเหตุร้ายแรง ดร.บลูมฟิลด์ ได้กลายเป็นคนที่ยืนเคียงข้างนายกรัฐมนตรีหญิง  จาซินดา อาร์เคน ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่องโควิดเป็นประจำ 5 วันต่อสัปดาห์   

ดร.บลูมฟิลด์   ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดอย่างละเอียด  ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง  และทันสมัย  ด้วยความใจเย็น สุภาพ และมั่นใจ เขาสามารถตอบคำถามที่ลึกซึ้งทางการแพทย์ให้ผู้ฟังเข้าใจได้ชัดเจน ทำให้ชาวนิวซีแลนด์หลายล้านคนติดตามคำชี้แจงของเขาทางโทรทัศน์ ทวิตเตอร์ และเฟสบุ๊ก ด้วยความชื่นชมและเชื่อถืออย่างกว้างขวาง คำขอร้องของ ดร.บลูมฟิลด์ กลายเป็นคำสั่งที่ชาวนิวซีแลนด์ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ปฏิบัติตามด้วยความเคารพ

"ตั้งแต่เริ่มต้น  ดร.บลูมฟิลด์ สื่อสารอย่างระมัดระวังด้วยท่วงท่านิ่งๆ ในเรื่องราวซับซ้อนเกี่ยวกับโควิด-19 ปูทางให้รัฐบาลนำไปใช้ในการตัดสินใจ" ซาราห์ ร็อบสัน นักข่าววิทยุเรดิโอนิวซีแลนด์ กล่าว "ด้วยความที่ ดร.บลูมฟิลด์ ชี้แจงอย่างชัดเจนเรื่องแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ ดังนั้นเมื่อ นายกรัฐมนตรี จาร์ซินดา บอกว่าเราต้องปิดเมืองล๊อกดาวน์ คนก็เลยเข้าใจว่าทำไมต้องทำ"

อัตราผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตของประเทศนิวซีแลนด์อยู่ในเกณฑ์ต่ำและลดลงอย่างต่ำเนื่อง  จนได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่จัดการกับโควิดได้ดีที่สุดในโลก

นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เคน กล่าวยกย่อง ดร.บลูมฟิลด์ ว่า  “ประเทศนิวซีแลนด์โชคดีอย่างยิ่งที่มีข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถอย่าง ดร.บลูมฟิลด์ มาบริหารงานด้านสาธารณสุขในช่วงวิกฤติโควิดเช่นนี้ ทำให้คนนิวซีแลนด์สามารถอยู่รอดได้ในภาวะคับขัน”