ธรรมชาติรังสรรค์ความงดงามให้แผ่นดินนี้ได้อย่างมหัศจรรย์ และยังเป็นความงามที่แสนบริสุทธิ์อีกด้วย
วันนี้ Mr. Flower พาคุณไปเที่ยวท่าปอม คลองสองน้ำ ณ บ้านหนองจิกเขาคราม อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่เพียง34 กิโลเมตรเท่านั้น อยู่บนถนนเส้นกระบี่-อ่าวลึก สาเหตุที่ได้ชื่อว่าคลองสองน้ำเพราะว่าน้ำในลำคลองของท่าปอมมีสองสีคือสีครามของน้ำทะเล และสีขาวใสของน้ำตก ที่มาบรรจบกันในคลองแห่งนี้ (คลองมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร) แล้วทำให้สามารถมองเห็นสีของน้ำที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะหากไปท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้ในวันที่น้ำทะเลหนุนสูง ก็จะยิ่งเห็นน้ำสีครามตัดกันสีขาวได้ชัดมากๆ
ต้นกำเนิดของน้ำสีขาวใสอยู่คือน้ำผุดบนเขาช่องพระแก้ว ส่วนสีครามของน้ำเกิดมาจากน้ำทะเลของทะเลอันดามัน คลองสายนี้ไหลลงสู่ทะเลอันดามันที่บ้านท่าปอม จึงทำให้น้ำจากสองแหล่งไหลเข้ามาประสบกันแล้วแบ่งเป็นสองสีอย่างมหัศจรรย์
น้ำที่บริเวณท่าปอมใสสวยงามมากมีสีเขียวฟ้าครามใสราวกับกระจกใส แถมในบริเวณนี้ก็ยังมีความร่มรื่นด้วยพรรณไม้ของป่าชายเลน นับว่าเป็นระบบนิเวศที่แสนอุดมแห่งหนึ่งของกระบี่ เป็นทั้งป่าพรุ ป่าดิบชื้น และป่าชายเลน เป็นที่บริบาลของสัตว์น้ำนานาชนิด
ทางเดินเข้าชมแหล่งน้ำสองสีแห่งนี้เป็นสะพานคอนกรีตขนาดเล็ก ที่สร้างเข้าไปในเขตต้นไม้ จึงทำให้มีร่มเงาของต้นไม้ปกคลุมทางเดินเกือบตลอดเส้นทาง ความยาวของสะพานประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ บริเวณสุดทางเดินเป็นแหล่งน้ำหรือบ่อน้ำใสแจ๋วสีเขียวคราม ความใสของน้ำไม่ต่างไปจากสระมรกต (ในกระบี่)
แต่ที่สุดแสนมหัศจรรย์ชวนให้ใหลหลงยิ่งนักคือ รากไม้ของต้นชมพูน้ำ และต้นไม้ชนิดอื่นๆ ที่อยู่ริมลำธารมีความงดงามจนเกินบรรยาย เพราะรากของต้นไม้เหล่านั้นเติบโตอยู่บนสายน้ำ โดยส่วนที่โผล่พ้นผิวดินมีความสลับซับซ้อน สอดประสานกันเป็นลวดลายต่างๆ ที่ชวนให้นึกถึงเส้นสายสารพัดเส้นที่ตัดพาดผ่านกันไป-มา บางคนจินตนาการว่าเป็นเส้นผม (สีขาวดอกเลา) ของนางพญางูขาว บางคนจินตนาการว่าเป็นเสมือนการถักทอเส้นใยโดยฝีมือของธรรมชาติ
อันที่จริง Mr. Flower เคยเข้าไปชมความงามของท่าปอมคลองสองน้ำครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ในครั้งนั้นการเดินทางเข้าไปชมยังไม่สะดวกสบายเฉกเช่นทุกวันนี้เพราะยังต้องเดินบนสะพานไม้ที่ทำขึ้นแบบชั่วคราว แต่ขอบอกว่าภาพของความงามของรากไม้ และความใสสะอาดของลำธารในวันวานมีมากกว่าปัจจุบันหลายร้อยเท่า รากไม้ในวันก่อนยังงดงามมาก เพราะไม่มีมนุษย์บุกลงไปเหยียบย่ำรากไม้ ดังนั้นจึงทำให้มองเห็นรากไม้ที่สมบูรณ์ซึ่งงอกลงกระจายในสายน้ำ แต่ในระยะหลังนั้น มนุษย์ (จำพวกเที่ยวแบบไร้ความคิด)ต่างพากันลงไปเหยียบย่ำทำลายรากไม้ที่เคยงดงาม จนมันกุดด้วนเสมอถูกตัด จนความงามที่เคยมีมาก่อนลดหายไปอย่างน่าเสียดาย
วันนี้ ในยามที่โลกเผชิญวิกฤติโควิด-19 ผู้คนเข้าไปเที่ยวท่าปอมคลองสองน้ำลดลง ซึ่งก็เป็นโอกาสอันดีที่น่าจะทำให้ธรรมชาติฟื้นคืนตัวกลับมาได้บ้าง หวังว่าความงามของธรรมชาติจะสามารถกลับมาได้อีกครั้ง วันนี้ Mr. Flower นำภาพท่าปอมคลองสองน้ำที่ปราศจากผู้คนมาฝากคุณและบอกกับคุณๆ ว่า รอให้ธรรมชาติฟื้นตัวสักระยะ แล้วเมื่อโควิด-19 ซาลงไป หรือผ่านพ้นไป จะพาคุณไปสัมผัสความงามของท่าปอมคลองสองน้ำด้วยกัน สนใจร่วมเดินทางด้วยกัน ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี