สถานการณ์ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด ทำให้เกิดวิถีปกติใหม่หรือ New Normal พฤติกรรมการปรับตัวที่เห็นได้ชัดเจน คือ การหันมาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารมากขึ้น และเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า “อาหาร” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ก้าวข้ามวิกฤติไปได้ ดังนั้น การสร้างความมั่นคงทางอาหาร จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าในสถานการณ์ปกติหรือภาวะวิกฤติ เช่นเดียวกับการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการส่งเสริมให้โรงเรียนและชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนิน “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 32 ภายใต้ความร่วมมือของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และภาคีเครือข่าย ซึ่งมีโรงเรียนที่เป็นสมาชิกของโครงการฯรวม 880 โรงเรียนจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เรียกได้ว่าเป็น “คลังเสบียง” ที่สำคัญของชุมชนได้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด- 19
บรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข จ.สระแก้ว เล่าว่า โควิดทำให้ทุกคนไม่กล้าขยับไปไหน โรงเรียนจึงทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง นำเสบียงไปจำหน่ายให้ชุมชนตามบ้าน ซึ่งโรงเรียนบ้านแสนสุข มีโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทและซีพีเอฟ ปัจจุบันเลี้ยงไก่ 100 ตัวมีผลผลิตวันละ 90 ฟอง หรือ 3 แผง ผมก็จะรับหน้าที่ Delivery นำไข่ไก่ไปส่งให้ตามบ้าน ประมาณ 2 วัน /ครั้ง รวมทั้งผลผลิตพืชผักสวนครัวที่โรงเรียนปลูกไว้ ทั้งผักสด และผลผลิตที่นำมาแปรรูปเป็นอาหาร เช่น หน่อไม้ นำมา ทำเป็นแกงเปรอะ เป็นต้น ถึงจะอยู่ในช่วงโควิดแต่ชุมชนได้บริโภคสารอาหารครบถ้วน ทั้งโปรตีนจากไข่ไก่ และสารอาหารจากผลผลิตทางการเกษตรของโรงเรียน ขณะที่โรงเรียนมีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตไข่ไก่และวัตถุดิบที่เป็นผลผลิตอยู่ที่ 1,200-1,800 บาทต่อครั้งที่จำหน่าย
วายุวัฒน์ ชัยวรรณะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเมืองกาญจน์ เล่าว่า โรงเรียนบ้านเมืองกาญจน์ เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่มาตั้งแต่ปี 2561 โดยปัจจุบันเลี้ยงไก่เป็นรุ่นที่ 2 แล้ว จำนวน 300 ตัว ได้ผลผลิตไข่ไก่วันละ 9 แผง(แผงละ 30 ฟอง) ในช่วงปกติจะนำผลผลิตไข่ไก่ส่งเข้าโครงการอาหารกลางวันนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้บริโภคอาหารที่ทำจากไข่ไก่สัปดาห์ละ 3 วัน แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอม ไม่สามารถส่งผลผลิตไข่ไก่เข้าโครงการอาหารกลางวันได้ มีการบริหารจัดการโดยจำหน่ายให้แก่คุณครูและชุมชนในราคาแผงละ 80 บาท โดยชุมชนเข้ามารับซื้อถึงที่โรงเรียน ส่วนในช่วงสถานการณ์ปกติเปิดเทอม ชุมชนจะเข้ามาซื้อไข่ไก่จากสหกรณ์ของโรงเรียน นอกจากนี้ นักเรียนและคณะครูนำผลผลิตไปจำหน่ายตามร้านอาหารในตัวอำเภอ และยังมีโรงเรียนในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันอีกหลายแห่ง ที่พร้อมเป็นคลังเสบียงให้ชุมชนในช่วงโควิด-19 นำผลผลิตไข่ไก่จำหน่ายสู่ชุมชน ได้บริโภคไข่ไก่ที่สด สะอาด ราคาย่อมเยา
สรพงษ์ คำดี คุณครูที่รับผิดชอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โรงเรียนบ้านเมืองเก่าศรีอินทราทิตย์ จ.สุโขทัย เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เมื่อปี 2563 มีจำนวนไก่ที่เลี้ยงไว้ 200 ตัว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟ เล่าว่า ถึงแม้ในช่วงปิดเทอม โรงเรียนจะไม่ได้ส่งผลผลิตไข่ไก่เข้าโครงการอาหารกลางวัน แต่ก็สามารถบริหารจัดการผลผลิตได้ทุกวัน โดยนำไปขายกับคุณครูในโรงเรียน หรือชุมชนที่เข้ามาขอซื้อไข่ไก่จากโรงเรียน เพราะราคาถูกกว่าท้องตลาดโดยในช่วงที่เด็กๆ ซึ่งเป็นอาสาสมัครรับผิดชอบดูแลโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ อยู่ในช่วงปิดเทอม โรงเรียนมอบหมายหน้าที่ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้พิการที่ทางซีพีเอฟจ้างมาช่วยงานในโรงเรียน ช่วยทำหน้าที่เก็บไข่ไก่ ให้อาหารไก่และทำความสะอาดโรงเรือน ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระของโรงเรียนได้มาก
ด้าน ประสงค์ สิทธิวงค์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านดู่(สหราษฎร์พัฒนาคาร) จ.เชียงราย ดูแลโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน กล่าวว่า ช่วงที่เด็กๆ ปิดเทอม โรงเรียนมีการบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่ที่เก็บผลผลิตได้วันละ 7 แผง (แผงละ 30 ฟอง) จากแม่ไก่ที่เลี้ยงไว้กว่า 200 ตัว นำผลผลิตไปจำหน่ายให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนและคนในชุมชน โดยจะออกไปจำหน่ายให้ถึงที่บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีผู้ปกครองนักเรียนบางท่านที่ทำงานโรงงานในพื้นที่ มาช่วยรับไข่ไก่จากโรงเรียนไปช่วยขายให้เพื่อนๆ พนักงานในโรงงาน ถือว่าการที่โรงเรียนมีส่วนร่วมในการผลิตอาหาร เช่น ผลผลิตไข่ไก่ สามารถเป็นแหล่งอาหารของชุมชนได้อีกทางหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี