SACICT ยกระดับภูมิปัญญาหัตถศิลป์ถิ่นภาคใต้  จากใจย่ายาย...สู่เครือข่ายคนรุ่นใหม่

SACICT ยกระดับภูมิปัญญาหัตถศิลป์ถิ่นภาคใต้ จากใจย่ายาย...สู่เครือข่ายคนรุ่นใหม่

วันจันทร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag :

พรพล เอกอรรถพร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT มีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติ เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในยุคปัจจุบัน โดย SACICT ได้ลงพื้นที่ อ.นาโยง จ.ตรัง เพื่อพัฒนาผ้าทอนาหมื่นศรี ต่อยอดยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ให้สามารถตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่ ขณะเดียวกันก็เร่งสืบสานองค์ความรู้ภูมิปัญญาให้ตกทอดไปยังคนรุ่นใหม่ รวมทั้งมุ่งเน้นการส่งเสริมให้คนในชุมชนทำงานศิลปหัตถกรรมเพื่อสร้างงานและสร้างรายได้แก่ท้องถิ่น เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากสร้างผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์รายใหม่ๆเข้าสู่ตลาดผ่านการเป็นสมาชิกของ SACICT พร้อมเพิ่มพูนทักษะในการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการบริหารจัดการและทักษะการตลาดดิจิทัลที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจในปัจจุบัน

 


ลัดดา ชูบัว ทายาทช่างศิลปหัตถกรรมปี 2562 ของ SACICT

 

ลัดดา ชูบัว ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2562 ของ SACICT กล่าวว่า ผ้าทอนาหมื่นศรีอยู่คู่ชาวตรังมากว่า 200 ปี ซึ่งตนเองนั้นต้องการสานต่อเจตนารมณ์ในการอนุรักษ์ผ้าทอนาหมื่นศรีของ ครูกุศล นิลลออ ครูศิลป์ของแผ่นดินปี 2554 ของ SACICT ที่ปัจจุบันได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่คุณค่าและเรื่องราวทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ ว่ากันว่าช่วงชีวิตของสาวตรัง จะมีความเกี่ยวพันกับผ้า 3 ผืน ด้วยกัน คือ 1.ผ้าตั้ง หญิงสาวทอไว้ใส่พาน เตรียมสำหรับเจ้าบ่าวในงานแต่งงาน 2.ผ้าห่ม แม่ทอเตรียมไว้สำหรับลูกชายที่จะเป็นเจ้านาคตอนบวช และ 3.ผ้าพานช้าง ย่ายายเตรียมไว้สำหรับตอนที่ตัวเองเสียชีวิต สำหรับพาดโลงศพ ความเชื่อและศรัทธาอยู่เบื้องหลังผืนผ้าชิ้นงามนี้เองที่ทำให้เกิดอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ผ้าทอนาหมื่นศรียังขึ้นชื่อว่าเป็นผ้าที่ทอยากมาก โดยเฉพาะลายแก้วชิงดวง ปัจจุบันชาวบ้านเร่งพัฒนาลวดลายใหม่ๆ ให้ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่มากขึ้น

โรงเรียนในชุมชนเองก็มีการเชื่อมโยงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สานต่องานผ้าทอนาหมื่นศรี เยาวชนตัวน้อยมาเป็นมัคคุเทศก์ตัวจิ๋วให้แก่ผู้มาท่องเที่ยว เป็นแหล่งเรียนรู้ให้เด็กๆ ใน จ.ตรังและพื้นที่ใกล้เคียง ก่อเกิดความรักความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์พื้นถิ่นและส่งต่อความภาคภูมิใจนี้ไปยังคนรุ่นต่อไป

 

ด.ญ.กมลวรรณ เชยชื่นจิตร และ ด.ญ.เพชรดา แท่นมาก

ด.ญ.เพชรดา แท่นมาก หรือน้องน้ำเพชร อายุ 13 ปี ชั้น ม.1 โรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข และ ด.ญ.กมลวรรณ เชยชื่นจิตร น้องนิ้ง วัย 9 ขวบ ชั้น ป.3  โรงเรียนวัดกระพังสุรินทร์ เล่าให้ฟังว่า “พวกหนูเป็นลูกหลานในชุมชนนาโยง เห็นย่ายายและแม่ทอผ้านาหมื่นศรีมาตั้งแต่เด็ก ผูกพันเพราะเป็นผ้าที่สวย มีลายแปลกๆ เช่น ลายปลา ลายนก ลายดอกไม้ เมื่อมารับหน้าที่มัคคุเทศก์ถ่ายทอดเรื่องราวของผ้าทอนาหมื่นศรีให้ผู้มาเยือนได้รับรู้ ทำให้ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจ ยิ่งตอนนี้มีพี่ๆ เข้ามาช่วยออกแบบเป็นของใช้ที่น่ารักเยอะแยะเลย ใครๆ ก็ชอบ ทำให้ยิ้มแก้มปริค่ะ”

 

ด.ญ.นัสรียา ทองเผือก หรือน้องญา

ด.ญ.นัสรียา ทองเผือก หรือ น้องญา อายุ 11 ปี ชั้นป.5 โรงเรียนบ้านทุ่งสภากาชาดอุปถัมภ์ 2550 บอกว่า “วันนี้ดีใจที่ได้มาเที่ยวที่ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรีมีป้าๆ ทอผ้าได้ละเอียดและสีสวยมากหนูภูมิใจที่เกิดเป็นลูกหลานคนตรังอยากให้ผ้าสวยๆแบบนี้อยู่กับบ้านเราไปอีกนานๆ ถ้าหนูโตขึ้นหนูอยากใส่ชุดที่ตัดด้วยผ้าทอนาหมื่นศรี เพราะมันจะต้องสวยมากแน่ๆ ค่ะ”

ผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง ในวันนี้จึงไม่ได้ถูกพัฒนาในมิติของตัวผลิตภัณฑ์และการตลาดเท่านั้น แต่คือการปลูกความรักความภาคภูมิใจให้เติบโตในใจของคนรุ่นใหม่ เกิดความหวงแหนและเต็มใจที่จะสืบทอดมรดกทางภูมิปัญญานี้ไว้ไม่ให้สูญหาย เพื่อให้ผ้าทอนาหมื่นศรียังคงยืนหยัดอยู่ในสังคมไทยต่อไปอย่างภาคภูมิ

พรพล เอกอรรถพร ผอ. SACICT กับ อารอบ เรืองสังข์ ประธานชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี
พรพล เอกอรรถพร ผอ. SACICT กับ อารอบ เรืองสังข์ ประธานชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี
มัคคุเทศก์จิ๋วนำชมพิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี ที่รวบรวมเรื่องราวและผ้าโบราณ
มัคคุเทศก์จิ๋วนำชมพิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี ที่รวบรวมเรื่องราวและผ้าโบราณ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top