วัชระ ประยูรคำ ช่างปั้น
การเดินทางเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศตะวันตกนั้น เป็นที่รู้กันว่า พระวิสุทธสุนทร (ปาน) หรือ “โกษาปาน” นั้น เป็นบุคคลแรกแห่งการทูตสยาม อาทิตย์นี้ได้ตามรอยสยามไปถึงตระกูลและบทบาทของ เจ้าพระยาโกษาธิบดีผู้มีนามเดิมว่า ปาน ซึ่งเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๑๗๖ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เป็นบุตรชายของ เจ้าแม่วัดดุสิต (หม่อมบัว) พระนมเอกของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กับ หม่อมเจ้าเจิดอำไพ ผู้สืบเชื้อสายจากพระเจ้าปราสาททอง หากสืบตระกูลของเจ้าแม่วัดดุสิต พบว่า ตระกูลนี้สืบจากพระราชธิดาของสมเด็จพระเอกาทศรถราชวงศ์สุโขทัย ซึ่งแต่งงานกับบุคคลในตระกูลของพญาพระราม ขุนนางมอญผู้อพยพมาอยู่กรุงศรีอยุธยาพร้อมกับพระมหาเถรคันฉ่องและพระยาเกียน ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และได้สืบตระกูลต่อมาอีกหลายรุ่นจนถึงเจ้าแม่วัดดุสิต (หม่อมบัว) หรือท้าวสมศักดิ์มหาธาตี (หม่อมบัว) นางมีบุตร ๓ คน รับราชการอยู่กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คือ เหล็ก ได้เป็นเจ้าพระยาโกษาธิบดี แจ่ม ได้เป็นพระสนมเอก และ ปาน ได้เป็นพระวิสุทธสุนทร ราชทูตและเจ้าพระยาโกษาธิบดี ตามลำดับ
เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) นั้น มีบุตรชายคนโตชื่อ “ขุนทอง” รับราชการในสมเด็จพระเจ้าเสือ ได้เป็น พระยาอัษฎาเรืองเดช, เจ้าพระยาวรวงษาธิราช เสนาบดีคลัง และมีบุตรชายชื่อ “ทองคำ” เข้ารับราชการเป็นจมื่นมหาสนิทมหาดเล็กในเจ้าฟ้าเพชร พระบัณฑูตใหญ่ และได้เป็นพระยาราชนกูลในพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ(เจ้าฟ้าเพชร) พระยาราชนกูลผู้มีบุตรสืบตระกูลชื่อ “ทองดี” ได้เข้ารับราชการในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เป็นขุนพินิจอักษรและพระอักษรสุนทรศาสตร์ บุคคลผู้นี้เป็นบิดาของ “ทองด้วง” ผู้เป็นพระปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรี คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในกรุงรัตนโกสินทร์
คณะราชฑูตของพระนารายณ์
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้นเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) เป็นขุนนางผู้ใหญ่ที่บทบาทสำคัญมาแต่ครั้งเป็นพระวิสุทธสุนทรคือได้เป็นราชทูตราชสำนักผู้เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักฝรั่งเศสใน พ.ศ. ๒๒๒๙ โดยมีออกพระวิสุทธสุนทร (ปาน) เป็นราชทูต, ออกหลวงกัลยาราชไมตรี เป็นอุปทูต,และออกขุนศรีวิสารวาจา เป็นตรีทูต พร้อมทั้งบาทหลวงเดอ ลีออง และผู้ติดตาม รวมกว่า ๔๐ คนออกเดินทางจากกรุงศรีอยุธยาในวันที่ ๑๘ มิถุนายนพ.ศ.๒๒๒๙ เมื่อถึงฝรั่งเศสแล้วได้เข้าเฝ้าฯพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๒๒๙ ณ พระราชวังแวร์ซาย และเดินทางกลับเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๒๓๐ ด้วย
สมัยนั้น ฝรั่งเศสได้เข้ามามีอิทธิพลในราชสำนักของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมาก แม้ว่าจะมีจุดประสงค์เผยแพร่คริสต์ศาสนาก็ตามแต่ก็พยายามที่จะชักชวนให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเข้ารีตเป็นคริสตชนรวมทั้งพยายามมีอำนาจทางการเมืองในอยุธยาด้วยการเจรจาขอตั้งกำลังทหารของตนที่เมืองบางกอกและเมืองมะริด แต่ด้วยพระวิสุทธสุนทรนั้นเป็นนักการทูตที่สุขุม ไม่พูดมาก มีความละเอียดในการบันทึกสิ่งที่พบเห็นในการเดินทางและการเข้าเฝ้าฯ พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ นั้น พระองค์ได้ยกย่องชื่นชมว่า “ราชทูตของพระองค์นี้รู้สึกว่า เป็นคนรอบคอบ รู้จักปฏิบัติราชกิจของพระองค์ถี่ถ้วนดีมาก หากเรามิฉวยโอกาสนี้เพื่อเผยแพร่ความชอบแห่งราชทูตของพระองค์บ้างก็จะเป็นการอยุติธรรมไป เพราะราชทูตได้ปฏิบัติล้วนถูกใจเราทุกอย่าง โดยแต่น้ำคำที่พูดออกมาทีไรแต่ละคำก็ดูน่าปลื้มใจ และน่าเชื่อถือทุกคำ เหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกที่พระเจ้าแผ่นดินฝ่ายตะวันออกแต่งราชทูตไปยังฝรั่งเศส และมีการจัดรับรองคณะราชทูตอย่างสมเกียรติยศ และโปรดให้ทำเหรียญที่ระลึกและเขียนรูปเหตุการณ์เอาไว้เป็นประวัติศาสตร์ด้วย หลังสุด สมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทยฯ และพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสร้างอนุสรณ์ปั้นรูปหล่อเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) โดยศิลปินประติมากรรม วัชระ ประยูรคำ ไว้ที่ถนนสยามเมืองแบรสต์ ในฝรั่งเศส เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความสัมพันธ์อันดีที่มีมาแต่อดีต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี