วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
คุยกัน7วันหน : ‘ผู้ชนะ’ โควิดในเอเชียเริ่มสั่นคลอน?

คุยกัน7วันหน : ‘ผู้ชนะ’ โควิดในเอเชียเริ่มสั่นคลอน?

วันอาทิตย์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag : คุยกัน7วันหน
  •  

ปีที่แล้วหลายประเทศและดินแดนในเอเชียแปซิฟิกได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชนะ สามารถรับมือกับโควิด-19 ได้ดี ด้วยการรับมือเชิงรุก เช่น การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดการติดตามและการติดต่อผู้ติดเชื้อหรือผู้มีความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอจนมีอีกหลายประเทศนำไปปฏิบัติตาม

ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เวียดนาม ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้และไต้หวัน คือประเทศและดินแดนที่เคยได้รับคำชมว่าสามารถรับมือกับโควิดได้ดี แต่ขณะนี้เริ่มถูกวิจารณ์ ว่ารัฐบาลของพวกเขาไม่มีแผนรับมือกับโควิด-19 ที่แข็งแกร่งพอสำหรับเปิดประเทศอีกครั้ง


วิธีที่พวกเขาเคยใช้ เช่น การปิดพรมแดน หรือ การล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด ถูกวิจารณ์ว่าแม้จะได้ผลดี แต่พวกเขาไม่อาจจะซ่อนตัวจากโลกนี้ได้ตลอดไป

ในปีที่สองของการแพร่ระบาด พวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาใหม่ เช่น โควิดกลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมบวกกับการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่างๆ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ อัตราการติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในไต้หวันและเวียดนาม ที่ขณะนี้กำลังเผชิญกับคลื่นโควิดอย่างเต็มรูปแบบ

การผ่อนคลายมาตรการกักตัวให้กับนักบินสายการบินพาณิชย์เพียงเล็กน้อยของไต้หวัน ทำให้เกิดคลัสเตอร์อย่างรวดเร็ว ส่วนที่เวียดนามไวรัสกลายพันธุ์ทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่หลายแห่ง บวกกับการรวมตัวของคนในชุมชนก็ยิ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นทำสถิติใหม่อีกครั้งช่วงหลายเดือนก่อน สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่หลายฝ่ายกำลังกังวลเกี่ยวกับโอลิมปิกเกมส์ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้าว่าอาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น

ขณะที่สิงคโปร์ ฮ่องกงและออสเตรเลีย ที่แม้พบอัตราการติดเชื้อไม่มากนัก แต่ก็กระตุ้นให้ทางการมีปฏิกิริยาตอบโต้ทันที ออสเตรเลียสั่งปิดเมืองเมลเบิร์น
2 สัปดาห์ ขณะที่สิงคโปร์สั่งล็อกดาวน์บางพื้นที่ 4 สัปดาห์

แม้การระบาดในประเทศและดินแดนดังกล่าวจะถูกควบคุมได้แล้ว ด้วยมาตรการต่างๆ แต่หลายประเทศกลับไม่ประสบความสำเร็จในแง่ของการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้กับประชาชน

BBC วิเคราะห์ว่า หลายประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 และสามารถซื้อวัคซีนได้มีความคืบหน้าของโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำ รัฐบาลไม่ค่อยจะกระตือรือร้นในการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับพลเมืองของตนนัก เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีอัตราผู้ติดเชื้อสูง ที่ประชากรได้รับวัคซีนแล้วประมาณครึ่งหนึ่งหรือเกินครึ่งของประชากรทั้งหมด แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศและดินแดนที่ประสบความสำเร็จในการรับมือกับโควิด-19 ในเอเชียแปซิฟิกที่เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ได้รับวัคซีนต้านโควิดยังต่ำกว่า 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด ทั้งที่เป็นประเทศและดินแดนที่ร่ำรวย เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาะไต้หวัน ซึ่งน่าจะมีความสามารถในการจัดซื้อจัดหาวัคซีนในระดับเดียวกับยุโรปและสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ความลังเลใจของประชาชน เช่น ในฮ่องกงหรือไต้หวัน ที่ไม่ไว้วางใจหน่วยงานด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการฉีดวัคซีน ก็ทำให้ความคืบหน้าโครงการฉีดวัคซีนช้าลงไปอีก

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า เนื่องจากว่าโควิดแพร่ระบาดไปทั่วโลก การที่จะเปิดได้อย่างแท้จริง จะต้องละทิ้งแนวคิด “โควิดเป็นศูนย์” ซึ่งไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง และอยู่กับไวรัสนี้ให้ได้ ส่วนทางออกที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ หนึ่งในนั้นก็คือการเร่งฉีดวัคซีนต้านโควิดให้กับประชาชน

แต่ปัญหาก็คือ ขณะนี้หลายประเทศยังไม่สามารถทำได้ และไม่รู้จะแก้สถานการณ์ได้เมื่อไหร่

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ \'คนโง่เท่านั้น\' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้ คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ 'คนโง่เท่านั้น' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้
  • คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น
  • คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่ คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่
  • คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์ คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์
  • คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก
  • คุยกัน7วันหน : มิน อ่อง หล่าย เยือนไทย  ประชุม BIMSTEC ‘ได้หรือเสีย’ คุยกัน7วันหน : มิน อ่อง หล่าย เยือนไทย ประชุม BIMSTEC ‘ได้หรือเสีย’
  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved