สถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงกว่าวิกฤติเศรษฐกิจ การปิดตัวของธุรกิจและกิจการต่างๆ ทำให้จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น ในช่วงมากกว่า 1 ปี ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19กลุ่มเปราะบางถูกกระทบทั้งสภาพความเป็นอยู่และรายได้ อาทิ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ผู้สูงอายุผู้พิการ เป็นกลุ่มที่ต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ ภาคเอกชนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนโครงการช่วยดูแลและส่งเสริมคุณค่าของผู้พิการในสังคมให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว แม้จะอยู่ในช่วงโควิด-19 อาทิ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ที่มีวัตถุประสงค์หลักแก้ปัญหาทุพโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลและในถิ่นทุรกันดาร เป็นความร่วมมือของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)หรือซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และเครือข่ายพันธมิตร ที่ดำเนินโครงการมามากกว่า 30 ปีแล้ว ขณะเดียวกันการดำเนินโครงการดังกล่าวช่วยสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและความมั่นคงในชีวิตของผู้พิการ โดยจ้างงานผู้พิการในชุมชนช่วยทำงานในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนตามศักยภาพของผู้พิการ เช่น ช่วยดูแลความสะอาดบริเวณโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ทำความสะอาดภายในโรงเรียนรดน้ำต้นไม้ ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น โดยเฉพาะจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ผู้พิการหลายรายเป็นเรี่ยวแรงหลักในการหารายได้เพื่อดูแลครอบครัว เพราะคนในครอบครัวที่เคยมีงานทำต้องตกงานจากการถูกเลิกจ้าง
“แม็ก” อายุ 24 ปี ผู้พิการที่ซีพีเอฟจ้างช่วยงานในโรงเรียนบ้านดู่(สหราษฎร์พัฒนาคาร) อ.เมือง จ.เชียงราย เล่าว่า ประสบอุบัติเหตุทำให้นิ้วขาด ปัจจุบันช่วยทำงานที่โรงเรียน 4-5 เดือนขอบคุณซีพีเอฟที่มีโครงการดีๆ ทำให้ผู้พิการมีงานทำ มีรายได้ เพราะโอกาสในการหางานทำของผู้พิการไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงโควิด-19 น้องสาวของตน 2 คนทำงานในร้านอาหารและร้านบุฟเฟ่ต์ต้องตกงาน จึงเหลือผมเพียงคนเดียวที่มีรายได้เป็นเสาหลักของครอบครัว เลี้ยงดูพ่อแม่ และช่วยเหลือน้องๆ บางส่วน
“เค” อายุ 44 ปี ช่วยงานในโรงเรียนบ้านเมืองเก่าศรีอินทราทิตย์ ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย เล่าว่า ประสบอุบัติเหตุรถล้มตั้งแต่อายุ 18 ปี ทำให้หลังเหยียดตรงไม่ได้ก่อนหน้าที่จะมาทำงานที่โรงเรียน เคยเป็นช่างแกะสลักไม้แต่รายได้ไม่แน่นอน จึงสมัครเข้าทำงานที่โรงเรียนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน2563 มีหน้าที่ดูแลความสะอาดบริเวณโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ให้อาหารไก่ เก็บไข่ไก่ จดบันทึกผลผลิตไข่ไก่แต่ละวัน รดน้ำต้นไม้ เป็นต้นทำงานที่นี่มีความสุข สบายใจ สภาพความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น รายได้พอกิน พอใช้ พอเลี้ยงตัวเองและเลี้ยงแม่ ตั้งใจจะทำงานช่วยโรงเรียนไปเรื่อยๆ ขอบคุณซีพีเอฟที่ทำให้ผมมีงานทำ อยากให้มีโครงการดีๆ อย่างนี้ตลอดไป
ด้าน “นิ” อายุ 32 ปี ช่วยเหลืองานที่โรงเรียนบ้านเมืองกาญจน์ จ.เชียงรายเล่าว่า มีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ปกติของระบบประสาท เคยใฝ่ฝันจะเป็นคุณครู เธอโชคดีถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคุณครู แต่ได้ช่วยงานของคุณครู แบ่งเบาภาระงานต่างๆ ในโรงเรียน งานที่ได้รับมอบหมาย เช่น ปลูกผัก รดน้ำต้นไม้ดูแลความสะอาดบริเวณโรงเรียน อยากให้ซีพีเอฟทำโครงการดีๆ แบบนี้ให้กับทุกโรงเรียนเพราะเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้พิการมีโอกาสมีงานทำ มีความมั่นคงในชีวิต ไม่เป็นภาระของครอบครัว และภูมิใจที่มีส่วนในการดูแลคนในครอบครัวด้วย
ปัจจุบัน ซีพีเอฟจัดจ้างผู้พิการช่วยทำงานในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนรวม 394 รายใน 242 โรงเรียนทั่วประเทศ (ณ มิ.ย. 2564มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน 855 โรงเรียน) นอกจากช่วยสนับสนุนให้ผู้พิการมีงานทำและมีรายได้ยังเป็นการสร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจให้กับผู้พิการ ลดภาระของโรงเรียนในการจัดจ้างนักการเพื่อช่วยงานต่างๆ ในโรงเรียน สามารถนำงบประมาณไปใช้พัฒนาโรงเรียนในด้านอื่นๆ
โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาทุพโภชนาการและการขาดสารอาหารของเด็กนักเรียน แต่ซีพีเอฟยังใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านอาหาร ถ่ายทอดองค์ความรูู้การเลี้ยงไก่ไข่ให้กับคุณครูและนักเรียน สามารถนำไปใช้เป็นอาชีพได้ ในอีกด้านหนึ่งโครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตให้แก่ผู้พิการโดยจ้างงานผู้พิการช่วยงานของโรงเรียน ทำให้มีรายได้เลี้ยงตัวเอง พึ่งพาตนเองได้ และยังจุนเจือไปถึงครอบครัวด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี