หนังสือเด่นท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกปัจจุบัน ทำให้พฤติกรรมขอคนในองค์กรต่างๆเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน การแข่งขันธุรกิจได้เปลี่ยนไปจากที่สมัยก่อนองค์กรใหญ่ได้เปรียบมากมากกว่าในการแข่งขัน ทุกอย่างมีโอกาสเท่าเทียมกันหมด
ดังนั้นการสร้างความรู้หรือ"การบริหารจัดการความรู้"จึงได้กลายเป็นเครื่องที่ขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบันเพื่อการเติบโต สร้างความมั่นคง เพิ่มศักยภาพในการสร้างงานอุตสาหกรรมทุกรูปแบบ ดังนั้นการจัดการความรู้Knowledge Managment จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเป็นเครื่องมือในการช่วยองค์กรสามารถปรับตัวกับโลกปัจจุบันและโลกอนาคตคือเป็นเครื่องมือหลักที่จะพาองค์กรก้าวสู่ระดับโลกยืนอยู่ต่อไปอย่างสง่างาม
หนังสือ KM Knowledge Management เขียนโดยศุภวิทย์ ภาษิตนิรันดร์ และแพทย์หญิงญาณี โชคสมงามผู้คร่ำหวอดด้านการศึกษาได้เขียนขึ้นมาท่ามกลางNew Normal ที่ความรู้ในองค์กรเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นทรัพย์สินของผู้บริหารทุกคนในองค์กร หนังสือเล่มนี้ได้นำบทเรียนและความรู้ที่เป็นสากลมาถ่ายทอดที่เข้าใจง่าย พร้อมนำประสบการณ์ส่วนตัวมาบรรยายเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนในการทำงาน
อาทิ
บทนำและบทที่1ได้พูดถึงDo or Dieคือเลือกที่จะตายหรับมือกับกับความท้าทายใหม่ๆ ธุรกิจเลือกได้ในเรื่องได้พูดถึงfordและToyotaที่เลือกเปลี่ยนแปลงในรอบ100ปีได้เจาะลึกถึงการปรับตัวของยักษ์ใหญ่ดังกล่าวทั้งระบบ
บทที่2พูดถึง"จะยืนหยัดเป็นคนสุดท้าย หรือจะกลายเป็นผู้ทำเทรนด์พูดถึงการdisruptionต่างๆ พูดถึงการอยู่รอดในยุคdisruptionเพื่อเป็นlast Man Standing ขององค์กรต่างไปอาทิบาร์บีคิวพลาซ่าพัฒนาเป็นfood passionด้วยการปรับระบบต่างๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ USJ The Ride-Backdrop รถไฟเหาะวิ่งถอยหลัง สร้างลานซอมบี้หลังเที่ยงคืนเป็นต้นการปรับตัวของธุรกิจไอบีเอ็ม การกำเนิดไอโฟนเป็นต้น บทที่3KMช่วยจัดการปัญหาในองค์กรอย่างไรบทที่4 KMช่วยพัฒนาองค์กรสู่จุดมุ่งหมายอย่างไร
บทที่5การค้นหาลูกค้าcritical หรือลูกค้าสำคัญด้วยเทคนิคLuky ตามด้วยกรณีศึกษาและอื่นๆทที่ร้าสนใจมากมาย
หนังสือเล่มนี้จึงถือเป็นหนังสือที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการพัฒาองค์กรในปัจจุบันที่จะปรับใช้ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ การสร้างสภาว วัฒนธรรมในการส่งต่อความรู้ ถ่ายทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อป้องกันการผิดพลาด หาแนวทางสู่ความสำเร็จ ให้องค์กรผ่านวิกฤติไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลยั่งยืน
คู่มือเตรียมสอบกฎหมายไทย ใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ภาคอัตนัย
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย “ธีระศักดิ์ สุโชตินันท์”เนื้อหาครอบคลุมหลักการเขียนคำฟ้องแพ่งและคำขอท้ายคำฟ้องคดีแพ่ง คำฟ้องอาญาและคำขอท้ายคำฟ้องคดีอาญา คำให้การและฟ้องแย้ง การเขียนหนังสือบอกกล่าวทวงถาม คำร้องทุกข์ คำร้อง คำขอ และอื่น ๆ อีกมากมาย จำหน่ายเล่มละ465.50 บาท
เนื้อหาโดยสังเขป เป็นเสมือนตำรา เตรียมสอบใบอนุญาตให้เป็นทนายความ (ภาคอัตนัย : เขียนบรรยาย)" เล่มนี้ สามารถใช้งานได้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติทั้งตั๋วรุ่นและตั๋วปี โดยเนื้อหาครอบคลุมหลักการเขียนคำฟ้องแพ่งและคำขอท้ายคำฟ้องคดีแพ่ง คำฟ้องอาญาและคำขอท้ายคำฟ้องคดีอาญา คำให้การและฟ้องแย้ง การเขียนหนังสือบอกกล่าวทวงถาม คำร้องทุกข์ คำร้อง คำแถลง คำขอ คำบอกกล่าวประเภทต่าง ๆ ทั้งคดีแพ่งและอาญา คำร้องขอให้ศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ คำร้องขอตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก หนังสือมอบอำนาจ ใบแต่งทนายความ การเขียนบัญชีพยาน การเขียนบัญชีทรัพย์ การเขียนใบมอบฉันทะ การเขียนสัญญาประนีประนอมยอมความในศาล พร้อมตัวอย่างที่สำคัญ และคำพิพากษาศาลฎีกาที่น่าสนใจประกอบในแต่ละส่วน และอื่น ๆ อีกทั้งยังมีตัวอย่างเอกสารประกอบท้ายบท คำขอที่จำเป็นและสำคัญประเภทต่าง ๆ อัตราค่าฤชาธรรมเนียมที่ทุกท่านต้องรู้และนำ
นักสืบหน้าก้น นิทานที่แฝงไปด้วยคติสอนใจ
"นักสืบหน้าก้น ตอน ตามล่าหาอัญมณีสายรุ้ง" นิทานเสริมประสบการณ์ชีวิตสำหรับเด็กปฐมวัย ผู้เขียน Troll (โทรลล์)ผู้แปล ธันยาภัทร์ ศิริทรัพย์ ราคา118.75 บาท เป็นเรื่องราวที่จะพาทุกคนไปไขคดี เด็ก ๆ จะได้ฝึกการสังเกตและสนุกกับการร่วมสืบหาคนร้ายไปพร้อม ๆ กับ "นักสืบหน้าก้น" เมื่อเกิดเหตุลักพาตัวลูกสาวตระกูลดัง นักสืบหน้าก้นถูกตามตัวให้สืบคดี คนร้ายต้องการอัญมณีสายรุ้งในตำนานของตระกูลดัง นักสืบหน้าก้นจึงต้องไขปริศนาเพื่อหามันให้เจอ เขาจะทำสำเร็จและช่วยลูกสาวตระกูลดังได้หรือเปล่านะ? ทุกเรื่องทุกตอนจะถ่ายทอดด้วยสำนวนชวนอ่าน พร้อมภาพประกอบสี่สี น่ารัก ชวนติดตาม มีเนื้อเรื่องที่แฝงไปด้วยคติสอนใจ ให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และเสริมสร้างทักษะการอ่านไปพร้อมกับส่งเสริมความผูกพันในครอบครัว
คิดวิเคราะห์แบบโคนัน ร่วมไขปริศนาและฝึกคิดอย่างมีเหตุผล
“Tsuyoshi Ueno (อุเอโนะ ซึโยชิ)”นักเขียนนิยายชาวญี่ปุ่น มีความเชื่อมั่นว่า เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว...แล้วคุณจะมองเห็น "ความจริง" นั้นได้อย่างไร? ร่วมไขปริศนาและฝึกคิดอย่างมีเหตุผล ไปพร้อมกับนักสืบในโลกมังงะที่โด่งดังที่สุดตลอดกาล ซึ่งเป็นการคิดวิเคราะห์แบบโคนัน แปลเป็นไทยโดย “กมลวรรณ เพ็ญอร่าม” เนื้อหาในเล่มนี้ เป็นฉบับการ์ตูน ตอน why? จุลินทรีย์ () กล่าว ถึงออร์แกน ซึ่งเกลียดจุลินทรีย์มากเพราะคิดว่าจุลินทรีย์เป็นตัวแทนของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก ไมโครจึงแนะนำให้ออร์แกนรู้จักกับแล็กตาและโรโบแบคเพื่อแสดงให้เห็นว่าจุลินทรีย์มีประโยชน์และมีคุณค่ามากกว่าที่คิด!!คิดวิเคราะห์แบบโคนัน ในเล่มนี้ จะ ร่วมไขปริศนาและฝึกคิดอย่างมีเหตุผล ไปพร้อมกับนักสืบในโลกมังงะที่โด่งดังที่สุดตลอดกาลได้แค่ไหนต้องอ่านเอาเอง
นิยายใสๆขงวัยรุ่นจีนที่สังคมยังรับ หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ
หมัวกูเว่ยเถาจื่อ ( Moguwei Taozi) เป็นนักเขียนนิยาย ในแนวรักวัยรุ่นใสๆที่ยังมองเห็นโลกสวย แม้จะขาดความนิยมลงไปไม่น้อยในยามที่สังคมโลกต็มไปด้วยเรื่องของความเป็นจริง ทุกอย่าง ไม่ถูกอออกแบบมาโดย มโนคติที่อยู่ในหัวใจหัวใจของบรรดาวัยรุ่นวัยใส ที่แม้จะเพิ่งลืมตาดูโลกมาเพียงสิบปีต้นๆเท่านั้น แต่ในความเป็นโลกนิยายที่ยังขาความเพ้อฝันไม่ได้ เรื่องเหล่านี้ยังคงมีอยู่ แม้จะไม่มากนัก จนถึงระดับตลั่งใคล้แต่ก็ยังนับว่า ได้รับความชื่นชมอยู่
“หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ” เขียนโดย “หมัวกูเว่ยเถาจื่อ”เป็นเรื่องราวของนางเอกวัยใสที่ พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหลังเกิดอุบัติเหตุก็พบขาว่าของตัวเองถูกใส่เฝือกห้อยไว้ พร้อมข่าวร้ายว่าจะต้องตัดทิ้ง! "ลู่จยา" นักแข่งมอเตอร์ไซค์สาวไม่คาดคิดเลยว่า การลอบออกไปซ้อมก่อนวันแข่งขัน จะกลายมาเป็นจุดพลิกผันของชีวิต! แม้ความเสียใจจะเกิดขึ้นอย่างมาก แต่อีกอารมณ์เธอกลับพบว่าหมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ ทำให้ชีวิตของดูพลิกผันมีความหวังเป็นกำลังใจมากขึ้น