“ผมจินตนาการเห็นผู้เข้าเรียนที่ไม่จำกัดอายุ, เพศ, ศาสนา และเชื้อชาติ เค้าจะอยู่ที่ไหนก็ได้ มหาวิทยาลัยไหนก็ได้ แต่มีจุดหมายเดียวกันคือการเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้น ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้น พร้อมสร้างความสุขร่วมกันในสังคม ซึ่งสมัยเรียนคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชื่อเล่นคณะคือ “ช่างกลธรรมศาสตร์” แต่เรียนเน้นเชิงวิชาการ และวิจัย ปัญหาใหญ่ในหัวผมตลอดเกือบ 3 ปีคือ จบแล้วจะมีงานทำไหมแล้วจะทำงานอะไร กระทั่งผมได้รับโอกาสที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง ตอนปี 3 คือไปขอโควตาคณะบัญชี แต่ลงทะเบียนแล้วกลับถูกปฏิเสธ
ดังนั้น เราจึงทำตามที่รุ่นพี่สอนมา คือเข้าห้องเรียนวันแรกที่เปิดคลาส และนั่งหน้าสุดเพื่อให้อาจารย์จำหน้าเราได้ หลังจบคลาสผมและเพื่อนได้เดินเข้าไปขอให้อาจารย์เซ็นใบโควตาซึ่งอาจารย์ก็เซ็นโดยไม่ถามอะไร ในห้องเรียนติดกำแพงวังหน้า ผมเก็บเกี่ยวได้มากกว่าความรู้ในเชิงธุรกิจและการตลาดในวิชา MK312 คือวิธีคิดกลยุทธ์และกระบวนการไปสู่ความสำเร็จ จำได้อีกว่าในชั้นเรียนอาจารย์หว่านล้อมให้นักศึกษาส่งประกวดแผนการตลาดแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเรียน และจากวันนั้นถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีวันไหนที่ผมไม่มีงานทำเลย”
เรื่องเล่าจาก “ตี๋” พัฒนพงศ์ รานุรักษ์ผู้ก่อตั้ง “Divana” และ “Dii Group” แบรนด์สปาระดับพรีเมียม ร่วมกับ “ตง” ธเนศ จิระเสวกดิลก ย้อนถึงสมัยที่ตนเองยังเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โดยปัจจุบันทั้งคู่ได้กลายมาเป็น Course Director วิชา “TU 109” หลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อติดอาวุธให้ผู้เรียนสามารถรับมือกับสถานการณ์ในยุคหลังโควิด-19 ได้อย่างมืออาชีพ โดยมี “พี่เลี้ยงประจำหลักสูตร” ทำหน้าที่จุดประกายความคิด สร้างแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดประสบการณ์และ Coaching นักศึกษา นับว่าเป็นก้าวแรกสู่การเป็นสตาร์ทอัพตั้งแต่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย
ตี๋-พัฒนพงศ์ รานุรักษ์ และตง-ธเนศ จิระเสวกดิลก
ตี๋-พัฒนพงศ์ รานุรักษ์ กล่าวต่อไปว่าการที่เขากับ ตง-ธเนศ มีโอกาสจัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาหลายสถาบัน ทำให้พบว่า“คนรุ่นใหม่มีความรอบรู้ รวดเร็ว และเฉลียวฉลาดฉะนั้นการเรียนการสอนโดยใช้ Knowledge-based learning (เรียนจากฐานองค์ความรู้)เป็นตัวตั้ง อาจไม่เท่าทันการเปลี่ยนแปลง”จึงต้องพัฒนาหลักสูตรและจัดการเรียนการสอนด้วย Project-based learning (เรียนจากการทำโครงการ) Activity-based learning (เรียนจากการทำกิจกรรม) และ Team-based learning(เรียนรู้จากการทำงานเป็นทีม) โดยมีกรณีศึกษาประกอบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
“เราจะสร้างการเรียนที่หลากหลายดึงผู้ประกอบการตัวจริงเสียงจริงมาแชร์ทั้งความความสำเร็จ ความล้มเหลว ข้อผิดพลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้จากประสบการณ์ในเวลาอันสั้น รวมถึงเชิญผู้เชี่ยวชาญในการปั้นบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ฯลฯ เข้ามาเจอกับนักศึกษาแบบใกล้ชิด ดังนั้น เราจะเน้นไปที่การสร้าง Passion และการ Inspire เข้าด้วย หลักการคือสอนให้น้อย บรรยายให้น้อย สิ่งที่บรรยายจะเป็นเรื่องของประสบการณ์ Passion ที่สำคัญคือ เราจะสอนเรื่องความล้มเหลว เพราะการเรียนการสอนส่วนใหญ่มักจะศึกษาจากความสำเร็จเป็นหลักส่วนการศึกษาจากความล้มเหลวยังมีน้อย”ตี๋-พัฒนพงศ์ กล่าว
สำหรับ TU 109 ตั้งต้นมาจากไอเดียของ รองศาสตราจารย์ เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับรองศาสตราจารย์ ดร.พิภพ อุดร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝ่ายวิชาการ ที่ต้องการสร้างทักษะการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ในโลกยุคใหม่ และต้องการ
ปั้นนักศึกษาสู่เส้นทางการเป็นผู้ประกอบการที่ดีมีคุณธรรม ใส่ใจสังคม อย่างน้อยปีละ 1,000 คนดังนั้น จึงได้ออกแบบพัฒนาหลักสูตรและสกัดออกมาเป็น 3 วิชา ได้แก่ TU 109 , TU 209 และ TU 309 ซึ่งจะจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับพื้นฐาน (Basic) ไปถึงขั้นสูง (Advanced) โดยมุ่งหวังให้นักศึกษาสามารถพัฒนาตนเองขึ้นไปเรื่อยๆจนสามารถสร้างรายได้ตั้งแต่ยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยโดยมี 88 Sandbox ที่เป็น Ecosystem ใหม่ล่าสุดของธรรมศาสตร์ที่จะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสร้างการก้าวกระโดดให้กับสตาร์ทอัพ ที่มีศักยภาพทั้งจากในและนอกมหาวิทยาลัย
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มธ.
รองศาสตราจารย์ เกศินี วิฑูรชาติอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิชา TU 109 เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์เทรนด์การศึกษาทั่วโลก ร่วมกับ micro behavior คือดูจากพฤติกรรมของนักศึกษาว่าเขาต้องการเรียนรู้เรื่องอะไร จากนั้นก็นำมาควบรวมกับ DNA ของชาวธรรมศาสตร์ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม คำนึงถึงสังคม และช่วยดูแลสังคม ดังนั้น TU 109 ถูกออกแบบระบบการเรียนรู้ให้เหมาะกับนักศึกษาที่มีฝันจะเป็นผู้ประกอบการ โดยพลิกกลับด้านการเรียนรู้ และจุดระเบิดที่นักศึกษาปี 1 เทอม 1ให้เป็นต้นแบบ (Module) ในการเปลี่ยนภูมิทัศน์ด้านการศึกษา เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด
สำหรับวิชา TU 109 หรือนวัตกรรมกับกระบวนคิดผู้ประกอบการ เป็นวิชาศึกษาทั่วไปที่ได้รับการออกแบบให้สามารถสร้างผู้ประกอบการที่มีความพร้อมสำหรับโลกแห่งอนาคต ด้วยการ
บ่มเพาะแนวความคิดและทักษะสำคัญจากคณาจารย์ผู้มีประสบการณ์โดยตรงในโลกธุรกิจสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็น แนวทางการสอนจะต้องอยู่บนกรอบทางเดินไปสู่ Sustainable Development Goalsรวมถึงมุ่งเน้นในการเสริมคุณลักษณะสำคัญของชีวิตตามหลักการ GREATS Plus Plus ของธรรมศาสตร์ นักศึกษาจะได้เรียนรู้ทั้งด้านความคิดและทักษะในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจStart Up พร้อมทั้งได้ลงมือปฏิบัติจริง ทั้งในเรื่องของการทำ crowdfunding การทำ 1-minute pitch การทำ story telling การวิเคราะห์ธุรกิจด้วย Business model canvas และการวิเคราะห์ทางการเงิน
ตี๋-พัฒนพงศ์ ยอมรับว่า คลาสใหม่นี้ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากเรื่อง “Start Up”ซีรี่ส์เกาหลีเรื่องดัง โดยใช้หลักคือ ใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณค่าที่สุด
พี่เลี้ยงประจำหลักสูตรวิชา TU 109
“จากเวลา 2 ทุ่มที่ได้รับโจทย์ ถึงเวลาตี 5ย่ำเช้า เป็น 9 ชั่วโมงที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง, MVP (Minimum Viable Product) เกิดขึ้นบนความไม่สมบูรณ์ (บางคนทำไป ร้องไห้ไป) เครื่องมือในการสร้างระบบนิเวศถูกประดิษฐ์และพัฒนาขึ้นจากคืนนั้นจนถึงวันนี้ ได้ทีมทำงานที่สุดติ่ง (พี่โทนี่พี่เมฆ พี่ภูมิ น้องตังค์ น้องโจ พี่ริต้า พี่มุก พี่ป็อบและพี่พูมพูม) ร่วมพัฒนาโปรแแกรมการเรียนรู้แบบเกิดขึ้นทุกวัน ปรับกันทุกเวลา วันนี้ห้องทดลอง(Sandbox) ถูกออกแบบ และสร้างขึ้นแบบ VR(VIRTUE REALITY) กระบวนการที่เกิดขึ้นสร้างสิ่งใหม่เสมอ ส่วนผลลัพธ์คือการค้นหาทางไปสู่ความฝันของทุกคน ขอย้ำว่า...ทุกคนในระบบครับ ตั้งแต่นักศึกษา, ผู้ช่วยสอน, เมนเทอร์ และทุกคนที่เข้ามา พร้อมร่วมกันสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด เราได้เชิญผู้นำด้านธุรกิจนวัตกรรมในสาขาต่างๆ ที่เป็นเทรนอนาคตเพื่อหัวเชื้อในการสร้างแรงบันดาลใจและส่งโดมิโน (domino) แห่งความสำเร็จตัวแรกให้กับทุกคนที่อยู่ในระบบนิเวศ (จากหนังสือ one thing) ทุกคนจะเป็นพลังงานที่ส่งต่อและรับ เพื่อสร้างพลังงานใหม่ในการส่งต่อแบบไร้ขีดจำกัด”
ท้ายสุด ตี๋-พัฒนพงศ์ กล่าวว่า อุปสรรคในการเปิดหลักสูตรครั้งนี้คือ ความกล้า เพราะ รศ.เกศินี และ ดร.พิภพ ทำให้เกิดโครงการการศึกษาที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน กระบวนการที่เกิดขึ้นสร้างสิ่งใหม่ ส่วนผลลัพธ์คือ การค้นหาทางไปสู่ความฝันของนักศึกษาทุกคน พร้อมร่วมกันสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุดอุปสรรคจึงสร้างโอกาสใหม่ทางการศึกษาในยุควิกฤตโควิด-19 ดังนั้น จึงตั้งเป้าไว้ว่า ก่อนที่นักศึกษาจะเรียนจบจะต้องมีธุรกิจของตัวเอง และสามารถนำธุรกิจเข้าไปทดลองใน crowdfunding ได้โดยจะมีพี่เลี้ยงประจำหลักสูตรเข้ามาประกบเพื่อให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด จึงมั่นใจว่านักศึกษาจะได้รับประสบการณ์ที่ฝังลึกเกี่ยวกับนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการที่ดี มีคุณธรรม และจะเป็นกำลังสำคัญในการสังคมที่ดีขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน
“ความสัมพันธ์และความรัก ทำให้ระบบนี้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ผมต้องขอบคุณ อาจารย์เกศินีอาจารย์พิภพ ผู้สร้างและมอบโจทย์รวมถึง เพื่อน พี่ น้อง ผู้เป็นที่รักทุกท่าน และท่านนักธุรกิจนวัตกรรมท่านต่อๆ ไปที่อยากทดลองมาสร้างระบบนิเวศธุรกิจนวัตกรรมร่วมกัน สร้างผู้นำธุรกิจนวัตกรรมรุ่นใหม่ พร้อมกับปรับกระบวนการคิดของเราทุกคนสู่อนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี