หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์
เรื่องศิลปะจากศิลปินนั้นเป็นความสง่างามของมนุษยชาติ ดังนั้น การมี “หอศิลป์แห่งชาติ” จึงเป็นความพยายามอย่างยิ่งในการที่จะสร้างให้เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี้ได้มีงาน “ดื่มกาแฟแลงานศิลป์” เพื่อสร้างการรับรู้เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดใช้ “หอศิลป์แห่งชาติ” แห่งใหม่ขึ้นที่ถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงวัฒนธรรม ถึงแม้จะมีหอศิลป์แห่งชาติเกิดขึ้นบ้างแล้วในหลายแห่งเช่น หอศิลป์กรมศิลปากร ถนนเจ้าฟ้า, หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน, MOCA หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย,หอศิลป์แห่งชาติ ที่ศาลากลางเก่าพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ก็ยังเป็นกิจกรรมขนาดเล็กที่รอการเติบโตในอนาคต แต่สำหรับหอศิลป์แห่งชาติแห่งใหม่นี้จะสามารถบริการการจัดแสดงผลงานศิลปกรรมและสร้างกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางศิลปะหลายแขนงให้เป็น แลนด์มาร์คระดับนานาชาติ นั้นยังไม่มี ดังนั้น การเรียนรู้ดูงานจากหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ จึงเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งที่น่าจะเป็นแบบอย่าง
ด้วยเหตุที่สิงคโปร์นั้นเพิ่งเปิดการบริการหอศิลป์แห่งชาติเมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๕๘ แต่สามารถทำให้สิงคโปร์นั้นกลายเป็นศูนย์กลางศิลปกรรมระดับนานาชาติที่มีศิลปินมาร่วมกิจกรรมกันมากทุกปีแล้ว และยังทำให้ได้รับรางวัลด้านต่างๆ อยู่เสมอตั้งแต่ก่อตั้งมา ทำให้วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมสมัยนั้น ได้นำเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปศึกษาดูงานของ หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ (National Gallery Singapore) ซึ่งเป็นต้นแบบหนึ่งที่คนรักศิลปะต้องไปเยือน หรือแม้แต่คนไม่ได้ชอบศิลปะก็ยังชอบไปเดินชมสถาปัตยกรรมอาคารสถาปัตยกรรมเก่าสไตล์ยุโรป ด้วยเป็นการอนุรักษ์ตึกของศาลากลางและอาคารศาลฎีกาเก่า โดยการรีโนเวทใหม่ให้เข้ากับความเป็นหอศิลป์มากขึ้น โดยใช้งบประมาณไปถึง ๕๓๐ ล้านเหรียญสิงคโปร์! หรือประมาณ ๑๒,๑๙๐ ล้านบาทจนบันดาลให้เกิดบรรยากาศภายในหอศิลป์ที่มีความขรึมขลังสงบจนน่าเข้าไปสัมผัสของงานศิลปะอย่างเป็นสัดเป็นส่วนและน่าเรียนรู้ดูอลังการโดยทำให้ ๕ ชั้น ของอาคารได้มีการปรับปรุงและจัดสาระของศิลปะอย่างน่าสนใจ สำหรับชั้น ๑ นั้นเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน จัดกิจกรรมไม่ว่างเว้น และเน้น Contemporary Art หรือศิลปะร่วมสมัย และงานศิลปะของสิงคโปร์ที่เริ่มเน้น Conceptual Art มากขึ้น
การศึกษาดูงานที่หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์
จากการสร้างวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้างสำหรับผลงานของศิลปินในประเทศอาเซียนด้วย และผลงานในหอศิลป์ล้วนเป็นศิลปะร่วมสมัย แสดงให้เห็นถึงความมองอนาคต ความก้าวหน้า และทันสมัย อีกทั้งยังมีโซน Workshop สำหรับเด็กให้ซึมซับความเป็นศิลปะในอนาคตด้วย ซึ่งหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ยังสร้างแอปพลิเคชั่น Gallery Explorer เพื่อให้สามารถดูข้อมูลของหอศิลป์ผลงาน และนิทรรศการได้สะดวกขึ้น ซึ่งเป็นการบริหารจัดการงานศิลปะที่ถูกเพิ่มคุณค่า และถูกให้ความสำคัญ ที่มีการปรับเปลี่ยนให้คนเรียนรู้ตลอดเวลา จึงมีกิจกรรมศิลปะที่เชื่อมโยงกันทุกปีในรูปแบบ Art Stage Singapore และการขายงานศิลปะที่จัดทุกต้นปีแบบมาก Singapore Art Biennale ที่จัดทุกๆ สองปี ซึ่งต้องยอมรับว่าระหว่างปีนั้นหอศิลป์ แกลเลอรี่ต่างๆ ต่างจัดนิทรรศการศิลปะและเปิดแสดงผลงานเสมอเพื่อดึงนักท่องเที่ยวได้สนใจจนทำให้วงการศิลปะในสิงคโปร์นั้นเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และสร้างนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเข้าประเทศจนเป็นธุรกิจจากงานศิลปะนำรายได้แบบนับไม่ถ้วน จนน่าจะเป็นรูปแบบของหลายแห่งที่นำไปสร้างและพัฒนาการให้เกิดขึ้นในประเทศตน
โดยเฉพาะไทยนั้นได้เริ่มสร้างหอศิลป์แห่งชาติขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๖๐ สานต่อปลัดกระทรวงวัฒนธรรมมาหลายสมัยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าในไม่ช้าจะเป็นแลนด์มาร์คของบรรดาศิลปินชาวไทยและต่างชาติในอนาคตข้างหน้า ในระหว่างที่รอการจัดภายในนั้นก็มีการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมขึ้นดังกล่าว ซึ่ง ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมนั้นได้ให้ความหวังว่า “หอศิลป์แห่งชาติใหม่นี้จะเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ใช้จัดแสดงผลงานศิลปวัฒนธรรมระดับชาติและนานาชาติ สำหรับเผยแพร่ แลกเปลี่ยน และพัฒนางานศิลปะทุกแขนง ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาคน พัฒนาเศรษฐกิจของไทย เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้ใช้ประโยชน์บริการงานศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงในไทยไว้ กับพื้นที่อย่างคุ้มค่า” โดยมีการปรับภูมิทัศน์ให้เป็นแลนด์มาร์คทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ให้น่าสนใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี