กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แนะแนวทางการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit ตรวจการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเอง และขั้นตอนดำเนินการหลังทราบผลตรวจ สำหรับประชาชนทั่วไป สถานประกอบการ และสถานศึกษา ย้ำสิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนใช้ชุดตรวจ ATK คือ ต้องเลือกใช้ชุดตรวจที่ผ่านการประเมินและได้รับอนุญาตจาก อย.แล้วเท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากเว็บไซต์ https://www.fda.moph.go.th/
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การตรวจด้วย Antigen Test Kit (ATK) เป็นนโยบายของรัฐที่ต้องการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้เร็วขึ้น จากกรณีที่มีการใช้ชุดตรวจ ATK แล้วเกิดผลผิดพลาดทั้งแบบ บวกลวง ลบลวง นั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ขอย้ำแนวทางการใช้ชุดตรวจ ATK สำหรับตรวจการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเอง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ใช้ตรวจผู้ที่มีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจและสงสัยว่าจะเป็นโรคโควิด-19 ได้แก่ มีไข้ หรือวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37.5°C ขึ้นไป ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ ไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก ตาแดง ผื่น ถ่ายเหลว ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอาการ เพื่อช่วยในการคัดกรองเบื้องต้นก่อนการสู่ระบบดูแลรักษา
นอกจากนี้ ชุดตรวจ ATK ยังใช้ตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงทั้งที่มีหรือไม่มีอาการหลังจากสัมผัสโรคมาแล้ว 3-5 วัน หรือตรวจติดตามเป็นระยะตามความจำเป็น เช่น ทุกสัปดาห์ รวมทั้งใช้ตรวจเพื่อการเฝ้าระวังการติดเชื้อในสถานประกอบการ สถานบริการหรือสถานที่ต่างๆ (COVID free setting) เช่น โรงงาน ตลาด โรงเรียน เป็นต้น โดยมีความถี่ของการตรวจเป็นไปตามข้อแนะนำ ในเบื้องต้น สามารถตรวจได้ทุกสัปดาห์หรือถี่กว่านั้นตามความจำเป็น
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนใช้ชุดตรวจ ATK คือ ต้องเลือกใช้ชุดตรวจที่ผ่านการประเมินและได้รับอนุญาตจาก อย.แล้วเท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากเว็บไซต์ https://www.fda.moph.go.th/ ตรวจชื่อชุดตรวจใช้จัดเจน เพราะชุดตรวจไม่ได้มาตรฐานที่มักจะลอกเลียนแบบชื่อหรือมีรูปที่ซองบรรจุ เพื่อให้มั่นใจว่าชุดตรวจมีคุณภาพมาตรฐาน
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ เก็บตัวอย่างตามที่ชุดตรวจกำหนด เช่น หากชุดตรวจกำหนดให้เก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก (Nasal swab) ให้เก็บตัวอย่างจากรูจมูกทั้งสองข้าง โดยสอดปลาย swab ลึกประมาณ 2-3 เซนติเมตรและปั่นข้างละ 5 รอบ หรือหากชุดตรวจกำหนดให้เก็บจากตัวอย่างจากน้ำลาย (Saliva) ก็ให้เก็บตัวอย่างจากน้ำลายเท่านั้น และขอให้ผู้ใช้อ่านเอกสารกำกับก่อนเริ่มทำการตรวจและปฏิบัติตามคำแนะนำในเอกสารอย่างเคร่งครัด รวมทั้งอ่านผลแถบสีตามระยะเวลาที่ชุดตรวจกำหนด
สำหรับการอ่านผลการตรวจ ตลับชุดตรวจต้องมีแถบสีเกิดขึ้นบริเวณตัว C หากมีแถบขึ้นที่ตัว T ร่วมด้วย หมายถึงผลบวก หากไม่มีแถบขึ้นที่ตัว T คือ ผลลบ แต่ถ้าไม่เกิดแถบที่ตัว C แสดงว่าชุดตรวจนั้นใช้ไม่ได้ ต้องทำการตรวจใหม่ กรณีที่ผลบวกลวง สาเหตุอาจมาจากชุดตรวจไม่ผ่านคุณภาพมาตรฐาน อย. แต่หากเป็นชุดที่ผ่าน อย. แล้วเกิดผลบวกลวงจะเกิดขึ้นน้อยมาก สาเหตุอาจเกิดจากการปนเปื้อนของพื้นที่ที่ทำการตรวจหรืออ่านผลไม่ตรงเวลา ดังนั้น ผู้ที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวกในกรณีที่ไม่มีอาการป่วย อาจเป็นผลบวกลวงได้ กรณีที่พบผลบวกเป็นกลุ่มก้อน (cluster) ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบ และหากเป็นกรณีที่ต้องรักษาอยู่ร่วมกับผู้ป่วยอื่น ควรตรวจยืนยันด้วย real-time RT-PCR และประเมินโดยบุคลากรทางการแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา
นอกจากนี้ กรณีที่เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง แต่ผลตรวจ ATK เป็นผลลบ มีโอกาสเป็นลบลวงได้ โดยอาจอยู่ในระยะฟักตัวช่วงวันแรกๆ เชื้อมีอยู่จำนวนน้อย ควรทำการกักตัวไว้ก่อน และหากปรากฏอาการของโควิด19 ระหว่างกักตัวควรทำการทดสอบซ้ำทันที หรือทดสอบซ้ำอีกในช่วง 3-5 วัน และหากจำเป็นสามารถทำได้เป็นระยะๆ
นายแพทย์ศุภกิจกล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติตนหลังทราบผลการทดสอบ สำหรับประชาชนทั่วไป เมื่อตรวจแล้วสามารถรายงานผลการตรวจด้วยตนเองได้ในโปรแกรมที่กำหนด เช่น แอปพลิเคชั่น H4U ของกระทรวงสาธารณสุข หรือรายงานผลผ่าน อสม. ที่ใช้แอปพลิเคชั่น SMART อสม. หากผลตรวจเป็นบวกให้แจ้งสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที หรือให้แจ้งต่อระบบบริการออนไลน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โทร.สายด่วน 1330 สถานประกอบการ ให้ดำเนินตามมาตรการ Bubble and Seal โดยแจ้งประสานหน่วยงานสาธารณสุข ในพื้นที่ สถานศึกษา ให้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนภายใต้มาตรการ D-M-H-T โดยแจ้งประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี