หลังเกิดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ขึ้นนั้น ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะด้านสุขอนามัยที่คนหันมาใส่ใจกันมากขึ้นทั้งเรื่องอาหารการกิน การใช้ชีวิต ไปจนถึงการเลือกใช้ผลิตภัฑณ์จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย ล่าสุด ฐานิศร์ ไชยกุลงามดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท งามดีคอตตอน จำกัด บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสำลี และผ้าก๊อซเพื่อใช้ในการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศไทยมากว่า 32 ปี ได้เปิดตัวสำลีบริสุทธิ์แบรนด์ “คลีนิกซ์” (CLINIX) ที่ทำจากใยฝ้ายธรรมชาติ ภายใต้มาตรฐานการผลิตเดียวกันกับที่ใช้ในการแพทย์ โดยมี นายแพทย์ธนพล นภาวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ร่วมแนะนำเทคนิคการเลือกใช้สำลีให้อ่อนโยนต่อผิว พร้อมเหล่าเซเลบริตี้ ได้แก่ พลอยพยัพ ศรีกาญจนา, ชนัดดา พิทยศิริ, วาริธร กันท์ไพบูลย์ และลูกสาวตัวน้อยน้องไอรา มาร่วม
ฐานิศร์ ไชยกุลงามดี กล่าวถึงการเปิดตัวแบรนด์ครั้งนี้ว่า “เนื่องจากเราเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนานมากว่า 32 ปี ในการผลิตสำลีและผ้าก๊อซทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเราได้ควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต โดยมีมาตรฐาน ISO 13485, GMP และ มอก.รองรับ อีกทั้งยังได้รับการยอมรับให้เลือกใช้ในวงการแพทย์มาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นสำลีและผ้าก๊อซที่ผลิตโดยคนไทย100% โดยแนวคิดหลักในการเปิดตัวแบรนด์สำลีคลีนิกซ์สู่ผู้บริโภคในวงกว้างขึ้นนั้น เกิดจากการที่เราได้เล็งเห็นว่าไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปมาก คนส่วนใหญ่มีความพิถีพิถันในการเลือกใช้ของกันมากขึ้น โดยเฉพาะของใช้ที่ต้องสัมผัสกับร่างกายหรือผิวโดยตรง อย่างสำลีก็ต้องได้มาตรฐานทางการแพทย์และตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การเช็ดทำความสะอาดทั่วไป เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า หรือเช็ดทำความสะอาดบาดแผล จึงเป็นที่มาของการสร้างสรรค์สำลีบริสุทธิ์ภายใต้แบรนด์คลีนิกซ์นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของความสะอาดและปลอดภัย”
สำหรับ “คลีนิกซ์” (CLINIX) แบรนด์สำลีบริสุทธิ์ที่ผลิตจากใยฝ้ายธรรมชาติ 100% ภายใต้คอนเซ็ปต์ CLINIX Multi Care Cotton Pad สำลีเอนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยี Hydro-Entanglement จากประเทศญี่ปุ่น หรือการผลิตโดยใช้แรงดันน้ำสูงถักทอใยฝ้ายให้ประสานกันเป็นแผ่นเรียบเนียน นุ่ม ไม่เป็นขุยติดผิว ซึมซับได้ดี และปลอดภัยปราศจากสารปนเปื้อน จากกระบวนการผลิตที่คัดแยกสิ่งปนเปื้อนออก และฆ่าเชื้อด้วยความร้อนถึง 2 ครั้ง โดยขั้นตอนการผลิตนั้นเป็นไปตามมาตรฐานเภสัชตำรับ BPC แห่งประเทศอังกฤษ และ USP แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้สำลีที่สะอาดบริสุทธิ์ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
ทางด้าน นายแพทย์ธนพล นภาวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ได้แนะนำเทคนิคการเลือกใช้สำลีให้อ่อนโยนต่อผิวว่า “การเลือกสำลีให้ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งานนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะสำลีเป็นสิ่งที่คนเราต้องใช้เกือบจะทุกวัน ทั้งการทำความสะอาดผิวหน้า การเช็ดทำความสะอาดบาดแผล หรือการเช็ดทำความสะอาดทั่วไปในเด็ก ดังนั้นจึงควรเลือกสำลีที่มีความอ่อนโยนต่อผิวและเหมาะกับการใช้งานนั้นๆ เพื่อลดการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ตามมา เช่น การอักเสบ ระคายเคือง ในบางคนอาจจะเป็นผื่น หรือสิวทั่วใบหน้า เนื่องจากผิวมีการตอบสนองที่ไวต่อสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเกิดจากการใช้สำลีที่ปนเปื้อนสารเคมี หรือมีสัมผัสที่ไม่เนียนนุ่ม ดังนั้นการเลือกใช้สำลีสำหรับผิวหน้าควรเลือกใช้เป็นสำลีบริสุทธิ์ที่ทำจากใยฝ้ายธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีตกค้าง ขนาดของสำลีต้องมีความหนาพอดี ไม่บางจนเกินไป ดูดซับสิ่งสกปรกได้ดี และไม่ควรรีดขอบ เพราะอาจจะทำให้บาดผิวได้ ส่วนการเลือกสำลีสำหรับเช็ดทำความสะอาดบาดแผลนั้น ควรเลือกสำลีที่มีขั้นตอนการผลิตที่เชื่อถือได้ว่าจะต้องปราศจากสารปนเปื้อน ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนมาแล้ว และมีสัมผัสที่นุ่ม เนื่องจากผิวบริเวณที่เป็นรอยแผลจะมีความบอบบาง การเช็ดทำความด้วยสำลีจะต้องไม่ระคายเคืองต่อแผล หรือเป็นขุยติด ประกอบกับต้องระมัดระวังไม่ให้สัมผัสกับเชื้อโรค ดังนั้นสำลีที่ใช้ต้องได้คุณภาพ และปลอดภัย ส่วนการเช็ดทำความสะอาดทั่วไปในเด็ก ควรเลือกที่มีความอ่อนโยน ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี