การระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนชัดเจนว่ามีการแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตาหลายเท่า จนทำให้กลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดในหลายประเทศในปัจจุบัน และเริ่มมีจำนวนผู้ป่วยในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ก็มีข่าวดีที่เริ่มจะชัดเจนว่าโอมิครอนน่าจะมีความรุนแรงของโรคน้อยกว่าเดลตา
ล่าสุดข้อมูลจากแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของโอมิครอน รายงานเผยแพร่ก่อนการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์วิเคราะห์ข้อมูลการระบาดของโควิด 19 ช่วง 1 ตุลาคม ถึง 6 ธันวาคม 2564 มีผู้ป่วยโควิด 19 ทั้งหมด 161,328 ราย มีการตรวจพันธุกรรมโดย TaqPath PCR เพื่อค้นหายีนของเชื้อที่ทำให้เกิดโควิด 19 จำนวน 38,282 ราย พบว่าเป็น S Gene Target Failure (SGTF) ซึ่งแสดงว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน 29,721 ราย พบว่าโอมิครอนเพิ่มขึ้นจาก 3% ของผู้ป่วยโควิด 19 ในช่วงก่อนต้นตุลาคม เป็น 98% ในช่วงต้นธันวาคม
ผู้ป่วย 11,255 ราย ที่มีข้อมูลผลการรักษา พบว่า อัตราการนอนโรงพยาบาลในช่วง 1 ต.ค.-30 พ.ย. 2564 ในผู้ป่วยโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนมีอัตรานอนโรงพยาบาล 2% เปรียบเทียบกับเดลตา 13% หลังจากปรับตามปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพบว่า อัตราการนอนโรงพยาบาลลดลง 80%
ผู้ป่วย 290 ราย ที่นอนโรงพยาบาล ในช่วง 1 ต.ค.-30 พ.ย. 2564 พบว่า อัตราการเกิดอาการหนัก ได้แก่ นอน ไอซียู ได้รับออกซิเจน ใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือเสียชีวิต ในผู้ป่วยโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนพบได้ 21% เปรียบเทียบกับเดลต้าพบได้ 40% หลังจากปรับตามปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพบว่า อัตราการเกิดอาการหนักลดลง 30% แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
จากการศึกษานี้สรุปว่าผู้ป่วยโควิด 19สายพันธุ์โอมิครอนมีการนอนโรงพยาบาลลดลง แต่ถ้าต้องนอนโรงพยาบาลแล้วความรุนแรงไม่ต่างจากเดลตา แต่รายงานนี้ก็มีอคติอยู่พอสมควร เช่น ใช้ SGTF เป็นตัวบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ข้อบ่งชี้ในการนอนโรงพยาบาลไม่ชัดเจน ข้อมูลผลการรักษาที่ไม่สมบูรณ์ รวมทั้งในแอฟริกาใต้มีผู้ได้รับวัคซีนน้อยมากเมื่อเทียบกับบ้านเรา
แต่ก็อย่าประมาทกัน เรายังไม่รู้ว่าเข้ามาในเมืองไทยแล้วโอมิครอนจะเป็นอย่างไร คงต้องยึดหลักการป้องกันตนเอง โดยเว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมใส่มาสก์ และรับวัคซีนกันรวมทั้งเข็มกระตุ้นอย่างไม่ลังเล
พลอากาศไท นายแพทย์อนุตตร จิตตินันทน์
ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
เครดิตภาพจาก Shutterstock
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี