นักธุรกิจรัสเซียกำลังเผชิญการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ในขณะที่รัสเซียเผยมาตรการตอบโต้กรณีบริษัทตะวันตกประกาศระงับกิจการหรือถอนตัวออกจากตลาดรัสเซีย การตอบโต้กันไปมา กำลังทำให้ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ที่ต้องจับตามองในตอนนี้ คือ ที่อังกฤษ ภายหลังรัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศคว่ำบาตร 7 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ซึ่งรวมทั้งถูกอายัดทรัพย์สินในอังกฤษ และ สั่งห้ามการเดินทาง โรมันอับราโมวิช เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซีคือหนึ่งในนั้น ผลจากการถูกคว่ำบาตร ทำให้สโมสรเชลซี ปั่นป่วนไปด้วย เพราะไม่สามารถขายตั๋วในอนาคต และปิดร้านขายสินค้าที่ระลึกของสโมสร รวมทั้งไม่สามารถซื้อขายนักเตะ แต่ทางการอังกฤษได้ออกใบอนุญาตพิเศษให้ทีมเชลซียังสามารถบริหารจัดการได้ในบางส่วนรัฐบาลอังกฤษ ระบุว่า อับราโมวิช วัย 55 ปีเป็นหนึ่งในกลุ่มมหาเศรษฐีโอลิกาชเพียงไม่กี่คนจากยุคทศวรรษ 1990 ที่ยังคงความร่ำรวยและอิทธิพลอยู่ได้ภายในการปกครองของนายปูติน และคาดว่ามีทรัพย์สินประมาณสี่แสนล้านบาท และนอกจากทีมเชลซีแล้ว เขายังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายรายการในอังกฤษ
ส่วนมหาเศรษฐีโอลิกาชอีก 6 คนที่ถูกอังกฤษคว่ำบาตร คือ โอเลก เดริปาสกานักธุรกิจอุตสาหกรรมวงการอะลูมิเนียม,นายอิกอร์ เซชิน ซีอีโอของ “รอสเนฟต์”บริษัทน้ำมันของรัฐบาลรัสเซียซึ่งอังกฤษระบุเขาเป็นมือขวาคนสนิทของผู้นำรัสเซีย,นายอังเดร คอสติน ประธานธนาคาร“วีทีบี”, นายอเล็กเซ มิลเลอร์ ซีอีโอของบริษัทพลังงาน “ก๊าซพรอม”, นายนิโคลายโทคาเรฟ ประธานบริษัทท่อส่งน้ำมันของรัฐบาลรัสเซีย “ทรานสเนฟต์” และ นายดมิทรี เลเบเดฟ ประธานบอร์ดบริหารของธนาคาร “แบงค์ รอสสิยา”
ขณะที่นักธุรกิจรัสเซียกำลังเผชิญการคว่ำบาตรในชาติตะวันตก ที่รัสเซียเอง แบรนด์ชั้นนำ โดยเฉพาะของสหรัฐฯแมคโดนัลด์ สตาร์บัคส์ และโคคา-โคลาประกาศระงับการทำธุรกิจอย่างไม่มีกำหนดเช่นกัน แมคโดนัลด์ สร้างแรงกระเพื่อมสุดเพราะเป็นเจ้าของสาขาในรัสเซียกว่า800 แห่ง จ้างพนักงานกว่า 62,000 คนส่วนสตาร์บัคส์นั้น มีพนักงาน 2,000 คนที่อาจถูกลอยแพไม่มีกำหนด
ทั้งนี้ นับแต่เกิดวิกฤตยูเครน มีธุรกิจถอนออกจากรัสเซียหรือระงับกิจการแล้วกว่า 290 แห่ง นำโดยบริษัทชั้นนำอย่างแอปเปิล, มาสเตอร์การ์ด,วีซ่า, Paypal, กูเกิล และไมโครซอฟท์ทำให้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินได้สั่งการต่อเจ้าหน้าที่ผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ว่า ทรัพย์สินของบริษัทต่างชาติเหล่านั้น ควรถูกบริหารจัดการโดยภายนอก และโอนถ่ายไปให้ใครก็ตามที่ต้องการทำงาน ขณะที่ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงของปูตินกล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียอาจตอบโต้บริษัทตะวันตกที่ออกจากตลาดรัสเซียด้วยการยึดทรัพย์สินของพวกเขาและอาจทำให้กลายเป็นของชาติแทน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่ากระทรวงเศรษฐกิจของรัสเซียได้จัดทำนโยบายใหม่เพื่อควบคุมบริษัทที่มีสัดส่วนเจ้าของต่างชาติเกิน 25% ที่ประกาศถอนตัวแล้ว โดยจะให้ศาลของมอสโกสามารถพิจารณาคำร้องจากบอร์ดบริหารหรือคนอื่นๆ ในการนำบุคคลภายนอกเข้ามาบริหารได้ และหลังจากนั้นศาลจะสามารถสั่งอายัดหุ้นในส่วนที่ต่างชาติถือครองได้ เพื่อรักษาสินทรัพย์ของบริษัทและลูกจ้าง
กระทรวงเศรษฐกิจของรัสเซียระบุว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อขาดทอดตลาดทรัพย์สินของบริษัทมากกว่าการเข้ายึดบริษัทให้เป็นของชาติ และยังมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้บริษัทต่างชาติเหล่านั้น ไม่ละทิ้งกิจการในรัสเซีย โดยบริษัทที่จะมีคนนอกมาบริหารนั้น อาจจะถูกประมูลขายภายในสามเดือน และเจ้าของใหม่ต้องคงการจ้างงานไว้สองในสาม และต้องดำเนินกิจการในรัสเซียเป็นระยะเวลาหนึ่งปี
ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า มาตรการตอบโต้ตาต่อตาฟันต่อฟันนี้ต่างสร้างผลเสียให้กับทุกฝ่าย แต่รัสเซียจะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับประเทศอื่นๆ ที่ไม่กระโดดมาร่วมสงครามเศรษฐกิจนี้ ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานสัปดาห์นี้ว่าจีนอยู่ระหว่างการหารือภายในบริษัทรัฐวิสาหกิจของจีนเอง ถึงโอกาสในการเข้ามาลงทุนในบริษัทหรือสินทรัพย์ในรัสเซียเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี