ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘๑๑๑ ปี ศิลปากร’  ภูมิช่างแบบหลวงสู่งานรักษามรดกชาติ

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘๑๑๑ ปี ศิลปากร’ ภูมิช่างแบบหลวงสู่งานรักษามรดกชาติ

วันอาทิตย์ ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.

สถาปัตยกรรมสุโขทัย

ด้วยงานช่างในอดีตนั้น มุ่งเน้นงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่เกี่ยวกับศาสนาและกษัตริย์เป็นหลัก การออกแบบจึงมีกระบวนการงานช่างที่สืบทอดต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นฝีมือช่างหลวงหรือช่างท้องถิ่น ต่างมีวิวัฒนาการต่อเนื่องมาตลอด โดยมีระเบียบแบบอย่างที่เคร่งครัด ดังเห็นได้จากการจัดสร้างอาคารจากแนวคิดการสร้างจักรวาล ซึ่งมีแผนผังวัดสมัยสุโขทัยและอยุธยา ที่ใช้ระบบแนวแกนดิ่งเป็นหลักและมีแนวแกนราบเข้ามาสัมพันธ์ด้วยตำแหน่งของเจดีย์ประธานหรือพระมหาธาตุอันถือได้ว่าเป็นแนวแกนกลางของจักรวาล หรือเขาพระสุเมรุวิหารหลวงอยู่ส่วนหน้าของแนวแกน ถัดไปเป็นเจดีย์ประธานที่ล้อมรอบด้วยระเบียงคดรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เชื่อมกับวิหารส่วนหน้าหรืออุโบสถส่วนหลังในแนวแกนดิ่ง แต่ด้วยอุโบสถสมัยสุโขทัยมีขนาดเล็กมาก จึงไม่ให้ความสำคัญมากนัก สมัยอยุธยาการสร้างอุโบสถได้แพร่หลายมากจึงมีอาคารประเพณีที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายมีลักษณะเฉพาะของยุคสมัย แผนผังเจดีย์ได้ยุติการใช้เจดีย์เป็นประธานในแผนผัง แต่ใช้อุโบสถหรือวิหารเป็นประธานแทน แล้วใช้กำแพงแก้วเป็นแนวล้อมเพื่อเน้นอาคารและเน้นเจดีย์ประธานแยกจากเจดีย์รายซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกัน ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก ชายคาจึงกุดป้อม หลังคามักจะเป็นผืนเดียวไม่ซ้อนชั้น ซึ่งเรียกว่า แบบหลวง เป็นนัยการสร้างอาคารตามขนบประเพณีซึ่งถูกรักษาและพัฒนาจากช่างหลวงต่อมาเรียกเป็น แบบประเพณี ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๓ ได้เรียกแบบอาคารที่สร้างตามขนบประเพณีนั้นว่า“วัดแบบขนบนิยม” และวัดที่รัชกาลที่ ๓ โปรดให้สร้างแบบใหม่ว่า “วัดทรงประดิษฐ์ใหม่” ภายหลังเรียกว่า “แบบพระราชนิยม” ในรัชกาลนี้การเปลี่ยนแปลงรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยประเพณีอย่างชัดเจนคือ เปลี่ยนจากอาคารแบบทรงไม้มาเป็นอาคารทรงตึกที่มีการตกแต่งทางสถาปัตยกรรมในลักษณะที่ได้รับอิทธิพลจีน ในสมัยรัชกาลที่ ๔ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เช่น มีการใช้รูปทรงโค้งรับน้ำหนักระหว่างเสาอาคารหรือการตกแต่งเช่น ใช้หินอ่อนนำเข้าจากต่างประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ มีการพัฒนารูปแบบไทยประเพณีไม่เฉพาะแต่ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา มีการสร้างอาคารหลายชั้นที่ผสมผสานระหว่างรูปแบบตะวันตก และไทยประเพณี

ก่อนพุทธศักราช ๒๔๕๔ ประเทศยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบงานโดยตรง อันเกี่ยวกับมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ บรรดาโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม การดนตรี นาฏศิลป์ งานช่างประณีตศิลป์ หอสมุด จดหมายเหตุ และพิพิธภัณฑ์ ฯลฯ ด้วยกิจการดังกล่าวได้กระจัดกระจายอยู่ตามหน่วยงานต่างๆจนทำให้ราชการบางอย่างไม่เป็นระเบียบหรือมีงานที่ก้าวก่ายกันอยู่


ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่๖ ผู้ตั้้งกรมศิลปากร

ด้วยเหตุนี้ ในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๔๕๔ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โอนกิจการของช่างมหาดเล็กจากกระทรวงวัง และกรมพิพิธภัณฑ์ จากกระทรวงธรรมการ มารวมกันตั้งเป็น “กรมศิลปากร” โดยให้มีผู้บัญชาการขึ้นตรงต่อกษัตริย์ ซึ่งจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ใดในกระทรวง หรือกรมใดเป็นผู้บัญชาการเมื่อใดก็ได้ สุดแต่ทรงพระราชดำริเห็นเหมาะสม ครั้งแรกทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ ทรงเป็นผู้บัญชาการกรมศิลปากรพระองค์แรก ด้วยพระราชญาณทัศนะของสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าที่ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของมรดกศิลปวัฒนธรรม อันเป็นมูลฐานแสดงให้เห็นถึงความเจริญของชาติ จึงตั้ง “กรมศิลปากร” ให้ดำเนินภารกิจดูแลมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติมาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นเวลา ๑๑๑ ปีแล้ว ที่กรมศิลปากร ได้พัฒนาสร้างสรรค์บนหลักความถูกต้องทางวิชาการ มีคุณภาพและมาตรฐาน สังคมและประเทศชาติ ที่ให้ประโยชน์ ทั้งในด้านการศึกษาเรียนรู้ และด้านการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ งานด้านภาษา เอกสารและหนังสือ งานนาฏศิลป์และดนตรี งานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมและช่างศิลป์ไทย รวมไปถึงงานสนับสนุนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ..ที่ต้องเพิ่มช่องทางการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสารงานมรดกศิลปวัฒนธรรมของกรมศิลปากร โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ Facebook Youtube Application line ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วในสังคมปัจจุบัน

 

กรมพระนเรศวร์
กรมพระนเรศวร์
คลังกลางโบราณวัตถุ
คลังกลางโบราณวัตถุ
อาคารกรมศิลปากร
อาคารกรมศิลปากร
โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ
โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ
หนังสือ ๑๑๑ ปี กรมศิลปากร
หนังสือ ๑๑๑ ปี กรมศิลปากร
พัฒนาการจัดพิพิธภัณฑ์
พัฒนาการจัดพิพิธภัณฑ์
พระพิฆเณศหน้าอาคารใหม่
พระพิฆเณศหน้าอาคารใหม่
ผู้บริหารกรมศิลปากร
ผู้บริหารกรมศิลปากร
ทำบุญวันเกิดกรมศิลปากร
ทำบุญวันเกิดกรมศิลปากร

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top