ย้อนหลังไปประมาณ 100 ปี บริเวณที่เราทุกคนได้เห็นในปัจจุบันว่าเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า คือท้องทุ่งพญาไท ซึ่งในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามถนนที่ตัดผ่านท้องทุ่งแห่งนี้ว่าซางฮี้ (หมายความว่ายินดีอย่างยิ่ง) ครั้นต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามถนนใหม่ว่า ราชวิถี แล้วทรงซื้อที่ดิน 100 ไร่จากชาวสวนในบริเวณถนนใหม่ เพื่อทรงทำที่ทดลองปลูกธัญพืช และเป็นที่ประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถโดยพระราชทานนามว่าโรงนาหลวงพญาไท แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายสถานที่จัดงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญจากทุ่งพระเมรุท้องสนามหลวงไปจัด ณ โรงนาหลวงพญาไท ทุ่งพญาไท
เมื่อครั้งปี 2452 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักพญาไท พระตำหนักพญาไทเคยเป็นที่ประทับของในหลวงรัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ครั้นเมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จสวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯยกวังพญาไทเป็นพระราชวังพญาไท เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนี
จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักอุดมวนาภรณ์ (ภายหลังทรงให้เปลี่ยนชื่อเป็นเมขลารูจี) เป็นพระตำหนักองค์แรก แล้วทรงสร้างพระราชมณเฑียรสถานอันประกอบไปด้วยพระที่นั่งสามองค์และพระราชอุทยานตามแบบสถาปัตยกรรมอิตาเลียน แต่เรียกว่าสวนโรมัน แล้วทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายดุสิตธานี เมืองประชาธิปไตยจำลองจากพระราชวังดุสิตไปยังพระราชวังพญาไท
พระที่นั่งองค์ต่างๆ ในพระราชวังพญาไทมีพระนามดังต่อไปนี้ พระที่นั่งพิมานจักรี พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน พระที่นั่งศรีสุทธนิวาส พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ ส่วนอาคารสำคัญอื่นๆ ในเขตพระราชวังพญาไท มีดังต่อไปนี้พระตำหนักเมขลารูจี อาคารเทียบรถพระที่นั่งสวนโรมัน ศาลท้าวหิรันยพนาสูร พระมหานาคชินะวร วรานุสรณ์มงกุฎราช
พระที่นั่งพิมานจักรีเป็นพระที่นั่งองค์ประธานมีห้องพระบรรทมของในหลวง รัชกาลที่ 6 อยู่ในพระที่นั่งองค์นี้ และมีห้องประทับของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรราชชายา อยู่ในพระที่นั่งองค์นี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับศาลท้าวหิรันยพนาสูรเป็นศาลสำคัญในเขตพระราชวังพญาไท ตามประวัติกล่าวว่ารัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหลวงหล่อรูปท้าวหิรันยพนาสูรด้วยทองสำริด เมื่อปี 2465สวมชฎา (เทริด) แบบโบราณ สวมผ้านุ่งคล้ายเทวรูปเขมร มีไม้เท้าเป็นเครื่องประดับยศ
ตามประวัติกล่าวว่า รัชกาลที่ 6 ทรงให้ช่างหล่อหลวงหล่อรูปท้าวหิรันยพนาสูรเมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ จำนวนทั้งหมด 8 องค์ ความสูงองค์ละ 20 เซนติเมตร องค์แรกประดิษฐานอยู่ข้างพระที่นั่งในห้องพระบรรทม ปัจจุบันถูกเชิญไปประดิษฐานในวังรื่นฤดี ส่วนองค์ที่สองอัญเชิญไปไว้ที่หน้าหม้อรถยนต์พระที่นั่ง ปัจจุบันอัญเชิญไว้บนหิ้งบูชา หมวดรถยนต์หลวง องค์ที่สามอัญเชิญไปไว้ที่กรมมหาดเล็กหลวง ปัจจุบันอยู่ที่พระที่นั่งราชกรัณยสภาในพระบรมมหาราชวัง และอีกองค์หนึ่งอยู่ที่บ้านของพระยาอนิรุทธเทวา อดีตอธิบดีกรมมหาดเล็กหลวงในรัชกาลที่ 6
ครั้งหน้าหากคุณเข้าไปในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ขอให้คุณแวะไปเยี่ยมชมพระที่นั่งในเขตพระราชวังพญาไท และชมความงดงามของสิ่งต่างๆ ในเขตพระที่นั่งพระราชวังพญาไท แล้วคุณจะได้ประจักษ์ว่าพระราชวังพญาไทมีความงดงาม และได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของพระราชวังแห่งนี้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี