ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘นาครกฤตาคม’  วรรณกรรมชวาโบราณมรดกความจำโลก

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘นาครกฤตาคม’ วรรณกรรมชวาโบราณมรดกความจำโลก

วันอาทิตย์ ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.

โบโรบูไดร์

หลังจากที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรได้จัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องอาคารของศูนย์ฯ ใหม่เพื่อให้สามารถใช้เป็นเวทีของการ “เรียนรู้อยู่ร่วมกัน” ตามบทบาทหน้าที่แล้ว เมื่อวันที่ ๓๑พฤษภาคม ที่ผ่านมา นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ผู้อำนวยการศูนย์ฯได้เปิดห้องประชุมสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “จากนาครกฤตาคมและปาราราตอน สู่นูษานตระ : อินโดนีเซียกับการหวนหาอดีตอันรุ่งโรจน์ “ก่อนที่จะมีการจัดงานสำคัญข้างหน้า คือ การประชุมวิชาการทางมานุษยวิทยา“มานุษยวิทยา’๖๕ เรื่อง “Emerging Methodologies-วิธีวิทยาทะลุกรอบ” ในวันที่ ๒๕-๒๗กรกฎาคมนี้ ประเด็นสำคัญของการเสวนาที่จัดขึ้นในวันนี้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง “ประวัติศาสตร์กับการเมือง เรื่องชื่อประเทศ และนามเมืองหลวงอันเป็นมรดกจากสมัยจักรวรรดินิยม” โดยดร.เตช บุนนาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และการเสวนาทางวิชาการ : โดยวิทยากรคนสำคัญ คือ ดร.ตรงใจ หุตางกูรนายสุนิติ จุฑามาศ และนางสาวกัญญานาฏ ศิริปัญญาผู้ร่วมกันแปลวรรณกรรมชวาโบราณ เพื่อศึกษาเชื่อมรอยต่อประวัติศาสตร์และสืบค้นเรื่องราวจากวรรณกรรมที่ยังไม่มีการแปลความเป็นไทย ก่อนที่จะมีการสร้าง “นูษานตระ” เมืองหลวงใหม่ขึ้นพร้อมกันเวทีวิชาการนี้ยังได้สาธิตดนตรี“กาเมลันชวา” ของวงดนตรีการาวิตันประสานมิตรโดย ผศ.ดร.สุรศักดิ์ จำนงค์สาร จากสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์ไทยและเอเชีย คณะศิลปกรรมศาสตร์มศว ประสานมิตร โดยนำเพลงชวา ที่ใช้รับเสด็จรัชกาลที่ ๗ มาบรรเลงปูทางให้เห็นการผสมผสานในวัฒนธรรมชวาด้วย  สำหรับความสำคัญวรรณกรรมโบราณของชวาเรื่อง “นาครกฤตาคมหรือ เทศวรรณา” เรื่องนี้ เป็นงานเก่าที่เขียนเมื่อค.ศ.๑๓๖๕ (พ.ศ.๑๙๐๘) แต่เพิ่งถูกค้นพบต้นฉบับในหอสมุดหลวงเมื่อ ค.ศ.๑๘๙๔ (พ.ศ.๒๔๓๗) แม้ว่าจะมีการแปลเป็นภาษาบาหลี อังกฤษ ดัตช์ อินโดนีเซีย แล้วก็ตามสำหรับภาษาไทย ยังไม่มีให้อ่านศึกษากัน วรรณกรรมเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจถึงการเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชของอินโดนีเซียมากซึ่งมีการกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของมัชปาหิตและการควบคุมเส้นทางการค้าแถบคาบสมุทรสุมาตราและซุนดาแต่เพียงผู้เดียวในช่วงศตวรรษที่ ๑๔ ถือว่าการเขียนประวัติศาสตร์ของ เอ็มปู ปรปัญจะ นั้นเป็นหนทางการพัฒนาประวัติศาสตร์ของตนเองขึ้นใหม่และเป็นมรดกส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ ได้ใช้แนวคิดการเขียนประวัติศาสตร์ตามอย่างเพื่อ สะท้อนภาพประวัติศาสตร์อินโดนีเซียให้ชัดเจนกว่าประวัติศาสตร์อินโดนีเซียที่ชาวดัตช์ได้เขียนขึ้นไว้  

อาณาจักรมัชปาหิตโบราณ


วรรณกรรมนี้ได้รับการยกย่องเป็นมรดกความทรงจำของโลกในปี ค.ศ.๒๐๐๘ แม้ว่าสยามหรืออยุธยา จะได้รู้จัก ชวา บาหลี หรือปัตตาเวียก็เป็นเรื่องภายหลังที่มาจากเรื่อง อิเหนา หรือ ดาหลัง ในบทละคร ส่วนวรรณกรรมชวาโบราณอย่างเรื่อง นาครกฤตาคม ของ เอ็มปู ปรปัญจะก็ยากนักแล้วที่จะรู้เพราะเป็นภาษาบาหลี  จึงทำให้เป็นที่สนใจใคร่รู้แบบต้องรอคอยความอุตสาหะการแปลของคณะนี้เป็นแรมปี เช่นเดียวกับเรื่องปาราราตอน ที่เขียนถึง เคน อังร๊อก ขึ้นครองเป็นราชาและสถาปนาสิงหส่าหรีขึ้นใน ค.ศ.๑๒๒๒ และเรื่องราวของมัชปาหิต ฉบับคัดลอกนี้ระบุปี ค.ศ. ๑๖๑๓ (พ.ศ.๒๑๕๙) ดังนั้น วรรณกรรมชวาโบราณทั้งสองเรื่องนี้จะเห็นร่องรอยการค้าโบราณจากคาบสมุทรสุมาตราของ อาณาจักรมัชปาหิต ซึ่งเป็นอาณาจักรชวาตะวันออก มีอำนาจอยู่ระหว่าง ค.ศ.๑๒๙๓-๑๕๒๗ ส่วนกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งมัชปาหิต คือ ฮะยัม วูรุค (Hayam Wuruk) นั้นครองราชย์ ในช่วง ค.ศ.๑๓๕๐-๑๓๘๙ นับเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของอาณาจักรแห่งนี้ ซึ่งสามารถขยายอำนาจไปทั่วแหลมมลายูตอนใต้ บอร์เนียว สุมาตรา บาหลี และฟิลิปปินส์ จนทำให้อาณาจักรต่างๆ ของชวานั้นแข่งขันการค้าเครื่องเทศในเส้นทางทะเลบนเส้นทางสายไหม แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ผลิตเครื่องเทศรายใหญ่ แต่อาณาจักรเหล่านี้ก็สามารถกักตุนเครื่องเทศได้โดยการซื้อขายกับข้าว โดยชวานั้นเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่ทำให้มัชปาหิตนั้น ถูกมองว่าเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นทั้งแหล่งเกษตรกรรมในการปลูกข้าวและมีอำนาจทางทะเลเดินทางค้าขายกับประเทศต่างๆ ถึงลังกาสุกะหรือปาตานีด้วย งานนี้ต้องให้กำลังใจกับการเรียนรู้เรื่องมนุษยชาติที่จะสร้างความเข้าใจให้ถึงกันในอาเซียน

คณะที่ปรึกษา
คณะที่ปรึกษา
คณะวิทยากร
คณะวิทยากร
ดนตรีกาเมลันชวา จาก มศว ประสานมิตร
ดนตรีกาเมลันชวา จาก มศว ประสานมิตร
นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์
นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์
ดร.เตช บุนนาค
ดร.เตช บุนนาค
สุนิติ จุฑามาศ
สุนิติ จุฑามาศ
กัญญานาฏ ศิริปัญญา
กัญญานาฏ ศิริปัญญา
ดร.ตรงใจ หุตางกูร
ดร.ตรงใจ หุตางกูร
เอกสารร่าง-ปาราราตอน
เอกสารร่าง-ปาราราตอน
เอกสารร่าง-นาครกฤตาคม-เทศวรรณา
เอกสารร่าง-นาครกฤตาคม-เทศวรรณา
แผนที่มัชปาหิต
แผนที่มัชปาหิต

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top