ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศ มีรายงานว่าสุนัขสามารถติดโควิด-19 ซึ่งรายงานดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่หลายๆ ครอบครัวที่มีสุนัขอาศัยอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน ที่ผ่านมา ทีมวิจัยของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พบว่า ประเทศไทยมีการพบสุนัขติดโควิด-19 เป็นจำนวน 3 ตัว ในจำนวนสุนัขทั้งหมดที่ได้รับการยืนยันว่าติดโควิด-19นั้น มีสุนัขเพียง 1 ตัวเท่านั้นที่แสดงอาการอ่อนๆ เนื่องจากสุนัขตัวนั้นมีการรักษามะเร็งด้วยวิธีคีโมบำบัด ทำให้ภูมิคุ้มกันของน้องต่ำลง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โควิด-19 โรคทางภูมิคุ้มกัน โรคไต โรคตับ โรคต่อมไร้ท่อ เป็นต้น
ดังนั้น มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจ มาร์สเพ็ทแคร์ ประเทศอังกฤษ เจ้าของตราสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของโลก PEDIGREE®จึงได้เชิญ น.สพ.ชัยยศ ธารรัตนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาไขข้อข้องใจและให้ความรู้เรื่องการดูแลรักษาสุนัขในกรณีที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 และวิธีการป้องกันเบื้องต้นผ่านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของสุนัขผ่านอาหารการกิน
น.สพ.ชัยยศ ธารรัตนะ
น.สพ.ชัยยศ ธารรัตนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า การติดเชื้อโควิด-19 ในน้องหมานั้นมีเปอร์เซ็นต์สูงที่สารคัดหลั่งนั้นจะมาจากเจ้าของที่อยู่ใกล้ชิดกับน้อง อุ้มน้อง หรือเล่นกับน้อง แล้วเกิดไอหรือจามจนส่งสารคัดหลั่งไปถึงสัตว์เลี้ยงได้ จากน้องหมาทั้ง 3 ตัว ที่ได้รับตรวจพบว่ามีผลเป็นบวกนั้นล้วนได้รับเชื้อมาจากเจ้าของ แต่ในขณะเดียวกันโควิดก็ยังไม่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ จนถึงปัจจุบันทางทีมสัตวแพทย์ยังคงติดตามการติดเชื้อโควิดในสุนัขอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามว่ามีโอกาสที่เชื้อจะกลายพันธุ์หรือมีความรุนแรงในสัตว์เลี้ยงมากขึ้นหรือไม่”
สำหรับเจ้าของสุนัขที่ติดโควิด-19 นั้น น.สพ.ชัยยศ แนะนำว่า เจ้าของสุนัขควรแยกตนเองจากน้องหมา ในกรณีที่เลี้ยงสุนัขหลายๆ ตัว เจ้าของควรแยกน้องๆ ตัวอื่นออกจากกันด้วย เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีข้อระบุชัดเจนว่าเชื้อจะแพร่ไปยังสุนัขด้วยกันเองได้ไหม หรือแม้กระทั่งมาสู่คน ดังนั้น ผู้เลี้ยงหรือคนที่ดูแลน้องควรใช้อุปกรณ์แยกเฉพาะสำหรับสุนัขที่ป่วยรายนั้นๆ และในทางเดียวกันเจ้าของก็ควรใส่ใจในการดูแลสุขภาพทั้งในน้องหมาที่ติดเชื้อแล้ว หรือยังไม่ได้ติดเชื้อก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ง่าย
“ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารเบื้องต้นที่มีโภชนาการที่ดีสมดุล เหมาะสม ส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงของเขา การจัดการสุขภาพทั่วไปทางด้านอื่นๆ อย่างการทำวัคซีนควบคุมเห็บหมัด หลีกเลี่ยงในการออกไปสัมผัสกับบริเวณที่มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อแบบนี้ เป็นต้น สำหรับผู้เลี้ยงที่ต้องการสังเกตว่าสุนัขมีอาการที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากมาก เพราะสุนัขส่วนใหญ่ไม่ได้มีอาการอะไรเลยที่บ่งบอกว่าเขามีความเสี่ยง
ทั้งนี้ หากสุนัขมีอาการไอหรือจาม ก็ต้องดูหรือไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจว่าอาการนั้นมีความเกี่ยวข้องกับโควิดจริงไหม หรือมันเป็นอาการของโรคอื่นๆ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจจากแบคทีเรียตัวอื่น เพื่อรับรักษาตามอาการหรือผลการวินิจฉัยโรคนั้นๆ และส่งเสริมสุขภาพที่ดีของเค้าก็เพียงพอ ในปัจจุบันเรายังไม่มียาที่แนะนำในการใช้การรักษาโควิด-19 ในสุนัขอย่างชัดเจนเหมือนกับที่เรามีแนะนำในคน”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสุนัขจะไม่มีอาการอะไรที่บ่งบอกว่าติดเชื้อโควิด-19 นั้น เจ้าของก็ยังคงต้องให้ความสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันในสุนัข ซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่สำคัญที่สุดในการลดโอกาสติดเชื้อต่างๆ รวมไปถึงเชื้อโควิด-19 และป่วยเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง และรักษาแล้วไม่หาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อ
“สิ่งที่เจ้าของสามารถทำได้ดีที่สุด คือการดูแลสุขภาพของสุนัขของเราให้มีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านการเลี้ยงดูที่ดีและอาหารที่ดี ซึ่งเป็นอาหารที่มีสัดส่วนทางโภชนาการที่ครบถ้วน สมดุล ถูกต้องและเหมาะสมกับสุนัขหรือสัตว์แต่ละขนาดและช่วงวัย เพราะอาหารเป็นปัจจัยเบื้องต้นที่สำคัญในการเจริญเติบโต สร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ลดการเจ็บป่วยและการดูแลที่ดีคือการป้องกันโรคอื่นๆผ่านการฉีดวัคซีน ควบคุมเห็บหมัด ป้องกันพยาธิหัวใจ พยาธิทางเดินอาหารอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง รวมทั้งระมัดระวังไลฟ์สไตล์ของเขาไม่ให้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือได้รับเห็บหมัด เป็นสิ่งพื้นฐานที่เจ้าของควรดูแลน้องเพื่อลดภาวะเสี่ยงเป็นโรคต่างๆ ซึ่งรวมการพาน้องไปตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ โดยสำหรับสุนัขที่อายุน้อยกว่า 6 ปี แนะนำให้ตรวจทุกปีอย่างน้อยปีละครั้ง หากอายุเกิน 6 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจทุก 6 เดือน การตรวจอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยให้เราสามารถตรวจเจอความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้ลดความรุนแรงของโรคและอาการดีขึ้นได้
สพ.ญ.วธุวรรณ พฤกษนันต์
“เจ้าของสุนัขหลายๆ ท่านอาจเลือกปรุงอาหารให้กับน้องๆ ด้วยตนเอง ซึ่งข้อดีของอาหารปรุงเอง ได้แก่ กลิ่นอาหารที่หอมและมีความน่ากิน แต่การให้ปรุงอาหารเองหรือ Home cooked ต้องอาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญสูงเนื่องจากสุนัขมีความต้องการทางโภชนาการที่ต่างจากคน หากไม่มีความรู้มากพอ อาจส่งผลให้สุนัขไม่ได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารที่เพียงพอ ครบถ้วน สมดุล การให้อาหารสำเร็จรูปจึงเป็นตัวเลือกง่ายที่สุด เพราะอาหารสำเร็จรูปเหล่านี้ได้ผ่านกระบวนการในการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยมาหมดแล้วว่ามันได้มีการผลิตอาหารตามสัดส่วนที่เหมาะสม ใช้วัตถุดิบที่เหมาะสมเพื่อช่วยทำให้สุนัขมีสุขภาพที่ดีตามความต้องการพื้นฐานของร่างกายอยู่แล้ว
นอกจากนั้น ในปัจจุบันอาหารสุนัขแต่ละชนิดก็ยังคงมีการเติมสารอาหารต่างๆ เข้าไปเพื่อหวังในประโยชน์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะเช่น มีการเติมสารอาหารเพื่อทำให้ผิวหนังแข็งแรงมีสุขภาพที่ดี การเติมสารอาหารบางชนิดที่ช่วยทำให้กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สุนัขมีภูมิคุ้มกันของร่างกายที่แข็งแรง ลดโอกาสในการเจ็บป่วยและเกิดโรคติดเชื้อได้ ทั้งนี้สำหรับสุนัขที่มีโรคประจำตัวก็ควรจะปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อโภชนาการที่ดีและเหมาะสมต่อไป”
ด้าน สพ.ญ.วธุวรรณ พฤกษนันต์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารวิชาการสัตว์เลี้ยง มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ กล่าวเสริมว่า การให้อาหารสุนัขตามหลักโภชนาการที่มีสารอาหารครบถ้วนและสมดุล ควรคำนึงถึงความต้องการของแต่ละตัวด้วยเนื่องจากสุนัขแต่ละตัวจะมีความต้องการของสารอาหารที่ต่างกันจากสายพันธุ์และช่วงวัย ด้วยเหตุนี้ สถาบันวิจัยโภชนาการและการดูแลสัตว์เลี้ยงชั้นนำวอลแธม (Waltham Research) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยภายใต้มาร์สเพ็ทแคร์คิดค้นสูตรอาหาร Pedigree® (เพดดิกรี) อาหารสุนัขชนิดแห้งและเปียก ที่มีคุณค่าทางโภชนาการอาหารที่เหมาะสมกับสุนัขในแต่ละวัย เพราะอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุล ไม่เพียงช่วยให้สุนัขนำสารอาหารเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ แต่ยังเสริมความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกัน การเจริญเติบโต และพอเหมาะกับพลังงานสำหรับกิจวัตรประจำวัน ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี