ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ
ปิดฉากลงแล้วสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำสตรี 2022 หรือ Global Summit of Women 2022 ภายใต้แนวคิด “Women Creating Opportunities In The New Reality” ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 22-25 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ และมีผู้นำจากหลายประเทศเข้าร่วม อาทิ นางวีโยซา ออสมานีประธานาธิบดีสาธารณรัฐคอซอวอ นางโว ทิ อันห์รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตลอดจนรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐบาล ผู้นำภาคธุรกิจที่เป็นสตรีจาก 4 ทวีป เยาวสตรีรุ่นใหม่ รวมทั้งสิ้น 650 คน จาก 52 ประเทศทั่วโลก พร้อมมอบรางวัลผู้นำหญิงยอดเยี่ยมระดับโลก (Global Women’s Leadership Awards)ในวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ให้แก่ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เจ้าของฉายา “หมอยายิปซี” อีกทั้ง การประชุมสุดยอดผู้นำสตรีระดับนานาชาติครั้งแรกที่จัดกิจกรรมลดการปล่อยคาร์บอน (carbon neutral)ซึ่งเป็นผลงานของคณะเจ้าภาพการจัดงานฝ่ายไทย หลังจากมีการจัดประชุมมาแล้ว 32 ปี
การประชุมดังกล่าวมี นางไอรีน นาทิวิแดดประธานคอร์ปอเรท วีเมน ไดเร็คเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (CWDI) เป็นประธานจัดการประชุม และมี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานคณะกรรมการจัดการประชุมฝ่ายไทย โดยมีพิธีลั่นระฆังเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ต้อนรับการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2022 (Global Summit of Women 2022) ที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 เพื่อแสดงพลังในการสนับสนุนความเท่าเทียมและบทบาทสตรีในภาคธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของตลาดทุนไทยเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
“การที่ผู้หญิงมาเป็นผู้ลั่นระฆังเพื่อเปิดงานที่ตลาดหลักทรัพย์ นับได้ว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากในโลกนี้ การที่เรามาจัดกิจกรรมที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงเป็นสัญญาณที่สื่อถึงความสำคัญของผู้หญิงที่เป็นผู้นำบริษัทในประเทศไทยซึ่งเศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว” นางไอรีนกล่าว ขณะที่ นางกอบกาญจน์ กล่าวเสริมว่า “ประเทศไทยยินดีที่ได้ต้อนรับกลุ่มผู้นำสตรีจากทั่วทุกมุมโลกที่มาร่วมการประชุมครั้งนี้และผู้หญิงไทยพร้อมจะเดินหน้าไปกับผู้หญิงจากประเทศต่างๆในการเป็นผู้นำของโลกยุคหลังโควิด-19”
ในพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาประธานในพิธี กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่จะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากบรรดาสุดยอดผู้นำสตรีทั่วโลก พร้อมทั้งชื่นชมการจัดงานแบบรักษ์โลกที่มีการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมในการประชุม สอดคล้องตามหลักการของไทย ซึ่งแสดงได้ว่าไทยพร้อมเดินหน้าร่วมรับผิดชอบต่อโลกใบเดียวนี้ไปพร้อมกับทุกคน เนื่องจากปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรวมทั้งยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจึงสำคัญ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ริเริ่ม เดินหน้า และดำเนินการพัฒนาประเทศในทุกมิติ รวมถึงการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ การสร้างพื้นที่ให้ผู้หญิงได้แสดงศักยภาพของตนเอง รวมถึงการขับเคลื่อนแผนพัฒนาสตรี เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้หญิงทุกกลุ่มทุกวัยโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้สังคมตระหนักว่า ความเสมอภาคเป็นเป้าหมายที่สังคมต้องการ
เนื่องจากการประชุมดังกล่าวจัดต่อเนื่องมาแล้ว 32 ปี จะเน้นการสนับสนุนความก้าวหน้าของผู้หญิงทั่วโลกในด้านเศรษฐกิจ จึงได้เชิญซีอีโอหรือผู้บริหารองค์กรชั้นนำที่เป็นผู้ชายมาร่วมการประชุมด้วย ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้มาร่วมบรรยายพิเศษเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคและโอกาสด้านการลงทุน ในหัวข้อ “การทำธุรกิจในประเทศไทย” รวมทั้งมีการเสวนาระดับรัฐมนตรี (Ministerial Roundtable) โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมการอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลและภาคเอกชนร่วมมือกันจัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่สตรี และยังมีการประชุม Vietnam-Thailand BtoB Forum ที่หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามและหอการค้าไทย ร่วมกันจัดขึ้นควบคู่ไปกับการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เป็นผู้นำสตรีในองค์กรเอกชนจาก 4 ทวีป และจัดการประชุมในขณะที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หัวข้อในการประชุมจึงเน้นการสนับสนุนการพัฒนาในเชิงเศรษฐกิจของสตรีที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เช่น การยกเลิกการจ้างงาน การปิดกิจการที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ เป็นต้น โดยเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็นในประเด็นที่ว่านโยบายภาครัฐหรือวิธีการดำเนินธุรกิจแบบใดจะประสบความสำเร็จในยุคที่เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงหลังจากเกิดโรคระบาด
นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ยังมีการมอบรางวัลผู้นำหญิงยอดเยี่ยมระดับโลก (Global Women’s Leadership Awards)ในวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ให้แก่ ดร.กฤษณาไกรสินธุ์ เจ้าของฉายา “หมอยายิปซี” ที่มีบทบาทโดดเด่นด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนและการต่อต้านเชื้อไวรัสทุกชนิด โดยเป็นผู้พัฒนายาต้านไวรัส HIV ราคาถูกที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อในหลายประเทศโดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการประชุมคือ จัดขึ้นในรูปแบบ Carbon Neutrality หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน นั่นคือ ปริมาณการปล่อยคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศจากกิจกรรมต่างๆ ต้องเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ถูกดูดซับกลับคืนผ่านป่าหรือวิธีการอื่นๆ ซึ่งทางคณะผู้จัดงานฝ่ายไทยได้รังสรรค์กิจกรรมต่างๆ ให้เกิดการปล่อยคาร์บอนน้อยที่สุด และได้รับคาร์บอนเครดิตจาก บริษัท มิตรผล จำกัด มาใส่กลับคืนให้การจัดงานนี้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่สอดรับกับวาระแห่งชาติโมเดลเศรษฐกิจ BCG ประกอบด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศไทย โดย ดร.จุฬารัตน์ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้นำนักวิจัยหญิงและผลงานวิจัยของ สวทช. เข้าร่วมงานด้วย
การประชุมดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่สตรีทั่วโลกที่เป็นผู้นำหรืออยู่ในภาคธุรกิจเท่านั้น ยังสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนสตรีรุ่นใหม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุม และ นางสาวปริณดา เตไชยา นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการออกแบบและนวัตกรรมดิจิทัล เอแบค เป็นหนึ่งใน 20 นิสิต-นักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือก
“เป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตที่ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ซึ่งไม่ใช่การเข้ามารับฟังปัญหาของผู้หญิงในด้านต่างๆ เท่านั้น แต่ได้จุดประกายความคิดและได้เรียนรู้แนวคิดที่จะก้าวหน้าทางธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะการมีโอกาสได้ฟังแนวคิดการทำธุรกิจจากซีอีโอ แจ็คกี้ หวาง ผู้จัดการ Googleประจำประเทศไทย รวมทั้งผู้บริหารหญิงจาก Amazonแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ระดับโลกซึ่งเป็นการเปิดโลกทัศน์ที่ไม่สามารถหาได้ในตำราเรียน และรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก” ปริณดา กล่าว
นอกจากภาคการประชุมแล้ว บรรดาผู้เข้าร่วมประชุมยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประเทศเจ้าภาพซึ่งมี นางชฎาทิพ จูตระกูล หนึ่งในคณะกรรมการจัดงานฝ่ายไทย จัดงานต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุมที่ไอคอนสยาม แลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยการแสดงระบำสายน้ำผสมแสง สีเสียง และมัลติมีเดีย ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันน่าตื่นตาตื่นใจ การแสดงการละเล่นพื้นบ้าน “ผีตาโขน” พร้อมเข้าเยี่ยมชมเมืองสุขสยาม เมืองสารพัดสุข สนุกแบบไทย รวมทั้งชมการสาธิตศิลปะหัตถกรรมไทยอันงดงาม วิจิตรตระการตา
การประชุมได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมี 2 ประเด็นสำคัญที่บรรลุผลสำเร็จเป็นครั้งแรก ณ การประชุมที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ได้แก่ เป็นการจัดการประชุมครั้งแรกในรอบ 32 ปีที่จัดกิจกรรมที่ลดการปล่อยคาร์บอน (carbon neutral)ซึ่งเป็นผลงานของคณะเจ้าภาพการจัดงานฝ่ายไทยและอีกประเด็นหนึ่ง คือการกำหนดหลักการกำกับกิจการที่ดี (Corporate Governance Code) ในเรื่องความหลากหลายทางเพศในองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทให้มีความชัดเจน ซึ่งประเด็นนี้ควรเป็นปัจจัยที่จำเป็นของหลักการธรรมาภิบาลขององค์กร โดยมีสองผู้นำสตรีเป็นผู้ผลักดันให้เกิดขึ้นได้แก่ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และนางไอรีน นาทิวิแดด ประธานการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรี
“สิ่งที่เรามาคุยด้วยกันในการประชุมครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยากลำบาก เพราะโลกของเรามีความท้าทายที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ทั้งโรคระบาด สงครามความขัดแย้ง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน รวมถึงการปล่อยคาร์บอนที่ไม่ถือว่าลดลงในปีนี้ การทำงานของเราต้องเผชิญหน้าสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าภาวะเงินเฟ้อรุนแรง โภคภัณฑ์ที่ราคาสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน เราไม่ได้มาพูดคุยกันถึงปัญหาเท่านั้น แต่เรามาหาทางออกร่วมกันในโลกความเป็นจริง
อีกทั้ง การเปลี่ยนแปลงที่เอื้อประโยชน์ต่อสตรีจะเป็นจริงได้เร็วขึ้นเมื่อเราได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นและกลยุทธ์ซึ่งกันและกันโดยไม่มีขอบเขตพรมแดนประเทศมากั้น และการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีที่ประเทศไทยถือเป็นเวทีสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว” นางไอรีน ประธานจัดการประชุม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี