การเยือนไต้หวันของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นอกจากจะทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ไม่พอใจ จนเปิดฉากซ้อมรบแบบจัดเต็มครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวัน ซึ่ง
น่าจะกระทบต่อชาวไต้หวันผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไปอีกนานแล้ว ยังอาจบ่อนทำลายความพยายามตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แสวงหาพันธมิตรในเอเชีย
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนใช้เวลาหลายเดือนในการสร้างยุทธศาสตร์ทางการทูตและเศรษฐกิจในเอเชีย เพื่อรับมือกับอำนาจของจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างพันธมิตร และแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ จะยังเกี่ยวข้องกับภูมิภาคเอเชียไปอีกนาน แต่การเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะกลายเป็นสิ่งที่บ่อนทำลายความพยายามเหล่านั้น และทำให้ชาติพันธมิตรต่างสงสัยถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมา
เพื่อรับรองสถานะพันธมิตร ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพไปเจรจาถึงแผนการติดอาวุธให้แก่ออสเตรเลีย ด้วยเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ และริเริ่มข้อตกลงด้านเศรษฐกิจระดับภูมิภาค แต่การเยือนไต้หวันของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ ถือเป็นการยั่วยุจีนโดยไม่จำเป็น และสร้างความสับสนให้แก่กลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่พยายามจะหาวิธีรับมือกับอำนาจทางการทหารและอิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีน
ขณะเดียวกัน พันธมิตรสหรัฐฯ ในเอเชียส่วนใหญ่ยังคงนิ่งเฉยกับเรื่องการเยือนไต้หวันของนางเพโลซี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พวกเขาน่าจะรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้าย
นอกจากนี้ นิวยอร์กไทมส์ ยังระบุด้วยว่า ความจริงเรื่องที่ว่า แนวทางการตอบโต้จีนกลายเป็นประเด็นร้อนที่เถียงกันในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงอำนาจที่เพิ่มขึ้นของจีน และการลังเลของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็เป็นสัญญาณที่แย่และส่งผลลบต่อสถานะด้านการทูตระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียด้วย
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ประธานาธิบดียุน ซอค-ยอล ของเกาหลีใต้เป็นผู้นำรัฐบาลเพียงคนเดียว ในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิก ที่นางเพโลซีเดินทางไปเยือน แต่ไม่ได้พบกับตัว ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงว่า นายยุนอยู่ระหว่างการลาพักร้อนซึ่งคาบเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางของนางเพโลซี แต่ทั้งสองได้หารือกันทางโทรศัพท์แทนแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การที่นายยุนเลี่ยงที่จะพบกับนางเพโลซี ซึ่งเป็นหนึ่งในนักการเมืองทรงอิทธิพลสุดของสหรัฐฯ เสี่ยงที่จะเพิ่มความเสียหายต่อตัวเขาและรัฐบาล เกาหลีใต้
ดู ย็อง คิม นักวิชาการในกรุงโซลกล่าวว่า ภาพที่ออกมาดูแย่มาก สามารถทำให้รัฐบาลสหรัฐฯตั้งคำถามอย่างจริงจังเกี่ยวกับศักยภาพของนายยุนในการเดินไปด้วยกัน ที่จะเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งของ “ทีมประชาธิปไตย”และศักยภาพในการยืนหยัดรับมือกับจีน
อย่างไรก็ตาม ยัง ซอง-ฮัม นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยยอนไซในกรุงโซลมองว่า แม้การที่นายยุนตลอดจนรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ไม่ได้ต้อนรับนางเพโลซีที่มาเยือน อาจถูกมองว่าเป็นการผิดมารยาททางการทูต แต่เขาเชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่ทำลายความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เพราะในช่วงเวลาที่นางเพโลซีสร้างเรื่องในไต้หวัน ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันอาจต้องการออกห่างจากความขัดแย้งทางการเมืองใดๆ โดยเฉพาะกับจีนแผ่นดินใหญ่ และอย่าลืมว่าอย่างไรเสีย นางเพโลซีก็เป็นเพียงผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองอันดับสามของสหรัฐฯ เรื่องนี้คงไม่กระทบนายยุนมากนัก หากไม่ได้มาต้อนรับเธอด้วยตนเอง
สำหรับพันธมิตรหลักๆ ของสหรัฐฯ ในเอเชีย ประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นโดยก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียก็เคยมีประเด็นกับจีน กรณีที่ออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบเรื่องแหล่งกำเนิดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจีนก็ตอบโต้ด้วยการออกคำสั่งห้ามนำเข้าไวน์ ล็อบสเตอร์ และถ่านหินจากออสเตรเลียทันที ในขณะที่เกาหลีใต้ ก็ยังคงถูกจีนคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกรณีที่อนุญาตให้สหรัฐฯ นำระบบป้องกันขีปนาวุธมาติดตั้งในประเทศเมื่อปี 2017 ส่วนญี่ปุ่นนั้นดูเหมือนจะเป็นประเทศพันธมิตรที่สนับสนุนกลยุทธ์ต่อต้านจีนของสหรัฐฯ มากที่สุด
แต่ทุกประเทศที่ว่ามา ต่างก็ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ต่างก็มีจีนเป็นคู่ค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งสิ้น
การไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวัน ที่ถูกจุดชนวนโดยการมาเยือนของนางเพโลซี จึงเป็นสิ่งเดียวที่ประเทศในเอเชียทำได้ในตอนนี้
เพราะปัญหาปากท้องของประชาชนในประเทศตนเอง น่าจะเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่า หากการค้าชายกับจีนได้รับผลกระทบ มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ที่อยู่ไกลแสนไกล (และกำลังลำบากเองอยู่ไม่น้อย) คงไม่สามารถมาช่วยเหลือเรื่องพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้พวกเขาได้มากนัก
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี