ภาพเขียนเครื่องแบบทหาร
ก่อนถึงวันพิพิธภัณฑ์ไทยในวันที่ ๑๙ กันยายนเดือนหน้านั้น การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ในพิพิธภัณฑ์หลายแห่งคงได้รับรู้วิถีใหม่ทั่วกันว่า พิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งได้สร้างความสำคัญของตนและเสนอเนื้อหาที่เป็นจุดเด่นเฉพาะเรื่องมากขึ้น การเปิดโลกทัศน์ใหม่ต่อยอดการเรียนรู้แบบวิถีใหม่ไปสู่แรงบันดาลใจใคร่ชมและนำไปสร้างอะไรๆ ได้มากขึ้นนั้น หนึ่งในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอที่ปรับรูปโฉมและลงทุนอย่างน่าสนใจยิ่งนั้น คือ พิพิธภัณฑ์ทหารในอนุสรณ์สถานแห่งชาติ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เดิมนั้นเริ่มต้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔ โดย พลเอกสายหยุด เกิดผลผู้บัญชาการทหารสูงสุดในยุคนั้นได้ดำริและมีโครงการจัดสร้าง “อนุสรณ์วีรชนแห่งชาติ” ตามอย่างนานาประเทศ เมื่อได้รับการอนุมัติก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานชื่อว่า “อนุสรณ์สถานแห่งชาติ” และเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์อนุสรณ์สถานแห่งชาติ เมื่อวันพุธที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๖ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดอนุสรณ์สถานแห่งชาติในวันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๗ จุดเด่นของอนุสรณ์สถานแห่งชาตินั้นคือสถานที่จารึกรายชื่อวีรชนผู้สละชีวิตในการปกป้องชาติและผืนแผ่นดิน ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๑ จนถึงปัจจุบัน และมีการจัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ทหารจากเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้น วันนี้อนุสรณ์สถานแห่งชาติได้จัดและสร้างสิ่งใหม่ตามโครงการพัฒนาและปรับปรุงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เพื่อจัดแสดงนิทรรศการให้มีความทันสมัยโดยเนื้อหายังคงมุ่งเน้นการสร้างจิตสำนึกให้คนรุ่นใหม่เกิดความรู้สึกรักและหวงแหนประเทศชาติและรำลึกถึงความเสียสละของบรรพชนผ่านเทคโนโลยีสื่อผสมแบบ Interactive เป็นการช่วยให้ผู้เข้าชมเกิดความสนใจเรียนรู้มากขึ้น ด้วยเห็นว่าคนไทยกว่าร้อยละ ๘๐ เป็นคนรุ่นใหม่และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกันส่วนมาก จึงใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสื่อสารข้อมูลประวัติศาสตร์ได้สะดวก รวดเร็ว และเข้าใจได้วันนี้เปิดบริการเข้าชมเฉพาะในส่วนของ “อาคารต้อนรับและอาคารภาพปริทัศน์เดิม” ตามแบบวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งภายในอาคารต้อนรับนั้นได้จัดห้องสมุดประวัติศาสตร์ทหาร และส่วนนิทรรศการที่มีภาพเขียนเครื่องแบบทหารของเก่าสิ่งของและประติมากรรมใช้สื่อความหมายว่า “คนไทยไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน ล้วนมีหน้าที่ปกป้องประเทศเช่นเดียวกัน” ดังนั้นเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ที่ผ่านมา พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เป็นประธานพิธีเปิดนิทรรศการ “ภูษณพาส ราชวัลลภ” แสดงผลงานเกี่ยวกับเครื่องแบบทหารสมัยรัชกาลที่ ๕-รัชกาลที่ ๗ โดยมีผู้แทนหน่วยงานและเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ เข้าร่วมงานและชมการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ใหม่
สำหรับชั้นบนของอาคารได้อัญเชิญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ประดิษฐาน ก่อนชมภาพเขียน ๓๖๐ องศา แบบ PANORAMA บนผนังโค้งภายในของอาคารภาพปริทัศน์ เป็นภาพเล่าเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันด้วยกลุ่มภาพ ๑๐ กลุ่ม โดย ศ.ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติและช่างศิลปะ ได้ร่วมกันออกแบบและจินตนาการตามยุคสมัยที่สำคัญเพื่อนำไปสู่การเรียนรู้เรื่องราวโดยพิสดารในอนาคตผู้สนใจสามารถเข้าชมฟรีได้ทุกวันตามเวลาที่กำหนด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี