ผ้าทอพื้นเมือง
ด้วยเหตุที่ไทยรู้จักทอผ้าใช้กันในหมู่บ้านมาช้านาน ด้วยวิธีการทอผ้าด้วยมือตามแบบดั้งเดิม ซึ่งนับวันจะสูญหายหากไร้ผู้สืบทอด ดังนั้นการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและพัฒนาขึ้นใหม่จนได้รับความนิยมจึงเป็นงานสำคัญในสังคม ดังปรากฏว่าเมื่อฟื้นฟูการทอผ้าแล้วได้มีการออกแบบใหม่และเพิ่มเทคนิคการทอผ้าจนมีความสวยงามด้วยลวดลายต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากอดีตตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้น ได้มีการสั่งทำผ้าตามลวดลายตัวอย่างจึงเรียกว่า “ผ้าลายอย่าง” ที่ส่วนใหญ่ใช้พิมพ์ลวดลายต่างๆ มาใช้แทนผ้าทอมือทั่วไป หลังจากมีการทำสนธิสัญญาบาวริงกับอังกฤษ ในปี พ.ศ. ๒๓๙๘ แล้ว ไทยได้สั่งผ้าจาก ต่างประเทศเข้ามาใช้มากขึ้น จนในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้สำรวจพบว่า มีการสั่งผ้าจากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมากขึ้นทุกปี ทำให้สิ้นเปลืองเงินตราปีละไม่น้อย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ริเริ่มฟื้นฟูการทอผ้าไหมขึ้นโดยส่งเสริมการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และฟื้นฟูการทอผ้าอย่างจริงจัง ใน พ.ศ. ๒๔๕๒ นั้นพระองค์ทรงโปรดฯให้สถาปนากรมช่างไหมขึ้น และโปรดฯ ให้ตั้งโรงเรียนช่างไหมที่วังสระปทุม ต่อมาได้ขยายสาขาไปยังนครราชสีมา และบุรีรัมย์ โดยทรงจ้างครูชาวญี่ปุ่นมาสอนชาวบ้าน ภายหลังการส่งเสริมการทอผ้าไหมแล้วปรากฏว่าได้ผลไม่คุ้มทุน จึงเลิกจ้างครูญี่ปุ่น ส่วนชาวบ้านนั้นก็หันมาทอผ้าตามวิธีพื้นบ้านแบบเดิม
ปลัดวธ.ชุดผ้าทอพื้นเมืองเป็นแบบอย่าง
หลังสุดการทอผ้าพื้นเมืองนั้นได้รับการส่งเสริมจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงสนพระราชหฤทัยผ้าทอพื้นเมืองเกือบทุกประเภทและส่งเสริมผ้าทอมาอย่างต่อเนื่องมากว่า ๒๐ ปี พระองค์ทรงตั้งมูลนิธิศิลปาชีพ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ขึ้น เพื่อส่งเสริมการทอผ้าของชาวบ้านในชนบท ทรงเป็นผู้นำในการใช้ผ้าพื้นเมืองของไทย ในชีวิตประจำวันจนถึงงานพระราชพิธีต่างๆ พระองค์ทรงได้นำผ้าไทยไปเผยแพร่ยังต่างประเทศ และทรงฟื้นฟูการทอตามลวดลายที่ชาวบ้านสืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยทรงเก็บตัวอย่างไว้เพื่ออนุรักษ์ ศึกษา และสืบทอดต่อไป ทำให้การทอผ้าได้รับความนิยมกลับคืนมา ในเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕องค์การยูเนสโกได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองโบโรพุทโธ และประกาศพระเกียรติคุณ ในฐานะ ที่ทรงเป็นผู้นำในการส่งเสริมศิลปหัตถกรรมการทอผ้าพื้นเมืองไทยเป็นตัวอย่างที่ดีของโลก จากเหตุที่ผ้าพื้นเมืองในภูมิภาคต่างๆ ได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟู พัฒนา ต่อยอดจนเป็นที่นิยมนำมาใช้สอยในชีวิตประจำวันกันอย่างแพร่หลาย ดังนั้นการผลิตผ้าพื้นเมืองในลักษณะอุตสาหกรรมโรงงาน โดยมีบริษัทจ้างช่างทอ ทำหน้าที่ทอผ้าด้วยมือ ตามลวดลายที่กำหนดให้ โรงงาน หรือบริษัทจัดเส้นไหม หรือเส้นด้าย ที่ย้อมสีเสร็จแล้วมาให้ทอ เพื่อควบคุมคุณภาพจึงเกิดขึ้นบางแห่งมีคนกลางรับซื้อผ้าจากช่างทออิสระ ซึ่งเป็นผู้ปั่นด้าย ย้อมสี และทอตามลวดลายที่ต้องการเองที่บ้าน แต่คนกลางเป็นผู้กำหนดราคา ตามคุณภาพ และลวดลายของผ้าที่ตลาดต้องการ บางจังหวัดมีกลุ่มแม่บ้านช่างทอผ้าที่รวมตัวกันทอผ้าเป็นอาชีพเสริม และนำออกขายในลักษณะสหกรณ์ เช่น กลุ่มทอผ้าของศิลปาชีพ เป็นการทอ เพื่อขายเป็นหลัก จึงได้มีการปรับปรุงพัฒนาสีสัน คุณภาพ และลวดลาย ให้เข้ากับรสนิยมของผู้บริโภคเป็นการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพสร้างรายได้สู่ชุมชน จังหวัดและประเทศอย่างยั่งยืนด้วยเหตุนี้กระทรวงวัฒนธรรมโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจึงได้ดำเนินการคัดเลือกและร่วมสร้างสรรค์ลายผ้าที่แสดงถึงอัตลักษณ์และสะท้อนมรดกภูมิปัญญาของแต่ละจังหวัดขึ้น เพื่อรวบรวมลายผ้าลายอัตลักษณ์ของ ๗๖ จังหวัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทยเพื่อยกระดับผ้าทอพื้นเมือง ฝีมือช่างทอท้องถิ่นพร้อมกับสร้างเครือข่ายดีไซเนอร์ ผู้ประกอบการ ได้ร่วมกันส่งเสริมผ้าทอฝีมือไทยไปสู่ตลาดนานาชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี