เซรามิก 8,000 ปี
ด้วยความสำคัญของงานเซรามิกและเส้นทางการค้าขายทางทะเล กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมกับจังหวัดซากะ ญี่ปุ่น จัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย : สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” ในพระที่นั่งศิวโมกขพิมานของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวาระมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา เป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงอนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมงานหัตถกรรมไทยจากวิถีวัฒนธรรมพื้นบ้านสู่งานศิลปกรรมระดับประเทศและสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นงานเซรามิก หรือเครื่องปั้นดินเผา และในโอกาสที่ฉลอง ๑๓๕ ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับญี่ปุ่นด้วย
งานเซรามิกหรือเครื่องปั้นดินเผานี้เป็นงานฝีมือของญี่ปุนที่เก่าแก่ที่สุด เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยโจมงเมื่อราว ๑๐,๕๐๐-๓๐๐ ก่อนศตวรรษ ทำให้ญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในประเพณีเซรามิกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกในช่วงที่มีเตาเผานั้นญี่ปุ่นได้ผลิตเครื่องเคลือบดินเผาเครื่องปั้นดินเผา หินเคลือบพอร์ซเลนและเครื่องปั้นสีขาวฟ้าที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ สำหรับการจัดงานครั้งนี้ญี่ปุ่นได้นำโบราณวัตถุเครื่องเคลือบเซรามิกจากพิพิธภัณฑสถานเซรามิกแห่งคิวชู ประเทศญี่ปุ่นมาร่วมจัดแสดงร่วมกับเครื่องปั้นดินเผาของไทยจากหลากหลายแหล่งที่เกิดขึ้นในสมัยสุโขทัยเพื่อให้ชาวไทยและผู้สนใจได้รับความรู้และเข้าใจถึงประวัติศาสตร์โบราณคดี และศิลปะของญี่ปุ่นโดยเฉพาะช่วงสมัยเอโดะ ซึ่งมีศิลปะแห่งคิวชูจำนวน ๘๒ รายการ ๙๗ ชิ้น ร่วมกับเครื่องปั้นดินเผาไทย สมัยสุโขทัย-อยุธยา ถึงรัตนโกสินทร์ จำนวน ๙๐ รายการ
อิทธิพล คุณปลื้ม รว.วัฒนธรรม ประธานเปิดนิทรรศการ
เซรามิกจากญี่ปุ่นนั้นเป็นหัตถศิลป์ที่สร้างชื่อเสียงและเป็นต้นทุนวัฒนธรรมที่สร้างเศรษฐกิจของจังหวัดซากะมายาวนาน โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผาจากเมืองอาริตะ จังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นที่นิยมมากเช่นเดียวกับเครื่องปั้นดินเผาสังคโลกของไทย ต่างเป็นสินค้าสำคัญที่มีการแลกเปลี่ยนและส่งออกทางเส้นทางทะเลระหว่างสองประเทศ และเป็นหลักฐานสำคัญผ่านโบราณวัตถุถึงความสัมพันธ์ต่อกันมายาวนาน โดยจัดแสดงนิทรรศการฯ ที่บอกเรื่องราวของภูมิปัญญาชาวแหลมทองและชาวอาทิตย์อุทัย จากดิน-น้ำ-ลม-ไฟ : คือ “ปั้นดินทรายฉาบไล้ด้วยน้ำ นำผึ่งลม โหมฟืนไฟในเตาเผา” บอกเล่าถึงภูมิปัญญาของการผลิตเครื่องปั้นดินเผาของญี่ปุ่นและของไทย อันสะท้อนภาพให้เรียนรู้ถึงเส้นทางเครื่องเคลือบทางทะเลในโลกการค้าขายโดยผ่านงานศิลปะและวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินเผาญี่ปุ่นและเครื่องสังคโลกของไทยที่ต่างได้เดินทางไกลไปยังโลกตะวันออกและตะวันตก
ซึ่งต่างมีแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างสรรค์ใหม่และสืบทอดวัฒนธรรมตลอดจนมีการพัฒนากระบวนการผลิตที่มีสีสันงดงามยิ่งขึ้นในปัจจุบันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินที่ต่างมีสำรับอาหารคาวหวานของตนอย่างน่าอัศจรรย์ ในชุดภาชนะใส่อาหารญี่ปุ่น-อาหารไทย ที่มีบทบาทสำคัญมาแต่อดีต พร้อมกับเปิดเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการบรรยายเรื่อง “เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย : สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” โดย ดร.ซูซูตะ ยูกิโอะผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานเซรามิกแห่งคิวชู ประเทศญี่ปุ่นและกิจกรรม “TRIP to SAGA” สัมผัสเสน่ห์การท่องเที่ยว อาหาร หัตถกรรมดั้งเดิมของจังหวัดซากะจากกิจกรรม เวิร์กช็อป (Workshop) ได้แก่ การลงสีเครื่องปั้นดินเผาอาริตะยากิ ทดลองลงสีบนจานอาริตะยากิ ซึ่งจานที่ลงสีแล้วจะนําไปเผาอบให้สีอยู่ตัวก่อนมอบให้ผู้ร่วมกิจกรรมและกิจกรรมทําเครื่องประดับจากเศษกระเบื้องที่เกิดจากกระบวนการเผาเครื่องปั้นดินเผาอาริตะยากิและการแสดงศิลปวัฒนธรรมโบราณที่สืบทอดกันมาของญี่ปุ่น
พิธีเปิดงานนิทรรศการเซรามิก
สำหรับกิจกรรมเวิร์กช็อป โดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร คือการขึ้นรูปชิ้นงานจานจัด๓ ครั้ง ครั้งละ ๔ รอบ ในวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๕วันที่ ๙ และ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ และการเขียนสีใต้เคลือบจัด ๓ ครั้ง ครั้งละ ๔ รอบ ในวันที่ ๖ และ ๒๐พฤศจิกายน ๒๕๖๕ และ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๕ สำหรับนิทรรศการนั้นจัดตั้งแต่วันที่ ๑๔ กันยายน ถึงวันที่๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๕ ทุกวันพุธถึงอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. หยุดวันจันทร์-อังคาร ซึ่งทุกคนสามารถเรียนรู้และสัมผัสกับกิจกรรมในมิติใหม่นี้ได้ด้วยตนเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี