ชุมชนต้นแบบบ้านภู
การตามรอยสยามค้นหาชุมชนต้นแบบตามกระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้ประกาศยกย่องชุมชนต้นแบบยลวิถีไว้ ๑๐ แห่ง ในปี ๒๕๖๕ นั้น อาทิตย์นี้ขอนำไปหาภูมิบ้านภูมิเมืองที่ ชุมชนบ้านภู อำเภอหนองสูงซึ่งอยู่บนเนินเขาที่รายล้อมด้วยภูสลับซับซ้อน ห่างจากตัวจังหวัดมุกดาหารประมาณ ๕๗ กิโลเมตร ด้วยชุมชนแห่งนี้มีพื้นเพวัฒนธรรมของชาว “ผู้ไท” ที่เล่าขานตามประวัติศาสตร์ชุมชนว่า ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ครั้งมีการยกทัพทำศึกสงครามกับเจ้าอนุวงศ์ อาณาจักรเวียงจันทน์นั้น ทำให้ชาวผู้ไทจำนวนหนึ่งถูกกวาดต้อนจากเมืองวังและคำอ้อคำเขียว แขวงสะหวันนะเขตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ข้ามแม่น้ำโขงมาลงหลักปักฐานตั้งบ้านเรือนอยู่ใน ๙ จังหวัด ของสยามในสกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย อำนาจเจริญ อุดรธานี ยโสธร และร้อยเอ็ดโดยกระจายตัวเป็นชุมชนผู้ไทเกือบ ๕๐๐ หมู่บ้าน และบ้านภูแห่งนี้เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่รวมตัวอยู่ใน อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เมื่อ พ.ศ.๒๓๘๗ และเป็นหมู่บ้านที่ยังรักษาต้นทุนทางวัฒนธรรมของตนไว้ให้เห็น จึงทำให้ได้เห็นผู้หญิงเกล้าผมยาวเป็นมวยสูงตั้งตรง ใช้ผ้ามนหรือแพรมนสี่เหลี่ยมเล็กๆ ผูกมวยผมไว้ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสวยงาม ที่ผู้หญิงผู้ไทใส่ผ้าซิ่นตีนต่อมีชายขอบแถบแดง ทอเป็นหมี่สาดย้อมครามจนเกือบเป็นสีดำ มีลวดลายหมี่ปลา หมี่ตุ้ม หมี่กระจัง หมี่ข้อแทรกลายขั้น ตัวเสื้อติดกระดุมธรรมดา กระดุมเงินหรือเงินเหรียญเก่า มี “ผ้าจ่อง” เป็นผ้าห่มผืนเล็กไว้ห่มกันหนาว หรือคลุมไหล่ทับเสื้อที่ปล่อยแขนเป็นสามส่วนอยู่ ส่วนผู้ชายใส่เสื้อผ้าผ่ากลางอก นุ่งโสร่ง หรือกางเกงม่อฮ่อม เอวคาดผ้าขาวม้าและพันผ้าที่ศรีษะ อันเป็นการแต่งกายประจำพื้นถิ่นของชาวผู้ไท ชุมชนบ้านภูนี้มีบ้านเรือนปลูกอาศัยรวมตัวเป็นกลุ่มตามถนนคอนกรีต ๕ สาย ที่แยกซอยเป็นตาข่ายเชื่อมโยงให้ติดต่อกันได้สะดวกสบายถัดจากเนินที่ตั้งหมู่บ้านนั้นเป็นพื้นที่ราบลุ่มเชิงภูที่มีลำห้วยกระเบียนเป็นแม่น้ำสายสำคัญสำหรับใช้น้ำทำนาและทำการเกษตรปลูกผืชผักสวนครัวโดยทำนาข้าวเหนียวสำหรับเก็บไว้กิน ส่วนนาข้าวเจ้านั้นทำเพื่อส่งขาย ชาวผู้ไทแห่งนี้เป็นกลุ่มชนมีวิถีชีวิตเรียบง่าย มีความขยันหมั่นเพียร รู้จักอดออม เอื้ออารี มีลักษณะเด่นด้านถักทอผ้า ที่มีเอกลักษณ์ของชุมชน และเป็นสินค้าหัตถกรรมจากวัฒนธรรมจนเป็นรายได้ จากการท่องเที่ยวบ้านภูที่ยึดมั่นในการ “อนุรักษ์วัฒนธรรม สัมผัสวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ จัดการโดยชุมชนคนบ้านเฮา”ซึ่งต้องชื่นชมกับกระบวนจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ร่วมมือกันสร้างความสัมพันธ์และโครงสร้างกรรมการหมู่บ้านที่มาแบ่งหน้าที่จัดการ ๖ ฝ่าย คือ ฝ่ายแม่ครัว ฝ่ายปฏิคม ฝ่ายการเงินและบัญชีฝ่ายดนตรี ฝ่ายการแสดง และฝ่ายบริหารจัดการ ที่นำพาให้ชุมชนของชาวผู้ไทแห่งนี้ได้รับการประกาศยกย่องอยู่หลายโครงการ ด้วยเหตุที่ปี พ.ศ.๒๕๔๗ นั้นได้มีคณะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากรได้เข้ามาทำการวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของชาวผู้ไทบ้านภู ซึ่งมีศิลปะโบสถ์วัดศรีนันทารามหนึ่งเดียวจากบรรพบุรุษ จนส่งผลให้ชาวบ้านตื่นตัวเห็นความสำคัญของประเพณี และวัฒนธรรมของตนเองที่ปฏิบัติกันมาสามารถนำมาปรับให้เป็นสินค้าท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้
ในพิธีเปิดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชนยลวิถี”เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมานี้ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร และคณะรับการต้อนรับจากชุมชนที่จัดขบวนแห่กลองตุ้ม พาสู่ลานวัฒนธรรมกลางที่หมู่บ้านใช้จัดกิจกรรมเรียนรู้เรื่องราวของชุมชน ผ่านการพิธีบายศรีสู่ขวัญแบบชาวผู้ไท ผ่านการแสดงศิลปะพื้นบ้าน ทำบุญใส่บาตรตอนเช้า รับประทานอาหารพาแลง และพักค้างคืนโฮมสเตย์ที่เจ้าบ้านจัดไว้ต้อนรับ ซึ่งมีประมาณ ๖๑ หลัง ซึ่งมีข้อห้ามการปฏิบัติตัวในเรื่อง ห้ามส่งเสียงดังหลัง ๒๒.๐๐-๐๕.๐๐ น.ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ห้ามทำในสิ่งที่เป็นการล่วงเกินผู้หญิงในหมู่บ้าน เช่น การจับมือ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมของชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตเชิงสร้างสรรค์ โดยไม่เล่นการพนัน ไม่ดื่มสุราและไม่เสพยาเสพติด ดังนั้นการได้พักที่ชุมชนแห่งนี้จึงนำพาไปยังแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่อยู่รอบหมู่บ้านได้แก่ ถ้ำจำปาภูผากูด เจดีย์ชัยมงคล วัดภูถ้ำโสม เจดีย์หลวงปู่เหล้าเขมปัตโต เป็นต้น เป็นความสุขของการเที่ยวชุมชนยลวิถีจากต้นทุนวัฒนธรรมและการนำสิ่งดีงามมาสร้างสรรค์ให้เกิดรายได้จนประทับใจไม่รู้ลืมได้เลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี