บวชนาคช้าง
ด้วยกลุ่มชาวพื้นเมือง “กูย” นั้นเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งมีความชำนาญเฉพาะตัวในการจับช้างและเลี้ยงช้างในบ้านจนกลายเป็นสมาชิกในครอบครัว ความผูกพันระหว่างคนกับช้างนี้ได้สร้างวิถีกูยอาเจียง หรือคนเลี้ยงช้าง สืบทอดต่อจากบรรพบุรุษมางยาวนานหลายชั่วอายุคน การตามรอยสยามค้นหาวิถีชีวิตกูยอาเจียงที่บ้านหนองบัว หมู่ที่ ๑๔ ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ จึงน่าสนใจด้วยเป็นชุมชนหนึ่งของชุมชนยลวิถี ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศยกย่องให้เป็น ชุมชนต้นแบบ๑๐ แห่ง ในปี ๒๕๖๕ นี้ ชุมชนบ้านหนองบัวแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหมู่บ้านช้างที่ช้างเลี้ยงมากที่สุดในไทยและในโลก ดังนั้น วิถีกลุ่มชาติพันธุ์กูยจึงเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของจังหวัดสุรินทร์
ด้วยคชศาสตร์ของชาวกูยนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นภูมิสถานของชาติพันธุ์กูยกลุ่มใหญ่จนวันที่ ๑๓ มีนาคมทุกปีนั้น ประกาศเป็น “วันกูยโลก” ชาวชุมชนแห่งนี้คือภูมิปัญญาแห่งศาสตร์และศิลป์ของคนเลี้ยงช้างที่เป็นวัฒนธรรมหนึ่งเดียวและร่วมกันพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่รู้จักในโลกของช้าง ด้วยการสืบต่อภาษาถิ่นของตน คือ ภาษากูยพื้นเมือง มาจากบรรพบุรุษกูยอาเจียงจนถึงวันนี้ ทำให้เป็นสีสันทางภาษาที่ใช้สื่อสารในชุมชนและให้ช้างเลี้ยงเข้าใจได้นี้ จึงเป็นเสน่ห์ที่เชิญชวนนักท่องเที่ยวนักภาษาศาสตร์พากันสนใจใคร่รู้ถึงวัฒนธรรมชาวกูยมากขึ้นจากการเครื่องแต่งกายชาวกูยคือผู้หญิง สวมเสื้อสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมลายลูกแก้ว ย้อมมะเกลือสีจากธรรมชาติ ขลิบตกแต่งเล็กน้อยด้วยผ้าสีแดงให้สวยงามตามรอยตะเข็บเสื้อ ในส่วนของผ้าถุงมีสีแดงเข้มตัดเย็บจากผ้าไหมต่อเชิง และมีผ้าสไบพาดบ่าสีแดง ส่วนผู้ชายนั้นสวม เสื้อสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมลายลูกแก้ว นุ่งผ้าไหมโสร่ง หรือ ผ้าไหมหางกระรอกนุ่งโจงกระเบน มีผ้าขาวม้าคาดเอวแล้ว มีพิธีเฉพาะคือรำมุดมัด (รำแกลมอ) หรือรำแม่มด
ขบวนช้างแห่กฐินเข้าวัด
จากพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในรักษาโรคจากการเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นการแก้บนที่อาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติที่คนชาวกูยเคารพนับถือ พิธีนี้มีเครื่องดนตรีพื้นเมือง เช่น กลอง ฆ้อง ซอ แคน เป็นต้นบรรเลงดนตรีสดในพิธี ส่วนการรำที่สนุกสนานนั้นเป็นการรำคล้องช้าง ที่เลียนแบบพฤติกรรม อิริยาบถต่างๆ ของช้าง มาเป็นท่ารำที่อ่อนช้อยและแข็งแกร่งเหมือนช้าง เช่น ท่าช้างเดิน ท่าช้างคว้ากิ่งไม้ ท่าช้างสลัดแมลงหรือสิ่งสกปรกออกจากตัว ท่าช้างคว้าหญ้า ท่าช้างเล่นน้ำและพ่นน้ำใส่ตัว ท่าช้างหยอกล้อและเกี้ยวพาราสี ท่าช้างเดินตั้งวง โดยมีหมอช้างหรือหมอประกำเข้ามาคล้องช้าง และรำบายศรีสู่ขวัญช้างใหม่ที่คล้องได้จากป่าเข้ามาในหมู่บ้าน เป็นต้นส่วนพิธีอันเนื่องกับช้างตามฮีตสิบสองนั้น ได้แก่ งานตักบาตรบนหลังช้างเดือนมกราคม งานจดทะเบียนสมรสและแต่งงานบนหลังช้าง (ซัตเต) เดือนกุมภาพันธ์ งานเทศกาลไหว้ครูปะกำช้างประจำปี บุญบารมีอาเจียง (ในงานบุญช้างไทย) เดือนมีนาคม งานสงกรานต์วิถีชาวกูยเดือนเมษายน งานบวชนาคช้างที่บวชผู้ชายในหมู่บ้านเดือนพฤษภาคม งานทอดกฐินช้าง โซ๊ด-ซั๊ด-เจียง (เส้นไหมผูกช้าง) เดือนตุลาคม พิธีกรรม “ปะชิ-ปะซะ” เป็นการบวชหมอช้าง เลื่อนลำดับตำแหน่งหมอช้างเดือนพฤศจิกายนและงานสวดมนต์ข้ามปีวิถีชาวกูยเดือนธันวาคม จากการที่เป็นท้องถิ่นธรรมชาติของผืนป่าทาม วังทะลุเป็นแหล่งน้ำที่ลำนำชี และแม่น้ำมูล ไหลมาพบกันจึงเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ และมีวัดป่าอาเจียงเป็นศาสนสถานที่อนุรักษ์วัฒนธรรมโบราณชาวกูยพื้นเมืองไว้ด้วย จึงทำให้เป็นชุมชนน่าเที่ยวยลวิถีจนรู้สึกได้ว่าอยาก จะบอก “ฮาย มัก ม็อง-ฉันรักคุณ” กับชาวกูยทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี