วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา สาวๆหลายคนคงได้รับช็อกโกแลตซึ่งมากคนไม่กล้ากิน บางคนยังรู้สึกผิดที่กิน เพราะกลัวอ้วน สิวขึ้น วันนี้มารู้จัก ช็อกโกแลตกันมากขึ้นค่ะ

ชนเผ่ามายา และแอชแทคในอเมริกากลางเป็นชนกลุ่มแรกที่นำเมล็ดต้นคาเคา (Cacao) ชงกิน เมื่อกว่าสองพันปีก่อน สเปนเป็นชาติยุโรปที่เดินทางไปอเมริกากลางและนำเอาวัฒนธรรมการปลูกและทำ ช็อกโกแลตจาก Cocao Bean ไปสู่ยุโรป ขั้นตอนการทำ ช็อกโกแลตแตกต่างกันในแต่ละประเทศ เบลเยียมได้ชื่อว่าผลิต ช็อกโกแลตได้ดีที่สุด ส่วนประกอบหลัก คือเมล็ดโกโก้เหลว(Cocao Liquor) ไขมันจากเมล็ดโกโก้(Cocao Butter) ที่ทำให้ ช็อกโกแลตดูวาวและน้ำตาลทรายป่น ที่เหลือเป็นการผสมนม Chocolate 3 ชนิดที่ควรรู้จักคือ

Dark Chocolate มีเนื้อโกโก้ 58% ถึง 99%

Milk Choclate มีเนื้อโกโก้ 38% เนื้อหวานกว่า คนนิยมกินกันทั่วไป

White Chocolate ไม่นับว่า เป็น ช็อกโกแลต เพราะไม่มีเนื้อโกโก้แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียวมีเพียงกลิ่นโกโก้และน้ำตาล

ช็อกโกแลตมักถูกกล่าวหาว่าทำให้เกิดสิวซึ่งไม่เป็นความจริง มีกาแฟแทรกเพียง นิดเดียวโดย 1.4 ออนซ์ มีกาแฟเพียง 6 มิลลิกรัม เท่ากับจำนวนกาแฟ ใน Decaf. การกิน ช็อกโกแลตถูกวิธี มีข้อดีต่อร่างกาย ดังนี้

1.สารฟลาวินอยด์ (Flavinoid) ในช็อกโกแลต เป็น Antioxidant กันคราบไขมันไม่ให้สะสมในผนังหลอดเลือด
หัวใจ 1 ใน 3 ของคนกิน Dark Chocolate ทุกวัน มีความเสี่ยงโรคหัวใจน้อยกว่าคนปกติ

2.ช่วยหลั่งสารเอนโดฟิน (Endorphin) ทำให้อารมณ์ดี ลดความเครียด และ มีประสิทธิภาพทางเพศ การกิน Dark Chocolate 40 กรัม (1-2 ชิ้นเล็ก) ทุกวันนาน 2 สัปดาห์ ทำให้ระดับฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียดลดลง

3.สารโพลี่ฟีนอล (Polyphenols) จะช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) และเพิ่ม ระดับไขมันดี (HDL)

4.กลิ่นของ ช็อกโกแลต จะช่วยเพิ่ม Theta Brain ซึ่งเป็นคลื่นสมองที่ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย

5.สารฟีนอลทำให้การไหลเวียนของโลหิตดี ป้องกันการอุดตันของลิ่มเลือด ช่วยการทำงานเยื่อบุผิวดีขึ้น ดูแก่ช้า

6.มีวิตามิน เอ ดี เค ธาตุเหล็ก ช่วยให้สายตา เลือด และกระดูกแข็งแรง

7.มหาวิทยาลัยเยลศึกษาในหญิงตั้งครรภ์ 2,567 คนพบว่าในกลุ่มหญิงครรภ์ปกติ (2,351 คน) กินช็อกโกแลตมากกว่า กลุ่มหญิงที่มีความดันโลหิตสูง (158 คน) และกลุ่มภาวะครรภ์เป็นพิษ (58 ราย)

การให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์เริ่มจากนักรบผู้พิชิตแห่งสเปน “มองเตชูมา” ที่มักดื่ม ช็อกโกแลตก่อนไปหาภริยาเพื่อกระตุ้นอารมณ์รัก กระจายไปทั่วโลกแม้กระทั่งซีกเอเซียแบบญี่ปุ่นซึ่งมีวัฒนธรรมให้ของขวัญของฝากอย่างแรงกล้า ถ้าคุณเป็นแพทย์ชายที่นั่นตกเย็นวันวาเลนไทน์จะนับกันว่าใครได้ช็อกโกแลตมากที่สุดจากพยาบาลและเพื่อนร่วมงาน อย่าหลงดีใจว่าคุณป๊อบนะเพราะเป็นช็อกโกแลตที่เขาจำใจให้ตามประเพณี “Giri Choco” บังคับให้กลายๆ ไม่ได้สื่อว่าชอบจริง (Obligation chocolate) ต้องแยกจาก “Honmei Choco” (True feeling chocolate) ซึ่งมักมีราคาแพงและพิถีพิถันกว่า ออกนอกวงไปเลย

สรุปว่า ถ้าอยากทรง(ไม่)แบด กินช็อกโกแลตอย่างมีสุขภาพดี ต้อง Dark Chocolate วันละ 40 กรัม (= 1-2 ชิ้นเล็ก) เท่านั้น จะได้ไม่มาแซดภายหลัง สวัสดีหลังวาเลนไทน์

ผศ. (พิเศษ) พญ.จุรีรัตน์ บวรวัฒนุวงศ์

อายุรแพทย์ โรงพยาบาลชลบุรี

นายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย