องค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศว่าหากมีเกินกว่า 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขณะที่ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ทุกวันนี้ถือว่าเข้าขั้นวิกฤต ด้วยปริมาณเกือบ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะบริเวณริมถนนหรือบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่นและรอบสถานที่ก่อสร้าง
ฝุ่นละออง PM2.5 สามารถถูกสูดเข้าลึกถึงทางเดินหายใจและปอด ก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบจมูกไอ จาม มีเสมหะ หอบหืด หัวใจวายเฉียบพลัน หลอดเลือดสมองตีบและที่อันตรายที่สุดอาจถึงขั้นเป็นมะเร็งปอด
อ.พญ.ภัทรวลัย สิรินารา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้แนะนำวิธีดูแลตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศ ดังนี้ 1.ใส่หน้ากากประเกทที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้เช่น หน้ากาก N95 ที่ได้มาตรฐาน 2.หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในบริเวณที่มีมลพิษอากาศสูง 3.งดการออกกำลังกายภายนอกตัวอาคาร เช่น งดวิ่งในสวนสาธารณะชั่วคราว ให้เปลี่ยนมาออกกำลังกายภายในตัวอาคารแทน 4.หมั่นตรวจตราไม่เปิดหน้าต่างในช่วงภาวะ PM2.5 สูง เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 จากภายนอกเข้ามาในตัวอาคาร 5.ช่วยกันงดการเผาไหม้ที่ “ไม่” สมบูรณ์ เช่น งดจุดเทียนในตัวอาคาร และนอกตัว อาคารงดการเผาในที่โล่ง งดใช้รถดีเซลที่ปล่อยควันดำ 6.กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ กลุ่มผู้สูงอายุและเด็ก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี