เตช บุนนาค ประธานในพิธี ถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์องค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย
ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยจัดงาน “วันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ประจำปี 2566” เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี องค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ เป็น “วันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย” เพื่อระลึกถึงและบำเพ็ญกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตที่บริจาคอวัยวะให้เป็นทานเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่รอการปลูกถ่ายอวัยวะให้ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง และให้ผู้ได้รับอวัยวะได้มีโอกาสแสดงความขอบคุณต่อผู้บริจาค รวมถึงขอบคุณบุคคลและองค์กรที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของศูนย์ฯ ในการนี้ได้รับเกียรติจาก เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธี เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ณ อาคารแพทยพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานในพิธี กล่าวเปิดงานว่า “เนื่องในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา แต่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ ก็ยังคงดำเนินงานด้วยความเข้มแข็ง เพื่อรับบริจาคอวัยวะจากผู้เสียชีวิตที่ญาติประสงค์อุทิศอวัยวะผ่านสภากาชาดไทย นำไปช่วยเหลือผู้รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะให้กลับมามีชีวิตใหม่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดระยะเวลา 29 ปีที่ผ่านมา ศูนย์รับบริจาคอวัยวะได้ดำเนินงานตามหลักวิชาการด้วยความเสมอภาค ความยุติธรรม ความโปร่งใส ตามคติทัศน์ของสภากาชาดไทย และหลักการกาชาดสากล โดยความร่วมมือของภาคีเครือข่าย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างมาตรฐานของระบบการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะของประเทศไทย ในโอกาสนี้ผมขอขอบคุณคณะกรรมการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ หน่วยงานทั้งภายในและภายนอกสภากาชาดไทยที่ได้สนับสนุนกิจการของศูนย์ฯ ให้สามารถเป็นหน่วยงานที่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างมีมาตรฐานทัดเทียมนานาประเทศ”
นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 29 ปี ศูนย์รับบริจาคอวัยวะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ทั้งด้านการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะจากประชาชนทั่วไป การรับบริจาคอวัยวะในโรงพยาบาลต่างๆ งานด้านการส่งเสริมประชาสัมพันธ์สู่สาธารณชน การวางกฎระเบียบต่างๆ ในการปฏิบัติงาน โดยยึดตามหลักวิชาการ เพื่อให้ได้รับอวัยวะที่มีคุณภาพและปลอดภัยด้วยความเสมอภาค ความยุติธรรมความโปร่งใส ด้วยความช่วยเหลือสนับสนุนจากคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ บุคคล และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้เข้าถึงบริการด้านการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะที่มีประสิทธิภาพและเท่าเทียม”
สำหรับผลการดำเนินงานของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ในปี 2565 มีผู้บริจาคอวัยวะจำนวน 303 ราย ได้รับอวัยวะไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้มากถึง 667 ราย และได้รับเนื้อเยื่อจำนวน 360 ชิ้น นับรวมตลอดระยะเวลา 29 ปี ศูนย์ฯ ได้นำอวัยวะบริจาคไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทั้งสิ้น 8,592 ราย และเนื้อเยื่อ รวม 9,626 ชิ้น ในด้านการรับแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ ในปี 2565 มีแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะจำนวน 105,743 ราย รวมตลอดระยะเวลา 29 ปีมีผู้แสดงความจำนงทั้งสิ้น 1,518,535 ราย
สมประสงค์ อยู่สุข พ่อของ คิม-สุริยา ลาปราบ ผู้บริจาคอวัยวะ กล่าวว่า “น้องคิมประสบอุบัติเหตุ เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าลูกอยู่ในภาวะสมองตาย ครอบครัวจึงได้ตัดสินใจให้น้องคิมได้บริจาคอวัยวะ การสูญเสียเป็นสิ่งที่เราไม่อาจทำใจยอมรับได้ในทันที แต่ถ้าการสูญเสียนั้นจะมีส่วนช่วยให้อีกหลายครอบครัวไม่ต้องสูญเสียก็เป็นสิ่งซึ่งผมเชื่อว่าลูกยินดีที่จะบริจาค ซึ่งการบริจาคอวัยวะนี้เป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายในชาตินี้ที่จะส่งผลให้ลูกไปอยู่ภพภูมิที่ดี ที่สำคัญคือการได้รับเกียรติบัตรเชิดชูความดีผู้บริจาคอวัยวะ โดย สมเด็จพระนางเจ้า
สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม นั้นผมถือว่าเป็นสิ่งที่ลูกได้สร้างความภาคภูมิใจที่สุดให้กับครอบครัวแล้วครับ”
ด้าน ณัฏฐ์ ลาภบุญอุดม ผู้ป่วยโรคหัวใจ ที่มีชีวิตอยู่บนความทุกข์ทรมานมานานนับสิบปีแต่เหมือนเกิดใหม่เมื่อได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ กล่าวว่า “การได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ ไม่ใช่ความโชคดีของผม แต่เป็นเพราะความมีน้ำใจ ความเมตตาของผู้บริจาคอวัยวะ และญาติของผู้เสียชีวิตที่ท่านได้ทำกุศลอันยิ่งใหญ่ มอบหัวใจดวงนี้มาให้ผม จากนี้ไปผมจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองอย่างดีที่สุด เพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริจาคอวัยวะทุกท่าน และขอสานต่อเจตนารมณ์จากการได้รับไปสู่การเป็นผู้ให้ด้วยการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ เมื่อวันที่ผมหมดเวลาจริงๆ สิ่งที่เหลืออยู่คืออวัยวะที่จะสามารถนำไปช่วยเหลือผู้อื่นให้มีชีวิตใหม่อีกครั้งเหมือนที่ผมเคยได้รับมา”
เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ได้จัดทำ“โครงการปลูกถ่ายกระดูกและเส้นเอ็นเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในวันที่12 สิงหาคม 2565” โดยให้บริการกระดูกและเส้นเอ็นโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ป่วย 90 รายถวายเป็นพระราชกุศล เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ไปจนกว่าจะครบจำนวนทั้งนี้ โรงพยาบาลที่สนใจนำกระดูกและเส้นเอ็นเพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พยาบาลคลังเนื้อเยื่อศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย โทร.02-2564045-6ต่อ 2508 หรือ 092-2479864
เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อ ได้ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “บริจาคอวัยวะ”, สายด่วนศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ 1666 และ www.organdonate.in.th, บริจาคผ่านการทำบัตรประชาชน ณ ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเขต เทศบาล และที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด สำนักงานเหล่ากาชาด กิ่งกาชาดทั่วประเทศ