วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
คุยกัน 7 วันหน : หมอกควันพิษจากไฟป่า  ไทย-อาเซียน ต้องผนึกกำลังแก้ปัญหา

คุยกัน 7 วันหน : หมอกควันพิษจากไฟป่า ไทย-อาเซียน ต้องผนึกกำลังแก้ปัญหา

วันอาทิตย์ ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2566, 06.15 น.
Tag : ไฟป่า หมอกควันพิษ คุยกัน 7 วันหน ไฟป่าประเทศเพื่อนบ้าน
  •  

ปัญหาฝุ่นที่ปกคลุมหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของไทยดูท่าจะกลายเป็นวาระแห่งชาติไปเสียแล้ว เพราะลำพังการแก้ไขปัญหาจากภาครัฐยังไม่เพียงพอที่จะรับมือและแก้ไขปัญหาได้โดยง่ายๆ หลักๆ มาจากการเผาป่าที่เกิดขึ้นทั้งในบ้านเราเองที่ภาครัฐไม่ได้บังคับใช้กฎหมายเข้มแข็งพอ อีกส่วนคือการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ส่งกลุ่มควันพิษข้ามพรมแดนมาสร้างปัญหาจนลุกลามเท่าทวีคูณ

แอร์อินเด็กซ์ ควอลิตี้ รายงานคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ เวลา 14.00 น. ของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(7 เม.ย.) ปรากฏว่า คุณภาพอากาศประเทศไทย เมียนมา และลาวเลวร้ายติดอันดับ 1-3 สะท้อนถึงความรุนแรงของปัญหาคุณภาพอากาศอันเนื่องมาจากไฟป่าที่รุนแรงใน 3 ประเทศขณะนี้


นั่นทำให้ไทยอยู่เฉยต่อไปไม่ได้ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสามฝ่ายระหว่างไทย กับนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว และ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย นายกรัฐมนตรีเมียนมา เรื่องการจัดการปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน ผ่านระบบวีดีโอ นายกรัฐมนตรีของไทย เสนอให้ทั้ง 3 ประเทศ กระชับความร่วมมือระหว่างกัน รวมถึงร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน ในการแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดนให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ทั้งการลดจุดความร้อน การผลักดันเข้าสู่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 ให้สั่งการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางดำเนินการด้านกฎหมายเพื่อควบคุมต้นตอของปัญหา

ด้านนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ระบุว่า เห็นด้วยที่ต้องมีความร่วมมือหาทางออกร่วมกัน โดยที่ลาวเห็นด้วยกับความร่วมมือในระดับอาเซียน และการเพิ่มการตระหนักรู้เพิ่มความเข้าใจให้ประชาชนเข้าใจถึงสาเหตุ และปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีเมียนมา กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเพิ่มความร่วมมือเพื่อควบคุม บริหารจัดการร่วมกัน เมียนมาจะดำเนินการอย่างเข้มแข็งขึ้นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคและเชื่อว่าความมุ่งมั่นร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดจะเป็นประโยชน์กับทุกประเทศในภูมิภาค

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสคณะทำงานภายใต้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ รายงานสถานการณ์ปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดนว่า เป็นผลจากสภาวะอากาศที่แห้งแล้งในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.ปีนี้ ทำให้มีจำนวนจุดความร้อนเพิ่มขึ้นจากการเผาในที่โล่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565ร้อยละ 93 และเกิดปัญหาหมอกควันข้ามแดน ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการอาเซียน แจ้งเตือนต่อระดับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นระดับสูงสุดในระดับ 3

ก่อนหน้านั้น นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยถึงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันทางภาคเหนือของไทย โดยในช่วงที่ผ่านมา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ได้ประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาหมอกควัน พร้อมสั่งการให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง แจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา และหารือกับ รมต.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมียนมา ถึงความกังวลของไทยในเรื่องการเผาป่า ซึ่งเมียนมาแสดงความพร้อมที่จะเร่งหาทางแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ไทยได้หยิบยกประเด็นปัญหาหมอกควันข้ามแดนระหว่างการพบหารือกับ เกา กิม ฮวนเลขาธิการอาเซียน โดยขอให้สนับสนุนการผลักดันความร่วมมือภายใต้ข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน และให้จัดการประชุมประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน ซึ่งเลขาธิการอาเซียนพร้อมสนับสนุน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวอีกว่า ทุกประเทศอาเซียนเป็นภาคีข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution: AATHP) ซึ่งเป็นกลไกป้องกัน ติดตามและตรวจสอบมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ตั้งแต่ปี 2003

การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส สำหรับคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาได้หารือถึงความร่วมมือด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ซึ่งอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ ได้กำหนดเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน 2 ด้าน คือ การจัดตั้งศูนย์ประสานงานด้านการควบคุมหมอกควันข้ามแดนของอาเซียนที่อินโดนีเซีย และการจัดทำแผนงานว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน เพื่อควบคุมมลพิษหมอกควันข้ามแดนด้วยวิธีปฏิบัติฉบับใหม่

จะว่าไป อินโดนีเซียเองก็เผชิญปัญหาหมอกควันพิษจากการเผาป่าแทบทุกปี ส่งกลุ่มควันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซียสิงคโปร์ รวมถึงภาคใต้ของไทยอยู่บ่อยครั้ง ที่รุนแรงสุดคงเป็นปี 2019 ที่ตรวจพบไฟป่าบนเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียวมากกว่า 3,600 จุด ส่งผลให้คุณภาพอากาศในหลายจังหวัดย่ำแย่ลง กระทบชีวิตผู้คนมากกว่า 23 ล้านคนสร้างปัญหาหมอกควันระดับภูมิภาค

นอกจากวิธีการเกิดไฟป่าตามธรรมชาติแล้ว การจุดไฟเผาเพื่อเตรียมที่ดินทำกิน เพื่อทำการเกษตรและปศุสัตว์ ซึ่งสามารถพบได้อย่างเเพร่หลายทั่วทั้งเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว เป็นสาเหตุนำมาซึ่งหมอกควันพิษ เป็นประจำแทบทุกปี กลายเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ที่ปัญหาไม่ได้หยุดอยู่แค่พรมแดนประเทศใดประเทศหนึ่ง

นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า หากยังไม่เร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันในย่านอาเซียนนี้โดยเร็วอาจส่งผลให้เด็กทารกกว่า 36,000 คนในอินโดนีเซีย มาเลเซียและสิงคโปร์เสียชีวิตภายในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า

โดย ดาโน โทนาลี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • คุยกัน 7 วันหน : จับตาพรรคขวาจัดฝรั่งเศส  จ่อกวาดคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วไป คุยกัน 7 วันหน : จับตาพรรคขวาจัดฝรั่งเศส จ่อกวาดคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วไป
  • คุยกัน 7 วันหน : พิธีฮัจญ์อันศักดิ์สิทธิ์  ลมหายใจที่สละได้เพื่อพระผู้เป็นเจ้า คุยกัน 7 วันหน : พิธีฮัจญ์อันศักดิ์สิทธิ์ ลมหายใจที่สละได้เพื่อพระผู้เป็นเจ้า
  • คุยกัน 7 วันหน : TASTIEN เบอร์เกอร์ดาวรุ่ง  คู่แข่ง ‘แมคโดนัลด์’ ในจีน คุยกัน 7 วันหน : TASTIEN เบอร์เกอร์ดาวรุ่ง คู่แข่ง ‘แมคโดนัลด์’ ในจีน
  • คุยกัน 7 วันหน : รู้จัก NVIDIA และ ‘เจนเซ่น หวง’  ซีอีโอเจ้าของฉายา ‘เทเลอร์ สวิฟต์ แห่งวงการเทคโนโลยี’ คุยกัน 7 วันหน : รู้จัก NVIDIA และ ‘เจนเซ่น หวง’ ซีอีโอเจ้าของฉายา ‘เทเลอร์ สวิฟต์ แห่งวงการเทคโนโลยี’
  • คุยกัน 7 วันหน : ทางเลือก-ทางรอด ‘โดนัลด์ ทรัมป์’  หลังถูกตัดสิน ‘ผิดจริง’ คดีประวัติศาสตร์ คุยกัน 7 วันหน : ทางเลือก-ทางรอด ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ หลังถูกตัดสิน ‘ผิดจริง’ คดีประวัติศาสตร์
  • คุยกัน 7 วันหน : ภาวะโลกร้อน  เสี่ยงทำเครื่องบินตกหลุมอากาศรุนแรง คุยกัน 7 วันหน : ภาวะโลกร้อน เสี่ยงทำเครื่องบินตกหลุมอากาศรุนแรง
  •  

Breaking News

'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.

'รมว.ยุติธรรม'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม

ตลาดสี่มุมเมืองจัดงานเอ็กซ์โป ขายทุเรียนเริ่มต้นพูละ 5 บาท แจกทุเรียนกว่า 200 ลูก

ตัวมัมพันธุ์ใหม่!!! ได้ทีกระทืบซ้ำ‘สายสีน้ำเงิน’ สอนมารยาททางการเมือง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved