ขบวนแห่ส่างลอง
ในวาระแห่งการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๖ นั้นกระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมการศาสนา ได้มีการจัดบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณีเพื่อเป็นต้นแบบทั้งในส่วนกลางที่วัดยานนาวาและส่วนภูมิภาคที่วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาวัดพิชโสภาราม จังหวัดอุบลราชธานี และวัดราชบุรณฯจังหวัดชุมพร เป็นต้น สำหรับประเพณีการบวชของชาวไทใหญ่ อันเป็นประเพณีบุญหนึ่งเดียวที่รู้จักกันดีคือ ประเพณีปอยส่างลอง ซึ่งเป็นพิธีบรรพชาสามเณร หรือบวชลูกแก้วนั้น ได้มีการจัดขึ้นสองครั้งเมื่อวันที่ ๓-๕ เมษายน ขึ้นที่วัดปางล้อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และวันที่ ๒๒-๒๕ เมษายน ๒๕๖๖ จัดขึ้นที่วัดในสอย ตำบลปางหมู จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สำหรับการจัดประเพณีปอยส่างลองครั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมกับจังหวัดเเม่ฮ่องสอน โดยมี พระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ดร.ยุพาทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชัยพล สุขเอี่ยมอธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ปกครองและพุทธศาสนิกชน รวมทั้งเด็กและเยาวชน ได้เข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้น ๕๐๐ คน ณ วัดในสอย จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมมีสามเณรบรรพชาตามประเพณีปอยส่างลองทั้งสองครั้งมีจำนวนกว่า ๑๐๐ ราย นับเป็นประเพณีบุญกุศลของชาวไต หรือไทใหญ่ ที่มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และร่วมกันสนับสนุนให้กุลบุตรอุทิศของตนบรรพชาในประเพณีปอยส่างลอง โดยถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ ซึ่งต่างได้ร่วมกันจัดหาสิ่งของเงินทองอันเป็นทรัพย์ภายนอกที่หามาได้สนับสนุนกุลบุตรนั้นให้มีโอกาสเรียนรู้ธรรมะจากการบรรพชา อันนำทางให้มีการบวชเรียนเป็นพระภิกษุสืบพระศาสนาต่อไปอีก ดังนั้น ประเพณีหนึ่งเดียวของชาวไทใหญ่นี้ จึงสร้างสีสันของงานจนเป็นประเพณีที่ไม่เหมือนใคร ปอยส่างลองนั้นมีพิธีการปลงผมเป็นส่างลอง หรือจางลอง
ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
การจัดขบวนแห่ส่างลองไปวัด การแห่เครื่องไทยธรรมและอัฐบริขารต่างๆ เรียกขบวนครัวหลู่ พิธีผูกข้อมือรับขวัญส่างลองจากญาติผู้ใหญ่ที่พากันร่วมกันผูกข้อมือให้พรแก่ส่างลอง และพิธีบรรพชาสามเณร (ข่ามสาง) ตามประเพณีของชาวไทใหญ่คำว่า ปอยส่างลอง เป็นภาษาเมียนมา ซึ่งให้ความว่า “ปอย” คือ เหตุการณ์หรือพิธี “ส่าง” หมายถึง สามเณร คำว่า “ลอง” มาจากคำว่า อลอง หมายถึงเชื้อสายกษัตริย์ ซึ่งมีความหมายว่าพิธีบรรพชาผู้มีเชื้อสายกษัตริย์เป็นสามเณร นั่นเอง
ประเพณีปอยส่างลองของชาวไทใหญ่จึงเป็นอัตลักษณ์ของแม่ฮ่องสอนโดยเฉพาะ ด้วยในเขตอำเภอเมือง อำเภอขุนยวม และอำเภอปาย นั้นมีกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่อยู่จึงทำให้ร่วมกันจัดประเพณีสืบทอดความศรัทธามาแต่ครั้งบรรพบุรุษ จากตำนานเล่าขานว่า เมื่อครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าได้เสด็จขึ้นไปโปรดพระมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อพระองค์จะเสด็จกลับลงมาเมืองมนุษย์นั้น ได้มีเทพสี่ตนเป็นเทวดา ๒ ตน นางฟ้า ๒ ตน ลงตามมาด้วยเพราะอยากเห็นบ้านเมืองมนุษย์มาก ด้วยเมืองมนุษย์นั้นได้จัดพิธีต้อนรับพระพุทธเจ้ากลับสู่โลก (วันเทโว)ดังนั้น เทพทั้งสี่จึงพากันแต่งกายสวยงามสวมชฎามงกุฎ ฟ้อนรำร่วมกันกับมนุษย์อย่างสนุกสนานเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์วันนั้นในงานปอยส่างลองจึงให้ส่างลองนั้นแต่งกายตามเทพทั้งสี่โดยนำชฎามาสวมใส่ให้แก่ผู้บวชอย่างสวยงามตามอย่างแล้วฟ้อนรำกันสนุกสนาน บางตำนานว่า เป็นเรื่องที่เจ้าชายอชาตศัตรูนำพระโอรสพร้อมด้วยพระสหาย๕๐๐ คน แต่งกายด้วยเครื่องนุ่งห่มอย่างกษัตริย์องค์น้อยเป็นส่างลอง จัดขบวนแห่ตามถนนกรุงราชคฤห์ เพื่อไปบรรพชาเป็นสามเณรกับพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกทั้งหลาย พระพุทธเจ้าได้ให้นามพระโอรสผู้บรรพชาว่า “จิตตะมเถรี” อีกตำนานว่า เป็นเรื่องเจ้าชายสิทธัตถะซึ่งเป็นรัชทายาทของกรุงกบิลพัสดุ์นั้นได้ทรงเครื่องกษัตริย์ก่อนจะออกผนวช ด้วยศรัทธาความเชื่อแห่งงานปอยส่างลองนี้ทำให้แม่ฮ่องสอน มีความโดดเด่นด้วยเป็นประเพณีที่เกิดขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีการพัฒนา รักษา สืบทอดมาจนเป็นงานบุญหนึ่งเดียวของประเทศมาถึงทุกวันนี้ และยังเผยแพร่ไปยังกลุ่มไทใหญ่ที่อยู่ในเมืองอื่นทางภาคเหนืออีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี