ในยุคศตวรรษที่ 21 สภาวะเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นและไม่ใช่ปัญหาที่ไกลตัวอีกต่อไป ปัญหาที่ได้ยินมาอย่างยาวนานคือ “สภาวะโลกร้อน” ซึ่งได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีข้อมูลจาก NOAA (National Centers for Environmental Information) เปิดเผยว่า เดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมานี้ เป็นเดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 7 ในสถิติ 174 ปี ที่ทาง NOAA ได้เก็บข้อมูลมา นอกจากนี้น้ำแข็งทะเลอาร์กติกและแอนตาร์กติก ก็ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ในสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นแบบนี้ สุขภาพร่างกายก็เป็นสิ่งหนึ่งที่โดนกระทบด้วยเช่นกันมีข้อมูลการศึกษาตีพิมพ์ในเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ใน American Journal of Kidney Disease (AJKD) พบว่าในสภาวะอากาศที่ร้อนมากๆ สัมพันธ์กับอัตราการเป็นโรคไตที่ต้องมาห้องฉุกเฉินมากขึ้น โดยโรคไตที่พบนั้น ได้แก่ ภาวะไตวายเฉียบพลัน การเป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ รวมไปถึงการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ภาวะไตวายฉับพลัน (Acute Kidney Injury; AKI) คือภาวะที่การกรองของไตทำงานลดลงอย่างฉับพลัน ซึ่งสาเหตุเกิดจากสภาวะอากาศร้อนจะทำให้ร่างกายมีเหงื่อออกมากขึ้น เกิดภาวะขาดน้ำในร่างกาย มีการกระตุ้นฮอร์โมนต่างๆ ในไม่ว่าจะเป็น วาโซเพรสซิน(vasopressin) ระบบเรนิน-แองจิโอเทนซิน (renin-angiotensin system; RAS) และระบบประสาทอัตโนมัติที่ไต (renal sympathetic nerve system) ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เลือดที่เข้ามาเลี้ยงที่ไตมีปริมาณลดลง ทำเกิดภาวะไตวายฉับพลันตามมา เช่นเดียวกันกับภาวะไตเสื่อมเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease; CKD) ในสภาวะอากาศร้อนจะทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ กระตุ้น vasopressin ให้เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่นอกจากนี้ยังเกิดการสร้างน้ำตาลฟรุกโตส (fructose) เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีความดันในไตเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ท่อไตบาดเจ็บ (tubularinjury) โดยกลไกนี้จะเกิดซ้ำๆ วนไปมา และในระยะยาวจะส่งผลให้เกิดภาวะไตเสื่อมเรื้อรังในที่สุด สำหรับนิ่วในทางเดินปัสสาวะนั้นพบอุบัติการณ์มากขึ้นในสภาวะอากาศร้อน สาเหตุมาจากปริมาณปัสสาวะที่ลดลง มีการตกตะกอนของแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) หรือกรดยูริก (uric acid) มากขึ้นในท่อไต ปัจจัยเสี่ยงที่พบได้คือ อาชีพที่ต้องทำงานกลางแจ้ง ดื่มน้ำน้อย และปริมาณปัสสาวะที่ออกน้อยลง เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าการเข้าใจถึงสภาวะอากาศร้อนส่งผลต่อไตอย่างไร ทำให้เราสามารถป้องกันได้อย่างตรงจุดมากขึ้น การป้องกันหลักคือ หลีกเลี่ยงการทำให้เกิดสภาวะร่างกายขาดน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างหนักกลางแจ้งในสภาวะอากาศที่ร้อน การดื่มน้ำชดเชยให้เพียงพอต่อปริมาณความต้องการของร่างกาย สวมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศให้สามารถระบายเหงื่อได้ดี และยิ่งในกลุ่มที่ร่างกายปรับตัวต่อสภาวะอากาศร้อนได้น้อยก็เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ เป็นต้น
แพทย์หญิงรุ่งทิวา กิจเพิ่มเกียรติ
สาขาอายุรศาสตร์เฉพาะทางโรคไต คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี