องค์ประกอบสำคัญของประเทศชาติก็คือ ทรัพยากรมนุษย์ การจัดการศึกษาถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีในสาขาต่างๆ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ก็ยังต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านการศึกษา
ข้อมูลจาก ศ.ศรียา นิยมธรรม ประธานกรรมการ มูลนิธิเพื่อการศึกษาพิเศษในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดเผยว่า ในยุคปัจจุบัน การจัดการศึกษาจะเน้นถึงความเท่าเทียมและทั่วถึง (Education for all) ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้นแผนการศึกษาชาติของประเทศไทยจึงระบุให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพและดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุขสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21
อย่างไรก็ดี มีผลการสำรวจการพัฒนาการศึกษาในช่วงปี 2552-2559 พบว่าประเทศไทยยังมีปัญหา ที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วนอีกหลายด้าน เช่น ด้านโอกาสทางการศึกษาที่มีต่อเด็กด้อยโอกาสและเด็กที่มีความต้องการพิเศษซึ่งยังได้รับบริการไม่ครบทุกคน ทั้งยังมีปัญหาการออกกลางคันจึงต้องดำเนินการสนับสนุนส่งเสริมเพื่อพัฒนาเด็กกลุ่มนี้ให้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นการยกระดับการศึกษาของคนไทยที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
การจัดการศึกษาพิเศษ ในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่บรรลุเป้าหมายเท่าที่ควร การพัฒนาเด็กที่มีความต้องการพิเศษซึ่งปัจจุบันพบว่ามีหลายกลุ่มนั้นต้องอาศัยบุคลากรหลายด้านที่เรียกกันว่าสหวิทยาการคือมีบุคลากรทางด้านการแพทย์ บุคลากรที่ทำงานข้างเคียงแพทย์เช่น นักกิจกรรมบำบัด นักกายภาพบำบัดฯลฯ ทางด้านการเรียนการสอนก็ต้องการครูการศึกษาพิเศษที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพัฒนาการและความต้องการพิเศษของเด็กแต่ละกลุ่มเพื่อดำเนินการสอนได้สอดคล้องกับความต้องการพิเศษ ของเด็กแต่ละคนและแต่ละประเภท นอกจากนี้ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากทางครอบครัว ที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ในบางโรงเรียนจึงมีครูผู้ช่วยครูประจำชั้นหรือครูพี่เลี้ยง เพิ่มเติมอีกด้วย
เนื่องจากการจัดการศึกษาพิเศษในยุคปัจจุบันมีทั้งในรูปแบบเรียนรวม เรียนร่วมและโรงเรียนเฉพาะความพิการ บทบาทของครูผู้สอนและครูพี่เลี้ยงในโรงเรียนจึงมีความสำคัญ ในหลายกรณีที่เด็กต้องเรียนรวมกับเด็กปกติจึงต้องอาศัยครูประกบซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการพิเศษเป็นรายบุคคลด้วย ในบางกรณีพ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็กไม่อาจทำหน้าที่ดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษได้อย่างราบรื่น ก็สามารถรับบริการจากครูประกบเพื่อช่วยพัฒนาเด็กโดยเฉพาะในช่วงการช่วยเหลือในระยะแรกเริ่มและในช่วงเปลี่ยนผ่าน อาชีพครูประกบ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ทางโรงเรียน และผู้ปกครองให้ความสำคัญ
ครูประกบ คือ นักวิชาชีพที่ทำหน้าที่ช่วยเด็กที่มีความต้องการพิเศษทางการศึกษา เช่น เด็กออทิสติก, เด็กสมาธิสั้น เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้, เด็กมีปัญหาด้านพฤติกรรม ฯลฯ โดยการช่วยเหลือแบบตัวต่อตัว
โดยปกติพ่อแม่ ผู้ปกครองจะเป็นผู้ที่เสาะหาครูซึ่งมาทำหน้าที่ช่วยให้ลูกสามารถเรียนในโรงเรียนได้ทันเพื่อน และไม่มีปัญหาหนักใจกับทางโรงเรียน ครูประกบจะต้องมีความอดทนในการติดต่อกับเด็ก การสื่อสารที่ดีเป็นทักษะสำคัญของการเป็นครูประกบ
บทบาทหน้าที่ของครูประกบ ครูประกบจะช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการพิเศษเพื่อให้เกิดการเรียนรู้เรียนได้ดีขึ้น โดยการสนับสนุนเด็กทางด้านวิชาการในโรงเรียน ช่วยให้เด็กมีความั่นใจและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมชั้นร่วมโรงเรียนหรืออีกนัยหนึ่งคือช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม ควบคู่ไปกับทักษะทางด้านวิชาการ
ครูประกบ จะช่วยจัดหาการสนับสนุนเพิ่มเติมในช่วงที่เด็กต้องทำกิจกรรมต่างๆในโรงเรียนทั้งทางด้านวิชาการและด้านจิตวิทยาเพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีที่สุดจากการสอนเสริมที่ครูประกบเพิ่มเติมให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษจะได้ประโยชน์จากครูประกบ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วเด็กกลุ่มนี้มักจะทำความเข้าใจจากการเรียนการสอนของครูประจำวิชาไม่ทันและมักจะมีปัญหาในเรื่องปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้น ครูประกบจะมีเทคนิควิธีที่จะช่ายเด็กที่มีความต้องการพิเศษเรียนรู้ที่จะใช้จุดเด่นหรือจุดอ่อนในการพัฒนาตนเองได้ดีขึ้น ครูประกบจะช่วยให้เด็กมีสมาธิหรือมุ่งความสนใจในสิ่งที่เรียนมากขึ้น กระตุ้นให้เด็กร่วมมือในการเรียนการสอนในชั้นเรียนเพิ่มขึ้น มีความรู้สึกที่ดีในการเรียนรู้สิ่งใหม่ด้วยการเปิดใจรับฟังและตอบสนองต่อการเรียนการสอนและการทำกิจกรรมกลุ่มกับเพื่อนๆ เพิ่มความรับผิดชอบในการปฎิบัติตามกฎของโรงเรียน เช่น การส่งการบ้านตรงตามเวลา ความรับผิดชอบในการจัดตารางสอนมารยาทในการเข้าสังคม เพื่อป้องกันไม่ให้มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เป็นต้น
ดังนั้นครูประกบจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในข้อจำกัดและจุดแข็งของเด็กครูประกบจะต้องมีความสามารถในการประเมินพฤติกรรมเด็กก่อนที่การประกบจะเริ่มขึ้น การประเมินจะช่วยให้สามารถวางแผนและตั้งเป้าหมายให้แก่เด็กได้ บทบาทสำคัญของครูประกบในเรื่องการช่วยเด็กให้มีพัฒนาทักษะทางสังคมนั้นครูจะต้องตระหนักถึงอารมณ์ของเด็ก บางครั้งเด็กอาจจะรู้สึกไม่สบายใจในการอยู่ในกลุ่ม ครูอาจเริ่มจากการให้เด็กร่วมกลุ่มเล็กก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนสมาชิกในกลุ่ม โดยมีเวลาให้เด็กได้อยู่เป็นส่วนตัวบ้าง ไม่ควรผลักเด็กเข้าไปอยู่ในกลุ่มใหญ่ทันที นอกจากนี้ควรสอนให้เด็กรู้ว่าอะไรควรไม่ควร เช่น การรอคอยการแลกเปลี่ยน การไม่พูดแทรกคนอื่น
เป้าหมายสำคัญอีกประการหนึ่งของการเป็นครูประกบคือช่วยให้เด็กเรียนรู้การสื่อสาร และการเรียนเพื่อบรรลุเป้าหมาย ครูประกบต้องมีความอดทนและรู้วิธีในการให้คำสั่งที่มีขั้นตอนกับเด็กหรืออาจมีรูปภาพ สัญลักษณ์ที่ช่วยให้ง่ายต่อความเข้าใจ รู้จักการรอคอยที่เหมาะสมเพื่อให้ได้คำตอบจากเด็ก ช่วยตอบคำถามเฉพาะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้เด็กเรียนรู้ที่จะอยู่ได้ด้วยตนเองมากที่สุด ไม่ใช่รอการช่วยเหลือตลอดเวลา ครูประกบต้องช่วยเด็กในการพัฒนาทักษะทางวิชาการแต่ไม่ควรช่วยทำให้หรือทำแทนเด็ก ควรช่วยให้เด็กเข้าใจมากกว่า ในบางกรณีครูประกบอาจต้องหาวิธีสอนเสริมให้เด็กตามความจำเป็น
สรุปว่า ขอบข่ายงานของครูประกบก็คือ การเป็นผู้ทำหน้าที่
l Para -educator ดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษเป็นรายบุคคล ด้วยการทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการดำเนินกิจกรรมการเรียน การสอนของผู้เรียน และครูประจำชั้นหรือประจำวิชาราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
l Remedial Tutor ถ้าผู้ปกครองประสงค์จะให้ช่วยติวเด็กหลังเลิกเรียนครูประกบก็สามารถทำหน้าที่เป็นครูสอนซ่อมเสริมที่บ้าน หรือที่โรงเรียน
l NGO Associate ครูประกบอาจทำงานร่วมกับองค์กรอิสระเพื่อช่วยเด็กด้อยโอกาสที่มีปัญหา
l Resource Teacher ครูประกบสามารถจัดประชุมวิชาการหรือ เป็นวิทยากร ในการฝึกครูหรือผู้สนใจเพื่อดูแลเด็กที่มี
ความต้องการพิเศษ
ขัอมูลจาก วรรณวนัช กันพรม ผู้จัดการ รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์เปิดเผยว่า รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ จัดตั้งขึ้นเพื่อจัดการศึกษาและฝึกอาชีพเด็กพิเศษซึ่งได้แก่เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญาและออทิสติก ทั้งนี้ รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ขอเชิญผู้มีจิตศรัทราร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพ “เทศน์มหาชาติพระเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ 1,000 พระคาถา” เพื่อการศึกษาสำหรับคนพิการ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 19 ก.ค.นี้ณ ศูนย์ประชุมมหาไถ่ พัทยา จ.ชลบุรี ร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญโดยตรงได้ที่ บัญชีกระแสรายวันธ.กรุงไทย ชื่อ รร.เด็กพิเศษพ่อเรย์ เลขที่บัญชี 591-6-00135-5 โดยนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สอบถาม โทร.081-7235949
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี