สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 12 และพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผลงานศิลปกรรม หัวข้อ “รักโลก” โดยมี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร,ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคณะผู้จัดงานเฝ้าฯ รับเสด็จ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กราบบังคมทูลรายงานว่าด้วยความตั้งใจที่จะส่งเสริมและสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทางศิลปะในแนวทางเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) ได้มีเวทีแสดงทักษะฝีมือในการสร้างสรรค์อันโดดเด่นสู่สายตาสาธารณชน บริษัทจึงได้ริเริ่มโครงการการประกวดศิลปกรรมช้างเผือกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2554 เพื่อสร้างโอกาสและกำลังใจให้ศิลปินที่ทำงานในแนวทางนี้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสง่างาม ปี 2566 นี้ นับเป็นการประกวดครั้งที่ 12 หัวข้อ “รักโลก” เพื่อให้ศิลปินนำแรงบันดาลใจจากแนวความคิดเกี่ยวกับความตระหนักถึงความสำคัญที่ประชากรทุกคนพึงมีความรับผิดชอบร่วมกันในการเอาใจใส่ต่อสังคมและสภาพแวดล้อมของตนเองให้เป็นสังคมที่ดีงามและน่าอยู่ในทุกบริบท อันจะส่งผลถึงภาพรวมของโลกอย่างยั่งยืนไปสร้างสรรค์ผลงานตามความถนัดของตน ปรากฏว่ามีศิลปินที่ทำงานศิลปะ ทั้งผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์และสื่อผสมเข้าร่วมประกวดมากถึง 270 ท่าน ผลงานรวม 327 ชิ้น แต่ละชิ้นล้วนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจสมดังเจตนาบริษัทฯ ตั้งไว้ทุกประการ
และเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่คุณหญิงวรรณาสิริวัฒนภักดี อดีตรองประธานกรรมการ บริษัท ผู้ซึ่งชื่นชอบงานศิลปะแนวเหมือนจริงเป็นชีวิตจิตใจและเป็นผู้ให้แรงบันดาลใจให้การสนับสนุนโครงการศิลปกรรมช้างเผือกอย่างแข็งขันตั้งแต่แรกเริ่มบริษัทจึงได้จัดตั้งรางวัล “คุณหญิงวรรณาสิริวัฒนภักดี” เป็นรางวัลพิเศษขึ้น โดยหวังว่ารางวัลนี้เป็นเครื่องเติมเต็มกำลังใจให้ศิลปินรุ่นใหม่ที่รักและตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานในแนวทางนี้เพิ่มขึ้นบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการประกวดศิลปกรรมช้างเผือกนี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีเพื่อให้ศิลปินผู้รักงานศิลปะในแนวทางนี้ได้มีเวทีสำหรับแสดงออกถึงความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่และจะมุ่งมั่นดำเนินการประกวดศิลปกรรมช้างเผือกเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมวงการศิลปะของประเทศไทยให้มีอนาคตอันสดใสสืบไป
ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 12 ได้แก่ “หนึ่งเดียวกัน” โดย จรัญ พานอ่อนตา รางวัลชนะเลิศได้แก่ “ลูกรักโลก” โดย บุญมี แสงขำ รางวัลคุณหญิงวรรณา ได้แก่ “โลกคือความหลากหลาย” โดย สุรพันธ์ ขวัญแสนสุข รางวัล CEO AWARD ได้แก่ “ด้วยมือเรา” โดย นารา วิบูลย์สันติพงศ์ รางวัลรองชนะเลิศ 5 รางวัล พิพัฒน์ จันทร์ทิพย์, เพชราพร โสภาพ, ลดากร พวงบุบผา, วีระพงศ์ แสนสมพร,อนันต์ยศ จันทร์นวล และรางวัลชมเชย 12 รางวัล
จรัญ พานอ่อนตา ผู้ชนะรางวัลช้างเผือก เผยว่า “ขอบคุณที่ให้โอกาสดีๆ กับศิลปินได้สานฝันของตัวเอง แนวความคิดของผลงานที่สื่อออกมาคือโลกเกิดจากสิ่งว่างเปล่า เกิดจากสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าอนุภาคมารวมกันและเป็นจักรวาล เมื่อถึงเวลาก็จะแตกสลายไป กลายเป็นที่ว่างอีกครั้งผลงานนี้บอกเล่าเรื่องราวโดยภาพตรงกลางจะมีลิงที่มีตัวเป็นคน บอกเล่าถึงจิตที่เป็นวานรไม่อยู่นิ่งซัดส่ายไปมา ซึ่งก็หมายถึงคน ส่วนอื่นๆ ภายในภาพจะมีพวกภาพสัตว์ต่างๆ เช่น ปลาวาฬ ลิง ช้าง
นก แมว ซึ่งอยู่ร่วมกันและเป็นหนึ่งเดียว โดยจะเห็นว่ามันค่อยๆ สลายปลิวออกไปตามแรงระเบิดหรือแรงความเสื่อมสลาย และจะกลับกลายเป็นสิ่งที่ว่างเปล่าเหมือนเดิม ใช้เทคนิคแนวร่วมสมัย งานใช้สีอะคริลิกบนผ้าใบ ใช้ระยะเวลา 2 เดือน ในการผลิตชิ้นงานนี้ครับ”
บุญมี แสงขำ ผู้ชนะรางวัลชนะเลิศ เผยว่า “ในส่วนของการตีความ พยายามดูแลธรรมชาติให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้จึงเกิดไอเดียว่าควรจะสอนลูกให้ลูกรู้จักคำว่ารักโลก ให้เขาได้เห็นคุณค่าของธรรมชาติและพยายามฟูมฟักให้รักธรรมชาติ ชิ้นงานเป็นเทคนิคภาพพิมพ์ เมซโซทินท์มีความละเอียดค่อนข้างสูง แต่ผลงานที่ผมทำค่อนข้างใหญ่ เป็นผลงานชิ้นแรกในชีวิตที่ผลิตใหญ่ขนาดนี้ ใช้เวลาทำเป็นระยะเวลา 1 ปี”
สุรพันธ์ ขวัญแสนสุข ผู้ชนะรางวัลคุณหญิงวรรณา เผยว่า “ผมตีความว่าโลกคือความหลากหลาย มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากและทุกสิ่งทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันได้รับผลกระทบซึ่งกันและกันไม่ว่าเราจะทำอะไรต่างๆ ย่อมเกิดผลกระทบต่อสิ่งอื่นเสมอ รูปทรงฟิกเกอร์ มันจะไม่ได้เขียนแบบ realistic เพียงแต่อาศัยโครงสร้างความเป็นจริงเข้ามาทำงาน สังเกตว่าในรายละเอียดงานของผมในฟิกเกอร์ต่างๆ รูปทรงต่างๆ ในงานจะเป็นรูปทรงของพืช ดอกไม้ ใบไม้กระจายอยู่ทั่ว ทุกรูปทรงมีที่มาความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันโดยธรรมชาติเป็นหลักและรูปทรงต่างๆ นี้ใช้เทคนิคการระบายสีอะคริลิกลงบนกระดานพลาสวูดที่มันไหลซึมเข้าหากัน หน่วยเล็กๆอย่างเม็ดสีมันจะเชื่อมโยงกระจายไปทั่วทั้งภาพ ทำให้เกิดเอกภาพภายในงานก็เลยเป็นผลงานครั้งนี้ครับ”
นารา วิบูลย์สันติพงศ์ ผู้ชนะรางวัล CEO AWARD เผยว่า “ดีใจมากที่ได้รับรางวัลนี้เพราะคือการเปิดโอกาสให้ชิ้นงานนี้ได้แสดงในหอศิลปฯ สำหรับชิ้นงานด้วยมือเรา ความหมายคือพวกเราทุกคนมีความสำคัญ เพราะมือของเราสามารถ
ทั้งสร้างและทำลายโลกของเราได้เป็นชิ้นงานศิลปะสื่อผสม ใช้วัสดุหลากหลายชนิดผสมใน 1 ชิ้นงาน ทั้งพวกดินชนิดต่างๆ เรซิ่นเหล็กและสีหลายอย่าง เลยเรียกว่าสื่อผสม เป็นรูปแบบชิ้นงานประติมากรรมที่สื่อให้เห็นถึงโลกของเราที่มีความสวยงาม อยากให้คนตระหนักว่าโลกของเราสำคัญต่อมนุษย์มากและช่วยกันรักษาโลกใบนี้ไว้ค่ะ”
นิทรรศการ “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 12”ภายใต้หัวข้อ “รักโลก” เปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันนี้-20 กรกฎาคม 2566 (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 10.00-19.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี