ฤดูฝนมาพร้อมๆ กับการระบาดของทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ และบี เราจะป้องกันได้อย่างไรและเมื่อไหร่ควรมาพบแพทย์
พญ.พวงรัตน์ ตั้งธิติกุลแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลนวเวช กล่าวถึง อาการของโรค สำหรับนำไปเฝ้าระวัง สังเกตตนเองและคนรอบข้าง เพื่อเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัย และการรักษาอย่างเหมาะสม บุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อและเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันอย่างเหมาะสม
โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่า (Influenza Virus) ในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้มีไข้ ไอ น้ำมูก คัดจมูก จาม เจ็บคอปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย โดยอาการคล้ายกับไข้หวัด แต่มักจะรุนแรงกว่าและหายช้ากว่า บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ จนทำให้มีอาการหอบเหนื่อยได้
การแพร่กระจายของเชื้อ ทางการหายใจ โดยการรับเชื้อที่ปนเปื้อนที่อยู่ในอากาศ จากการ ไอ จาม หรือพูดของผู้ที่ป่วยโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่นหรือพื้นที่ปิด เช่น โรงเรียน ออฟฟิศ การสัมผัสฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย จากมือที่สัมผัส แล้วใช้มือสัมผัสที่จมูกและปาก
บุคคลกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อและการเกิดภาวะแทรกซ้อน เด็กที่อายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ และผู้หญิงที่อยู่ในระยะ 2 สัปดาห์หลังคลอด ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง เช่นเบาหวาน หัวใจ ปอด เส้นเลือดสมองตีบโรคไตเรื้อรัง
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิด ได้แก่ 1.วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์2.วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด4 สายพันธุ์ ทั้งนี้ แนะนำฉีดวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ เนื่องจากสามารถครอบคลุมเชื้อไวรัสสายพันธุ์เอ ทั้ง H1N1 และ H3N2 และสายพันธุ์บี ทั้งตระกูล Victoria และ Yamagata
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์มีประโยชน์อย่างไร? 1.ลดติด : ป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ครอบคลุมสายพันธุ์มากขึ้น 2.ลดตังค์ : ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา ลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดการขาดงานหรือขาดเรียน 3.ลดตาย : ลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน และอัตราการเสียชีวิต
เนื่องจากเชื้อ“ไข้หวัดใหญ่” ที่ระบาดในแต่ละปีอาจเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากทุกคนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) จึงแนะนำวิธีในการป้องกัน ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่กับเด็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และผู้ใหญ่ทุกปี โดยปี 2566 ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้แนะนำปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ใหม่ เพื่อครอบคลุมเชื้อ an A/Victoria/4897/2022 (H1N1) pdm09-like virus หรือ an A/Wisconsin/67/2022 (H1N1) pdm09-like ที่คิดว่าจะระบาดในปีนี้
วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตลอดปี โดยช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ก่อนฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) และก่อนฤดูหนาว (เดือนตุลาคม) เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี