ท่ามกลางกระแสรักษ์โลก ที่ทุกภาคส่วนในสังคมกำลังมุ่งมั่นเดินหน้าไปสู่การพัฒนานวัตกรรมในการผลิตพลังงานสะอาดและต้นทุนต่ำ รวมถึงสิ่งประดิษฐ์ในการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน นำไปสู่การสร้าง “สังคมคาร์บอนต่ำ” มีหลายธุรกิจชั้นนำระดับโลกที่พัฒนานวัตกรรมดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริงแล้ว รวมถึงซีอีโอด้านพลังงานทางเลือกอย่าง เกียรติภูมิ สิริพันธุ์ ผู้บุกเบิกเริ่มต้นสร้างโครงการด้านพลังงานทางเลือก มากว่า 10 ปี และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตร “สมาร์ท ไฮบริดจ์ เพาเวอร์” นวัตกรรมผลิตพลังงานฟรี 24 ชั่วโมง ชิ้นแรกในประเทศไทยและชิ้นแรกของโลก ที่กำลังเดินหน้าจดสิทธิบัตรเพิ่มในสหรัฐอเมริกา และนำมาแบ่งปันแนวคิดพร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนมาร่วมก้าวไปพร้อมกันหลังนำร่องโครงการตัวอย่างการใช้นวัตกรรมดังกล่าวที่จังหวัดสมุทรปราการ และสกลนคร ในขณะนี้
เกียรติภูมิ สิริพันธุ์ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และในระดับอุดมศึกษาจบการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาโท Master Of Science In Management ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) เมื่อปีพ.ศ.2537 โดยสามารถสอบชิงทุนรัฐบาลไทย หรือ ทุน ก.พ.ได้ในปี พ.ศ.2535 และได้กลับมาทำงานใช้ทุนรัฐบาลที่ธนาคารกรุงไทย ในโครงการปรับเปลี่ยนระบบงานของธนาคาร (Re Engineering)
หลังจบปริญญาตรี เริ่มต้นทำงานที่บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยในตำแหน่งนักวิเคราะห์ และหลังจากจบปริญญาโทจากสถาบัน MIT ได้ทำงานในสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น Goldman Sachs ธนาคารซันวา/ Bank of Tokyo Mitsubishi UFJ ธนาคารกรุงเทพ และได้รับตำแหน่งสุดท้ายในสายการเงินการธนาคารคือ Senior Vice President & Head of Investment Banking ที่ บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หลังจากนั้น เกียรติภูมิ ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่การทำงานด้านพลังงานเต็มตัว โดยบุกเบิกเริ่มต้นสร้างโครงการด้านพลังงานทางเลือกหลายโครงการ รวมทั้งเคยเป็นประธานกรรมการ และที่ปรึกษาบริษัทด้านพลังงาน แสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล และ พลังงานทางเลือกอื่นๆ มานับไม่ถ้วน
“ผมเคยศึกษาโครงการไฟฟ้าจากพลังงานลม เพื่อหวังช่วยประเทศในการลดต้นทุนการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยใช้พลังงานจากธรรมชาติ เมื่อปี 2557 ซึ่งทำให้ผมได้รับรางวัล CEO Thailand Awards 2014 ผู้บริหารแห่งปี 2557ที่เป็นแบบอย่างการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศไทยโดยการลดต้นทุนการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยพลังงานแสงอาทิตย์ทดแทน ซึ่งถือว่าเป็นพลังงานสะอาดและปลอดภัยถึงแม้จะเป็นเรื่องใหม่ในช่วงเวลานั้น แต่ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายตัวเอง ผมไม่ได้มุ่งมั่นทำงานด้านพลังเพื่อหวังผลรางวัล ผมรู้สึกว่าถ้าเราไม่เริ่มต้นประเทศเราก็จะสูญเสียโอกาสในการใช้พลังงานทางเลือกที่สะอาด ปลอดภัย และต้นทุนต่ำ ซึ่งเราทุกคนสามารถร่วมมือกันได้”
ผลจากการทุ่มเททำงานด้านพลังงานทางเลือกทำให้ เกียรติภูมิสามารถคว้ารางวัลด้านพลังงานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รางวัล Smart Green Hero ด้านพลังงานลม เมื่อปีพ.ศ.2555 และรางวัล Smart Energy Hero ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อปีพ.ศ.2557 นอกจากจะเป็นรางวัลที่เขาภาคภูมิใจที่สุดแล้ว ยังทำให้เขามุ่งมั่นเดินหน้าสร้างนวัตกรรมด้านพลังงานทางเลือกให้กับคนไทยมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็คือ “สมาร์ท ไฮบริดจ์ เพาเวอร์” นวัตกรรมผลิตพลังงานฟรี 24 ชั่วโมงในไทย ซึ่งได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว และกำลังเดินหน้าขอยื่นจดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกา
“หลายคนคงจะรู้ว่าผมสวมหมวกหัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท ในการลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และมาพร้อมกับแนวคิดที่จะทำโครงการสมาร์ทซิตี้ในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้สมาร์ทเทคโนโลยีอันล้ำหน้า ประยุกต์กับการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวล มาใช้เป็นพลังงานทดแทน ช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งผมยังมีแนวทางจะนำทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลกมาช่วยเหลือประชาชนให้มีรายได้ และให้ประเทศมีการพัฒนา ส่งผลให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ
แม้ผมจะไม่ได้ไปต่อกับเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ผมก็ยังเดินหน้าโครงการสมาร์ทซิตี้ และ “สมาร์ท ไฮบริดจ์ เพาเวอร์” นวัตกรรมผลิตพลังงานฟรี 24 ชั่วโมง คือ สิ่งประดิษฐ์ชิ้นล่าสุดที่เกิดขึ้น ผมต้องการให้ประชาชน และเกษตรกร ได้ใช้พลังงานที่ไม่แพงจึงตั้งใจผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะผมได้ทุนจากรัฐบาลไปเรียนซึ่งทุนนั้นเป็นภาษีของประชาชน ถือเป็นบุญคุณที่ผมต้องตอบแทนแผ่นดิน ตั้งใจช่วยคนไทยให้ได้ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่มีในโลกนี้ และสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ถือว่าเป็นชิ้นแรกในประเทศไทยและชิ้นแรกของโลกเช่นกัน”
นวัตกรรม “สมาร์ท ไฮบริดจ์ เพาเวอร์” เป็นระบบผลิตไฟฟ้าอัจฉริยะ ผลิตพลังงานฟรี 24 ชั่วโมง ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์พลังงานแบตเตอรี่ พลังงานน้ำ มาผสมผสานเพื่อใช้ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าใช้เองได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียค่าเชื้อเพลิง
“หลักการทำงานของระบบนี้คือ ช่วงกลางวันเราผลิตไฟฟ้าโดยใช้ระบบโซลาร์เซลล์ และเราจะใช้แบตเตอรี่สูบน้ำขึ้นไปเก็บไว้บนแท็งก์น้ำ มาสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งหลักการนี้ สามารถนำมาใช้ภายในบ้าน ในสำนักงาน โรงงาน หรือ หอพัก ซึ่งมีการทดสอบการทำงานในสถาบันการศึกษาต่างๆ มาแล้วก่อนหน้านี้ ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมีโครงการนำร่องแห่งแรกที่ติดตั้งใช้งาน ที่หอพักในอำเภอสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนอีกแห่งหนึ่งที่ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร งบประมาณค่าใช้ในการดำเนินการและติดตั้งถือว่าไม่แพง สามารถคืนทุนภายใน 5 ปี ตัวอย่างเช่น การผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กที่สุด 1 กิโลวัตต์ใช้งบประมาณประมาณ 1.5 แสนบาท ซึ่งงบประมาณ จะขึ้นกับปริมาณไฟฟ้าที่ต้องการใช้นั่นเอง”
สำหรับแผนการที่วางไว้ เพื่อต้องการให้ประชาชนคนไทยใช้พลังงานในต้นทุนต่ำนั้น ขั้นแรก เรื่อง การใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด ต้นทุนต่ำ เพราะพลังงานเป็นต้นทุนของการผลิตสินค้าทุกอย่างเมื่อแก้ปัญหาพลังงานได้ ขั้นตอนที่ 2 คือ จัดโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อใช้ไฟฟ้าน้อย ก็จะใช้น้ำมันน้อยลง รวมทั้งแปลงรถยนต์ให้ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด การขนส่งก็จะประหยัด ขึ้นที่ 3 คือ การสร้างชุมชน ให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ครัวเรือนก็กินดีอยู่ดี ก็จะส่งผลให้เกิดการยกระดับประเทศมีรายได้มากขึ้น มลพิษทางสิ่งแวดล้อมก็จะได้รับการแก้ไขด้วย ซึ่งเป็นทิศทางของทุกประเทศในโลกที่ต้องการช่วยลดมลพิษ ทางสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยกันลดโลกร้อนนั่นเอง
“ที่สำคัญเมื่อรักษ์โลกแล้ว ต้องทำเงินได้ด้วย การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานพลังงานสะอาดและต้นทุนต่ำ นั้นแม้เป็นเรื่องยากแต่ก็เป็นโอกาสเช่นกัน แหล่งพลังงานสะอาดทั้งจากแสงแดดและลมขณะนี้ถือว่าต้นทุนต่ำมากๆ อยู่ที่ใครจะกล้าลงทุนหรือไม่ อีกทั้ง ยังเป็นโอกาสครั้งใหญ่ เพราะขณะนี้พลังงานสะอาดกำลังขับเคลื่อนการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และจะเป็นแบบนี้ต่อไปอีกใน 50 ปีข้างหน้า” ซีอีโอและฮีโร่ด้านพลังงานทางเลือก กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี