เขาแก้วที่ตั้งมณฑปพระพุทธบาท
วันออกพรรษาที่ผ่านมานั้น งานประเพณีที่รู้จักกันดี คืองานตักบาตรเทโว ซึ่งเกือบทุกวัดมักจัดกันในชื่อต่างๆ เช่น งานวันเทโว หรือวันพระเจ้าเปิดโลก งานตักบาตรดอกไม้ งานตักบาตรเขาวงกต งานตักบาตรพระร้อย แล้วแต่คิดตั้งกันให้มีจุดสนใจ ระยะมีการเติมชื่องานเป็นวันเทโวโรหนะ (โรหนะสูตร ที่กล่าวถึงเรื่องนี้) แต่ที่น่าสนใจมากกว่าคือ งานตักบาตรเทโวอุทัยธานี ด้วยมีการสร้างวัดเป็นเมืองในพุทธตำนาน คือ สังกัสนคร และถือเป็นวัดใจกลางแผ่นดินที่สืบต่อประเพณีแต่โบราณ ที่ถือเอายอดเขาเป็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และมีบันไดถอดยาวลงมาสู่ด้านล่างให้ชาวพุทธได้ใส่บาตรพระเสมือนหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ซึ่งพบว่าในสมัยทวารวดี มีการสร้างวัดโคกไม้เดนวัดเขาแก้วหัวแด่น (พยุหะ) วัดเขาดีสลัก สมัยสุโขทัย มีการสร้างวัดสะพานหิน วัดเขากบเมืองพระบาง สมัยอยุธยา มีการสร้างวัดพระพุทธบาท วัดพระพุทธฉาย สมัยรัตนโกสินทร์สร้างวัดสระเกศ และมีอีกหลายวัดทุกภูมิภาคมักนิยมสร้างวัดในทำนองเดียวกันคือมีบันไดทอดลงมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนใหญ่เป็นรอยพระพุทธบาท หรือเจดีย์ที่อยู่บนยอดเขา เช่นเดียวกับ วัดสังกัสรัตนคีรี ที่บ้านสะแกกรัง หมู่ ๓ ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานีแต่เดิมบนเขานี้พบว่ามีร่องรอยโบราณสถานอยู่แต่เดิม เมื่อ พระปลัดใจ เจ้าอาวาสวัดทุ่งแก้วได้ขึ้นสำรวจจึงพบว่าภูมิสถานที่แห่งนี้ควรสร้างมณฑปและวัดขึ้นที่เดิม โดยสร้างมณฑปชื่อว่า สิริมายากุฎาคาร และสร้างบันไดทอดยาวลงไปเชิงเขาซึ่งสร้างเป็น วัดสังกัสรัตนคีรี โดยกำหนดให้มีประตูสวรรค์แบ่งสวรรค์และโลกมนุษย์ และมีพระอุโบสถ์อยู่ไหล่เขาด้านล่าง มีวิหารน้อยอยู่เชิงบันไดทั้งสองข้าง ตามบันไดทั้งสองข้างสร้างหอตั้งระฆังเรียงรายขึ้นไปสู่ยอดเขา ซึ่งเดิมการตักบาตรเทโวนั้น พระครูเจี้ยม เจ้าคณะเมืองอุทัยธานีในอดีตได้สร้างมณฑปและบันไดขึ้นที่วัดเขาโคกโค ก่อนมีการย้ายเข้าไปตั้งบ้านสะแกกรังและสร้างวัดสังกัสรัตนคีรีขึ้น
เขาหน้าเมืองสังกัสสะในอินเดีย
ในพุทธกาลนั้น นครสังกัสสะถือเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปกฏิหาริย์แล้ว เสด็จขึ้นไป ณ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทรงจำพรรษาตลอด ๓ เดือน ทรงแสดงพระธรรมเทศนา อภิธรรม ๗ คัมภีร์ โปรดพุทธมารดาและเหล่าทวยเทพยดาทั้งหลาย พอถึงวันปวารณา เสด็จสู่เมืองมนุษย์ พระโมคคัลลานะ แสดงปาฏิหาริย์ เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ณ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ทูลถามพระองค์จะเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์ ณ ที่ใดพระองค์ตรัสถามว่า พระสารีบุตร จำพรรษาที่ใดเมื่อทราบว่าท่านทั้งสองจำพรรษาที่นครสังกัสสะพระพุทธองค์จึงเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ที่ใกล้ประตูเมืองสังกัสสะนคร ท่ามกลางพรหมที่แวดล้อมเป็นบริวารดังนั้น สังกัสสะนคร จึงเป็นสถานที่พระพุทธเสด็จลงสู่พื้นโลกมนุษย์ ซึ่งมีพุทธสาวกและเจ้าครองเมืองผู้ศรัทธาในพระองค์มารอรับเสด็จอยู่ที่สังกัสสะนครนั้นได้เกิดการถวาย สังฆทานขึ้นครั้งแรกของโลกดังนั้น สิ่งของพุทธบูชานั้นจึงถือเป็นมหาสังฆทานสำหรับพุทธสาวกและวัดต่างๆ ในโอกาสเดียวกัน จากบันทึกพระเถระ เรวตะ ที่มาพักนครสังกัสสะได้กล่าวว่าบริเวณสังกัสสะมีอาณาเขตถึง ๒,๐๐๐ ลี้ มีวัดทางพระพุทธศาสนา ๔ วัด มีพระสงฆ์ ๑,๐๐๐ รูป ทั้งหมดเป็นฝ่ายมหายาน นิกายสัมมิติยะ มีเทวาลัยอยู่๑๐ แห่ง และในเมืองนี้ยังมีนักบวชนอกพระพุทธศาสนาอยู่เป็นจำนวนมาก พลเมืองที่อยู่อาศัย มีกิริยานุ่มนวลพวกผู้ชายตั้งหน้าตั้งตาเล่าเรียน มีสังฆารามใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปวิจิตร ในบริเวณสังฆารามมีบันได ๓ ชั้น ตั้งเรียงกันเป็นที่หมายให้รู้ว่าพระบรมศาสดาเสด็จลงจากดาวดึงส์สวรรค์สู่โลกมนุษย์ที่แห่งนั้น เมื่อ พระเจ้าอโศกมหาราชเสด็จธรรมยาตราตรงบริเวณที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงสู่มนุษยโลกก็พบว่าบันไดทั้ง ๓ ก็ได้เหลือให้เห็นเพียง ๗ ขั้น พระเจ้าอโศกมหาราช ให้ทำการขุดดูลึกลงไปถึงบาดาลก็ยังไม่สิ้นสุด พระองค์จึงสร้างอุโบสถคลุมบันไดไว้พร้อมกับโปรด ฝังเสาหินศิลาจารึก และประดิษฐานสิงโตไว้บนยอดเสาให้เห็นความมหัศจรรย์ของสิงโตไว้ตามมุมต่างๆดังนั้น การเสด็จลงจากเทวโลกที่เมืองสังกัสสะนครในกาลที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้นจึงมีเนินเป็นเดียวกันที่เปิดโลกถึงพรหมโลก เมื่อทรงแลดูข้างล่างสถานที่นั้นก็มีเนินอันเดียวกัน จนถึงอเวจีมหานรก ทรงแลดูทิศใหญ่และทิศเฉียง จักรวาลหลายแสนก็มีเนินอันเดียวกันเทวดาก็เห็นพวกมนุษย์ แม้พวกมนุษย์ก็เห็นเทวดาสัตว์นรกก็เห็นมนุษย์และเทวดา ต่างก็เห็นกันเฉพาะหน้าทีเดียว ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงเปล่งฉัพพรรณรังสีขณะที่พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ รุ่งขึ้นวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ในวันเทโว..วันเสด็จเทวโลกของพระพุทธเจ้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี