ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะปิดสถานทูตและสถานกงสุลรวมกันนับสิบแห่งทั่วโลก ในจำนวนนี้รวมถึงในสเปน ฮ่องกงและอีกหลายประเทศในแอฟริกา ซึ่งจะส่งผลให้ภารกิจระหว่างประเทศของเกาหลีเหนือเกือบร้อยละ 25 ต้องยุติลงไปด้วย
บทวิเคราะห์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันจันทร์ (30 ต.ค.) สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของเกาหลีเหนือ ได้กล่าวอำลาผู้นำของแองโกลาและยูกันดาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เอกอัครราชทูตของเกาหลีเหนือที่ประจำการในทวีปแอฟริกาหลายประเทศ ได้เข้าพบกับผู้นำของแต่ละประเทศเพื่อกล่าวลา ก่อนที่สถานเอกอัครราชทูตจะปิดตัว ในขณะที่สื่อท้องถิ่นของทั้งสองประเทศก็รายงานว่า เกาหลีเหนือตัดสินใจปิดสถานทูตทั้งในแองโกลา และยูกันดา โดยทั้งสองประเทศ ต่างก็เริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 และได้รักษาความร่วมมือทางทหาร และร่วมกันหาแหล่งสกุลเงินต่างประเทศที่หายากภายใต้โครงการสร้างรูปปั้นต่างๆ
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่าเกาหลีเหนือยังเตรียมที่จะปิดสถานทูตในสเปน โดยจะมอบหมายให้คณะทูตประจำอิตาลีดูแลกิจการในแดนกระทิงดุด้วย หาใครหลายคนยังจำกันได้ สถานทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงมาดริด ของสเปน ก็ถือเป็นสถานทูตอีกหนึ่งแห่งที่หลายคนจับตาเมื่อมีการประกาศเรื่องนี้ เนื่องจากเมื่อปี 2019 เคยมีเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ประท้วงที่ต้องการโค่นล้ม คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือบุกเข้าไปในสถานทูตแล้วจับเจ้าหน้าที่มัดไว้ ก่อนจะขโมยคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ แล้วหลบหนีไป โดยทางเกาหลีเหนือออกมาประณามเหตุดังกล่าวว่าถือเป็นการละเมิดอธิปไตยร้ายแรง และถือเป็นเหตุก่อการร้าย รวมถึงกล่าวหาว่าสหรัฐฯ ไม่ยอมตรวจสอบเหตุดังกล่าวอย่างถี่ถ้วน รวมถึงปฏิเสธที่จะส่งผู้นำที่ก่อเหตุให้ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังมีแผนปิดสถานเอกอัครราชทูตอีกในหลายประเทศและดินแดน ได้แก่ สเปน ฮ่องกง และอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา ส่วนหนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุนของญี่ปุ่น รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า เกาหลีเหนือกำลังวางแผนที่จะปิดสถานทูตอย่างน้อย 10 แห่งทั่วโลก รวมแล้วมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 25 ของสถานทูตและหน่วยงานด้านการทูตทั่วโลก รวมถึงสถานกงสุลในฮ่องกง จากปัญหาทางเศรษฐกิจ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวงว่า เกาหลีเหนือกำลังดำเนินการเกี่ยวกับการถอนตัวและเปิดใหม่ของสถานทูตเพื่อให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมของโลกและนโยบายการทูตระดับชาติ โฆษกไม่ได้ระบุว่า แผนดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับสถานทูตกี่ประเทศ แต่กล่าวเพียงว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมตามปกติของประเทศเอกราชในการเปลี่ยนแปลงใหม่ และจัดการกับประสิทธิภาพทางการทูตเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ
อย่างไรก็ดี องค์กรที่เกาะติดสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ อย่างเว็บไซต์ NK Pro ระบุว่า การปิดสถานเอกอัครราชทูตของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ ถือเป็นการปูทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี ซึ่งจะกระทบต่อความร่วมมือทางการทูตและงานด้านมนุษยธรรมในเกาหลีเหนือรวมถึงความสามารถในการหารายได้จากธุรกิจสีเทา ทำให้มีโอกาสที่เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือจะอ่อนแอลงอีก
ด้านกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่า การเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นถึงสัญญาณว่าเกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับปัญหาการหารายได้จากต่างประเทศ เนื่องจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรที่มีขึ้นเพื่อควบคุมเงินทุนสำหรับนำไปใช้ในโครงการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ การที่เกาหลีเหนือมีปฏิสัมพันธ์กับนานาชาติน้อยลง ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงด้วย ส่งผลให้การรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตกับพันธมิตรดั้งเดิมเป็นเรื่องยาก
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือสถาปนาความสัมพันธ์กับ 159 ประเทศทั่วโลกแต่จำนวนสถานทูตเกาหลีในต่างประเทศกลับลดจำนวนลงนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1990 ปัจจุบัน มีสถานเอกอัครราชทูตสถานกงสุล และสำนักงานตัวแทนเกาหลีเหนือ เพียง 53 แห่งเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น โดยไทยและเกาหลีเหนือสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2501 จากการตรวจสอบในเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสถานะในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2564 เกาหลีเหนือก็ได้ประกาศปิดสถานทูตประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และคณะเจ้าหน้าที่ทูตเกาหลีเหนือต้องเดินทางกลับประเทศหลังเกาหลีเหนือกับมาเลเซีย ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกันเหตุเพราะเกาหลีเหนือไม่พอใจที่รัฐบาลมาเลเซียส่งตัวชายชาวเกาหลีเหนือให้แก่สหรัฐฯ ซึ่งถูกตั้งข้อหาฟอกเงินซึ่งก็ทำให้มาเลเซีย แสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่เกาหลีเหนือตัดสัมพันธ์ทางการทูต และสั่งปิดสถานทูตมาเลเซียในกรุงเปียงยาง เพื่อตอบโต้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และสั่งให้เจ้าหน้าที่การทูตของเกาหลีเหนือทั้งหมดรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเกาหลีเหนือที่อยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ให้ออกไปจากมาเลเซียภายใน 48 ชั่วโมง
หันมองไปรอบตัว เกาหลีเหนือเหลือเพียงมิตรสหายที่เป็นพี่ใหญ่ อย่างจีนและรัสเซียเท่านั้น ที่ยังเป็นหลังให้พิงและคอยสนับสนุนให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ในยามยาก
แต่หลังจากนี้ เกาหลีเหนือจะดำเนินนโยบายทางการทูตอย่างไร ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและสถานการณ์โลกที่กำลังบีบคั้น ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี